![สปอร์ตสุดสวยจากจีน 2 รุ่น Neta S ปะทะ BYD Seal เราจับมาเทียบกันให้ดูว่าคุณควรเลือกใครหากวางขายไทย 01]()
2 บูธรถยนต์ไฟฟ้าที่ผู้มาชมงาน Motor Expo 2022 ให้ความสนใจกันมากที่สุดก็คือ BYD (บีวายดี) และ Hozon Neta (ฮอซอน เนต้า)
ที่นอกจากได้มีการนำรถที่วางขายในปัจจุบันอย่าง BYD Atto 3 (บีวายดี อัตโต้ 3) และ Neta V (เนต้า วี) มาโชว์ตัวให้จับจอง พวกเขายังได้ทำการนำรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความสปอร์ตอย่าง BYD Seal (บีวายดี ซีล) และ Neta S มาโชว์ตัวกันด้วย
ซึ่งถ้าหาก 2 รุ่นนี้มีการนำมาขายจริงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าคุณควรจะเลือกใคร? เราจับมาเทียบกันให้ดู
![สปอร์ตสุดสวยจากจีน 2 รุ่น Neta S ปะทะ BYD Seal เราจับมาเทียบกันให้ดูว่าคุณควรเลือกใครหากวางขายไทย 01]()
คนนึงดูสปอร์ต คนนึงหรู
จริง ๆ ในด้านของหน้าตาในแต่ละคนก็จะมีความชอบที่แตกต่างกันไป แต่ในด้านของ Neta S จะดูมีความสปอร์ตมากกว่าด้วยรูปทรงแบบลาดลง
ด้านหน้ามีไฟหน้าแบบแยกส่วนเรียวเล็กตามสมัยนิยมมีช่องดักลมด้านล่าง และดีไซน์โดยรวมที่ดูสะอาดตา ด้านหลังไฟท้าย LED เชื่อมต่อกันเต็มระบบ สปอยเลอร์ตูดเป็ดที่รวมกับฝาท้าย มีดิฟฟิวเซอร์ที่ซ่อนอยู่
อีกหนึ่งไฮไลท์ก็คือประตูแบบกรรไกรที่เปิดขึ้น สะกดทุกสายตาที่จ้องมอง
อ่านเพิ่มเติม Neta รับลูกค้าหาย 10-15% หลังเอ็มโอยูช้า
![สปอร์ตสุดสวยจากจีน 2 รุ่น Neta S ปะทะ BYD Seal เราจับมาเทียบกันให้ดูว่าคุณควรเลือกใครหากวางขายไทย 02]()
![สปอร์ตสุดสวยจากจีน 2 รุ่น Neta S ปะทะ BYD Seal เราจับมาเทียบกันให้ดูว่าคุณควรเลือกใครหากวางขายไทย 03]()
ในส่วนของ BYD Seal โดยรวมแล้วจะมีความหรูหรามากกว่า แต่ก็มีการตกแต่งตามจุดต่าง ๆ ด้วยสีดำทำให้ดูสปอร์ตขึ้น มีไฟหน้าแบบเรียวบางพร้อมช่องดักลมด้านล่างสีดำ
ตัวรถมีการเล่นเส้นสายที่ประตูและกันชนล่างมากกว่าเนต้า เอส ช่วยให้รถดูมีมิติมากขึ้น มาพร้อมไฟท้ายที่เชื่อมต่อกันเป็นแนวยาวเช่นกัน
![สปอร์ตสุดสวยจากจีน 2 รุ่น Neta S ปะทะ BYD Seal เราจับมาเทียบกันให้ดูว่าคุณควรเลือกใครหากวางขายไทย 04]()
มิติตัวถัง
เทียบมิติตัวถัง |
รุ่น |
Neta S |
BYD Seal |
ยาว |
4,800 |
4,800 |
กว้าง |
2,000 |
1,875 |
สูง |
1,400 |
1,460 |
ระยะฐานล้อ |
2,900 |
2,920 |
สังเกตุได้ว่าตัวรถจะมีความยาวเท่ากัน แต่บีวายดีจะได้เปรียบในด้านความสูงและระยะฐานล้อ จึงอาจจะเหมาะกับคนที่ตัวสูงกว่า ส่วนเนต้าเองก็มีดีที่ความกว้าง จึงจะช่วยเรื่องความโอ่อ่าของตัวรถ
![สปอร์ตสุดสวยจากจีน 2 รุ่น Neta S ปะทะ BYD Seal เราจับมาเทียบกันให้ดูว่าคุณควรเลือกใครหากวางขายไทย 05]()
ภายในไฮเทคทั้งคู่
