การทำตลาดของ Honda City RS ตัวท็อปที่มีค่าตัว 7.39 แสนบาททำให้กลายเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Mazda 2 1.5 XDL ดีเซลไปในทันที แม้ราคาจำหน่ายจะห่างกันถึง 6 หมื่นบาทก็ตาม

ด้วยชื่อชั้นแบรนด์ Honda ที่แข็งแกร่ง ทำให้ยอดขายสะสมของ City ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้หรือระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน นำโด่งอยู่ที่ 13,234 คัน ทิ้งห่างคู่แข่งสำคัญอย่าง Toyota Yaris ที่ทำได้ 7,402 คันและ Mazda 2 ซึ่งอยู่ที่ 7,128 คัน

เรามากางสเปกของ Mazda 2 1.5 XDL ซีดาน vs Honda City RS กันดูว่า ตัวเลขยอดขายนั้นสะท้อนจากคุณสมบัติของตัวรถจริงหรือไม่

มิติตัวถัง

Honda City 2020 RS มีความยาว 4,553 มม. กว้าง 1,748 มม. และสูง 1,467 มม. ระยะฐานล้อ 2,589 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 135 มม. น้ำหนักรถ 1,165 กก.

Mazda 2 โฉมซีดาน 1.5 XDL มีความยาว 4,340 มม. กว้าง 1,695 มม. สูง 1,470 มม. ระยะฐานล้อ 2,570 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 143 มม. น้ำหนักรถ 1,174 กก.

ป็นธรรมดาของรถที่เปิดตัวโมเดลเชนจ์ที่จะมีตัวถังใหญ่ขึ้น Honda City RS จึงมีมิติใหญ่กว่า Mazda 2 เกือบทุกมุมมองนั่นทำให้พื้นที่ในห้องโดยสารของ City มีความได้เปรียบในด้านความกว้างขวาง ยกเว้นแต่ความสูงที่ City เตี้ยกว่าและระยะห่างจากพื้นต่ำกว่าเล็กน้อย

ระบบขับเคลื่อน

Mazda 2 1.5 XDL วางเครื่องยนต์ Skyactiv-D ดีเซล 4 สูบ 1.5 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จ ผลิตพละกำลังสูงสุด 105 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 1,500 – 2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive แบบ 6 สปีด อัตราบริโภคน้ำมัน 26.3 กม.ต่อลิตร

Honda City RS ขับเคลื่อนเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ เทอร์โบ ขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO ผลิตพละกำลัง 122 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที มาพร้อมกับแรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตรที่ 2,000 – 4,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT อัตราบริโภคน้ำมัน 23.8 กม.ต่อลิตร

เรียกว่าดีเด่นกันคนละด้าน City RS มีแรงม้ามากที่สุด ส่วน Mazda 2 ดีเซลมีแรงบิดสูงที่สุดในระดับเดียวกัน อัตราบริโภคน้ำมัน Mazda 2 เหนือกว่าพอสมควร เรียกว่าสมรรถนะการขับขี่ไล่ตามกันมาชนิดไม่มีใครยอมใคร

แต่ถ้าเจาะลึกลงรายละเอียด การออกตัวของ Mazda 2 ดีเซลทำได้ดีกว่าด้วยแรงบิดที่สูงมาที่รอบต่ำ แต่การเร่งแซงของ City RS ในช่วงความเร็วปานกลางก็ตอบสนองได้อย่างทันอกทันใจ

รูปลักษณ์และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก

2020 City RS มาพร้อมไฟหน้า LED มีระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติเมื่อดับเครื่องยนต์ ไฟเดย์ไลท์และไฟท้าย LED  กระจังหน้าสีดำเงา กันชนหน้าและกระจังหน้าสไตล์สปอร์ตแบบ RS สปอยเลอร์หลังแบบดำเงา มือจับเปิดประตูสีเดียวกับตัวรถ ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ต มีฟังก์ชั่นพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว เสาอากาศครีบฉลาม ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสี วัสดหนังกลับ ผ้า และหนังสังเคราะห์ผสมผสานกัน ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง คอนโซลหน้าตกแต่งด้วย piano black

Mazda 2 ปี 2020 มาพร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED และกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ เพิ่มระบบปรับระดับไฟหน้า สูง-ต่ำ อัตโนมัติ ไฟเดย์ไลท์และไฟท้าย LED เปลี่ยนกันชนหน้า ไฟท้าย และกันชนท้ายใหม่ กระจกบังลมหน้ากันเสียงรบกวน พร้อมกับมีสีตัวถังเพิ่มเติมเข้ามาคือ สีเทา Polymetal Grey และสีขาวเมทัลลิก Ceremic Metallic ส่วนเสาอากาศเป็นแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอย 16 นิ้วปรับดีไซน์ใหม่เช่นกัน พร้อมยาง 185/60 R16

ภายในห้องโดยสาร เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง สีเทาสลับหนังกลับ Grand Luxe Suede ระบบเครื่องเสียงรองรับแอปเปิล คาร์เพลย์ และแอนดรอยด์ ออโต้ ติดตั้งกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา และเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 ตำแหน่ง

ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกของ Honda City RS มีดังนี้

- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ     

- กุญแจรีโมทพร้อมสวิตช์เปิดฝากระโปรงท้าย 

- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ

- ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)

