2021 Honda City (2021 ฮอนด้า ซิตี้) ถูกนำเสนอในตลาดเมืองไทยรวมทั้งหมด 3 เวอร์ชั่น ได้แก่รุ่นซีดานเทอร์โบ รุ่นซีดานไฮบริด และรุ่นแฮทช์แบ็ก เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าจับจองตามความต้องการ
City ถือเป็นรถยอดนิยมของคนไทย กวาดยอดขายมานับไม่ถ้วนและคว้ารางวัลมากมาย ล่าสุด Honda ประกาศว่ารถซิตี้คาร์รุ่นนี้เพิ่งพาเหรดได้รับรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี 2021 มาครองกันครบทุกโมเดล
เริ่มจาก City ตัวถังซีดาน เทอร์โบ คว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประเภทซีดานเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,000 ซีซี ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ขณะที่ City e:HEV รุ่นไฮบริด คว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประเภทไฮบริดซีดาน เครื่องยนต์ไม่เกิน 1,500 ซีซี และปิดท้ายด้วยน้องใหม่ City Hatchback คว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมประเภทแฮทช์แบ็ก เครื่องยนต์ไม่เกิน 1,000 ซีซี
แต่หากเราต้องเลือกระหว่าง 3 เวอร์ชั่นข้างต้น มาชมกันว่ารุ่นไหนน่าใช้น้อยที่สุดและควรตัดทิ้งก่อนเป็นอันดับแรก
คิดอะไรไม่ออกบอก City ซีดาน ขุมพลังเทอร์โบ
Honda นำเสนอ City ซีดานเทอร์โบทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ดังนี้
ราคาจำหน่าย 2020 Honda City ซีดาน |
Honda City รุ่น S |
579,000 บาท |
Honda City รุ่น V |
609,000 บาท |
Honda City รุ่น SV |
665,000 บาท |
Honda City รุ่น RS |
739,000 บาท |
ไฮไลท์ของ City ซีดานรุ่นสแตนดาร์ดซึ่งเปิดตัวออกจำหน่ายครั้งแรกในช่วงปลายปี 2019 คือเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบชาร์จ บล็อก 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร มีพละกำลัง 122 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 173 นิวตันเมตรที่ 2,000 – 4,500 รอบต่อนาที ถือว่าทรงพลังเหนือชั้นที่สุดรุ่นหนึ่งในระดับเดียวกัน
อุปกรณ์มาตรฐานลดหลั่นกันไปตามรุ่นย่อย โดยตัวท็อป RS ครบครันด้วยไฟส่องสว่าง LED รอบคัน การตกแต่งด้วยสีดำเงา มีสปอยเลอร์ และกระจกมองข้างสีดำ ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตหล่อเหลาขนาด 16 นิ้ว ถือว่ากำลังเหมาะสำหรับรถซิตี้คาร์รุ่นนี้
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีดำ เดินด้ายสีแดง มาตรวัดเรืองแสงสีแดง มีแพดเดิลชิฟท์ ลำโพง 8 ตำแหน่ง ระบบเชื่อมต่อ Honda Connect ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ทั้งหมดคืออุปกรณ์ในรุ่น RS ส่วนรุ่นรองลงไปนั้นอ็อปชั่นอำนวยความสะดวกจะลดหลั่นลงไป
City ตัวถังซีดานเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ ตอบโจทย์การใช้งานครบครัน เมื่อบวกกับชื่อชั้นแบรนด์ที่แข็งแกร่งของ Honda ทำให้รถซับคอมแพ็กต์รุ่นนี้ขายดิบขายดีจนเรียกได้ว่าถ้ามีเงินสัก 6-7 แสน แล้วคิดอะไรไม่ออกก็ขอให้บอก City
คิดหนักขึ้นเมื่อต้องจอง City e:HEV
Honda เปิดตัว City e:HEV รุ่นไฮบริดเมื่อปีที่แล้ว มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร มีพละกำลังสูงสุด 98 แรงม้าที่ 5,600 – 6,400 รอบต่อนาที แรงบิด 127 นิวตันเมตรที่ 4,500 – 5,000 รอบต่อนาที
เครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า มีพละกำลัง 109 แรงม้าที่ 3,500 – 8,000 รอบต่อนาที แรงบิด 253 นิวตันเมตรที่ 0 – 3,000 รอบต่อนาที แบตเตอรี่เป็นชนิดลิเธียม-ไอออน
City e:HEV รุ่นไฮบริด มีราคาจำหน่ายที่ 839,000 บาท แพงกว่า City เทอร์โบตัวท็อปอยู่ 1 แสนบาทถ้วน คุณสมบัติที่เพิ่มเติมเข้ามาในรุ่นไฮบริด นอกเหนือจากระบบขับเคลื่อน ยังมีดิสก์เบรก 4 ล้อ ตลอดจนระบบความปลอดภัย Honda Sensing ได้แก่ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKAS) ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (RDM with LDW) ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB) และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)
City e:HEV ยังมีระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) เพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่ทั้งทางใกล้และทางไกลติดมาให้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ค่าตัวที่สูงถึง 839,000 บาทของ City e:HEV ถือว่าจ่อท้ายรุ่นเริ่มต้นของ Honda Civic (ฮอนด้า ซีวิค) ซึ่งเคาะที่ 874,000 บาท ถึงแม้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกของพี่ใหญ่จะสู้น้องเล็กไม่ได้แต่ขนาดตัวถังที่เบิ้มกว่าในระดับซีเซกเมนท์ของ Civic ก็อาจทำให้หลายคนลังเล
อยากได้ความอเนกประสงค์ต้อง City Hatchback
Honda นำเสนอ City Hatchback ทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ดังนี้
ราคาจำหน่าย 2021 Honda City Hatchback |
Honda City Hatchback รุ่น S+ |
599,000 บาท |
Honda City Hatchback รุ่น SV |
675,000 บาท |
Honda City Hatchback รุ่น RS |
749,000 บาท |
อ็อปชั่นอำนวยความสะดวกของ City Hatchback รุ่นกลางและรุ่นท็อปเหมือนกับ City ซีดานทุกประการ แตกต่างกันที่รูปแบบตัวถัง และราคาจำหน่ายซึ่งรุ่น 5 ประตูมีราคาสูงกว่าอยู่ 1 หมื่นบาทถ้วน
City Hatchback ออกทำตลาดแทนที่ Honda Jazz (ฮอนด้า แจ๊ส) แน่นอนว่าคุณสมบัติสำคัญของรถแฮทช์แบ็กรุ่นนี้คือการรองรับการบรรทุกสัมภาระที่เหนือกว่ารุ่นซีดาน ด้วยการติดตั้งเบาะอัลตร้าซีท ปรับเปลี่ยนได้หลากหลายรูปแบบ สามารถพับเบาะให้แบนราบเพื่อเก็บของขนาดยาวและยกตัวเบาะขึ้นเพื่อเก็บของที่มีความสูงอย่างต้นไม้ได้อย่างสะดวกสบาย
ความอเนกประสงค์ของ City Hatchback จึงเหมาะสำหรับคนที่มีสัมภาระเยอะ ไม่ว่าจะเป็นพ่อบ้านหรือแม่บ้านที่กำลังสร้างครอบครัว หรือผู้ประกอบอาชีพที่ต้องขนอุปกรณ์ทำมาหากินบ่อยครั้ง
สรุป
City ซีดานเทอร์โบและ City Hatchback สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบครัน จึงไม่น่าแปลกใจที่จะทำยอดขายได้ดีอย่างต่อเนื่อง หากชอบความภูมิฐานก็เลือกรุ่นซีดาน แต่ถ้าต้องการความอเนกประสงค์ก็คบหารุ่นแฮทช์แบ็ก
แต่เมื่อหันมามอง City e:HEV กับราคาจำหน่าย 839,000 บาท ถือว่าสูงเกินไปหน่อยสำหรับกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหารถบีเซกเมนท์ที่ใช้งานได้รอบด้านตามปกติสักคัน หากคุณไม่ได้ต้องการอ็อปชั่นสูงส่งขนาดนั้น เราแนะนำให้ตัดรุ่นไฮบริดทิ้งไปได้เลย