- ระบบ Idle Stop พร้อมสวิตช์ เปิด-ปิด

- ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย

- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ

- หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ พร้อมมาตรวัดเรืองแสงสีแดง     

- ช่องจ่ายไฟสำรองด้านหน้า 1 ตำแหน่งและด้านหลัง 2 ตำแหน่ง

- ระบบเครื่องเสียงวิทยุหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับแอปเปิล คาร์เพลย์

- ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth

- พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์     

- รองรับการเชื่อมต่อ Smartphone

- รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri

- ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง

- จำนวนลำโพง 8 ตำแหน่ง     

- ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT

 ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกของ Mazda 2 1.5 XDL มีดังนี้

- หน้าจอแสดงผลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า Head-up Display แบบสี

- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ

- มาตรวัดเรืองแสง Optitron

- หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID

- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ

- ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry

- ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button

- หน้าจอกลาง Center Display แบบสี ขนาด 7 นิ้ว

- เครื่องเสียง วิทยุ AM/FM CD MP3

- ปุ่มควบคุมกลาง Center Commander

- ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth

- ระบบสั่งงานด้วยเสียง

- ลำโพง 6 ตำแหน่ง

- สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย

- ช่องเชื่อมต่อ AUX

- ช่องเชื่อมต่อ USB

- ช่องใส่ SD CARD รองรับระบบนำทางเนวิเกชั่น Navigation System

- รองรับแอปเปิลคาร์เพลย์ และแอนดรอยด์ ออโต้

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายถือว่าครบครันพอฟัดพอเหวี่ยงกัน หน้าจอของ City RS มีขนาด 8 นิ้ว ส่วน Mazda 2 ไมเนอร์เชนจ์ยังคงมีขนาด 7 นิ้ว ส่วนลำโพงของรุ่นแรกมีทั้งหมด 8 ตำแหน่ง และรุ่นหลัง 6 ตำแหน่ง ฟังก์ชั่นอื่น ๆ ตอบสนองการใช้งานได้อย่างเต็มที่ เหมาะสำหรับการเป็นรถคู่ใจในชีวิตประจำวันและออกเดินทางไปได้ทุกจุดหมาย

ระบบความปลอดภัย

ระบบความปลอดภัยของ Mazda 2 1.5 XDL มีดังนี้

- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง

- ระบบป้องกันล้อล็อก พร้อมระบบกระจายแรงเบรก ABS, EBD และ BA

- ระบบป้องกันล้อฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS

- ระบบควบคุมช่วยการทรงตัว DSC

- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HLA

- กล้องมองหลัง

- ระบบแสดงภาพรอบคันแบบ 360 องศา

- ระบบเตือนจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM

- ระบบเตือนเมื่อจุดอับสายตาขณะถอย RCTA

- ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง G-Vectoring PLUS

- ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ

- ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมระบบสัญญาณกันขโมย

- เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหน้าและด้านหลัง 8 ตำแหน่ง

- จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX

- ระบบกุญแจ Immobilizer

- ระบบสัญญาณกันขโมย

ระบบความปลอดภัยของ Honda City RS มีดังนี้

- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ประกอบด้วยถุงลมคู่หน้า ด้านข้าง คู่หน้า และม่านถุงลมด้านข้าง

- ระบบป้องกันล้อล็อกและระบบกระจายแรงเบรก (ABS & EBD)

- ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)         

- ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)

- สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)

- กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ   

- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ

- เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง 

- เข็มขัดนิรภัยด้านหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง 

- ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมระบบสัญญาณกันขโมย

- ระบบล็อคประตูรถอัตโนมัติ

- จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)

Mazda 2 ดูจะเหนือกว่าในด้านความปลอดภัยเชิงป้องกัน มีระบบเตือนผู้ขับขี่ทั้งด้านข้างขณะขับขี่และด้านหลังเมื่อต้องถอยหลัง แต่กลับตกม้าตายกับระบบความปลอดภัยเชิงปกป้องเพราะมีถุงลมนิรภัยเพียง 2 ตำแหน่ง ขณะที่ City RS มีมาให้ถึง 6 ตำแหน่ง

ราคาจำหน่าย

Mazda 2 รุ่น 1.5 Turbo XDL AT ราคา 799,000 บาท

Honda City รุ่น RS ราคา 739,000 บาท

สรุป

ไม่น่าแปลกใจที่ Honda City รวมทุกรุ่นจะทำยอดขายได้นำหน้าคู่แข่งถึงเกือบเท่าตัว เพราะเพียบพร้อมทั้งรูปลักษณ์ที่สวยงาม ชื่อชั้นแบรนด์ อุปกรณ์อำนวยความสะดวก สมรรถนะการขับขี่ และบริการหลังการขายที่หายห่วง

เมื่อเทียบรุ่นท็อป City RS ราคาจำหน่าย 7.39 แสนบาทกับ Mazda 2 XDL ราคา 7.99 แสนบาท ปฏิเสธไม่ได้ว่าความแตกต่างของค่าตัวระดับ 6 หมื่นบาทจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าเอนเอียงไปทางรุ่นแรกมากกว่ารุ่นหลัง

งานยากจึงตกอยู่กับ Mazda 2 ที่จะต้องดึงดูดลูกค้าที่ชื่นชอบความพรีเมียมในห้องโดยสารและสมรรถนะการขับขี่ให้อารมณ์แบบสปอร์ตอันเป็นเครื่องหมายการค้าของ Mazda