อีกหนึ่งจุดเด่นของรถทั้งสองก็คือการออกแบบภายในที่ก็จัดมาเต็มเช่นกัน Neta S ภายในมาพร้อม SMART Cockpit System ที่ประกอบด้วย Smart Screens 4 ตำแหน่ง ได้แก่ หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 13.3 นิ้ว, หน้าจอ Infotainment แบบ Ultra thin ขนาด 17.6 นิ้ว, หน้าจอสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าขนาด 12.3 นิ้วที่กล่าวว่าสามารถใช้ดูหนังฟังเพลงได้เอง แถมติดกระจกแบบไม่ให้คนขับมองเห็นได้อีกด้วย, และ AR-HUD augmented reality head-up display system
ระบบภายในรถมาพร้อมชิปประมวลผล Snapdragon Chip เจเนอเรชั่นที่ 3 (Qualcomm Snapdragon 8155), รองรับการสื่อสารสัญญาณ 5G, ระบบสั่งการด้วยเสียงที่ตอบสนองภายใน 1.8 วินาที เครื่องเสียงของรถมีลำโพง 21 จุด และระบบเสียงรอบทิศทาง 720° Nezha Surround Sound
เบาะนั่งยังสามารถปรับอุ่น ระบายอากาศ และมีระบบนวดให้อีกด้วย มีการใช้วัสดุแบบพรีเมียมเพื่อความหรูหราด้วยวัสดุ Alcantara, หนัง, ลายไม้, และแถบโครเมียมที่ถูกเน้นด้วย ambient light
![สปอร์ตสุดสวยจากจีน 2 รุ่น Neta S ปะทะ BYD Seal เราจับมาเทียบกันให้ดูว่าคุณควรเลือกใครหากวางขายไทย 06]()
![สปอร์ตสุดสวยจากจีน 2 รุ่น Neta S ปะทะ BYD Seal เราจับมาเทียบกันให้ดูว่าคุณควรเลือกใครหากวางขายไทย 07]()
ส่วนภายในห้องโดยสารของบีวายดี ซีลก็ล้ำสมัยตามสไตล์รถยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่พร้อมมีความหรูหรามากกว่า มีจอกลางที่หมุนให้เป็นแนวตั้งก็ได้แนวนอนก็ดี ขนาด 15.6 นิ้ว พวงมาลัยตัดล่างแบบ 3 ก้าน ชุดมาตรวัดฟูลดิจิทัล ระบบเครื่องเสียงจัดเต็มลำโพง 12 ตัว และมีเบาะคู่หน้าปรับอุณหภูมิได้
มีระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ DiLink ที่ชาร์จมือถือไร้สาย หัวเกียร์เป็นคริสตัล ปุ่มควบคุมการทำงานของจอสัมผัส Head-Up Display เบาะนั่งทรงสปอร์ตหุ้มหนัง และมีช่องเก็บของหลายแห่ง และวางแก้วน้ำได้ถึง 12 จุด พร้อมหลังคากระจกแบบพาโนรามา
อ่านเพิ่มเติม สรุปสเปค BYD รถไฟฟ้า 6 รุ่นใหม่ ตัวโชว์ในงาน Motor Expo 2022
![สปอร์ตสุดสวยจากจีน 2 รุ่น Neta S ปะทะ BYD Seal เราจับมาเทียบกันให้ดูว่าคุณควรเลือกใครหากวางขายไทย 08]()
วัดกำลัง
หรือหากจะมาดูสิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นคือขุมพลังของตัวรถ Neta S เป็นรถรุ่นแรก ๆ ที่ได้ใช้แพลทฟอร์มใหม่อย่าง “Shanhai” ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มแบบโมดูล่าร์ที่รองรับการสร้างทั้งรถยนต์ไฟฟ้าเต็มระบบ (BEV) และรถยนต์แบบ range-extender (EREV)
ส่วนสเปคนั้นตามข้อมูลจะสามารถเลือกได้ 2 แบบ คือ NETA S รุ่น Special Version นั้นเป็นรุ่นที่มีสมรรถนะสูงที่สุด ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลัง 462 แรงม้า แรงบิด 620 นิวตันเมตร จับคู่กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 91 kWh สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 650 กม. ตามมาตรฐาน CLTC มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.9 วินาที
และยังมี Lidar Verion ที่เน้นระบบความปลอดภัยมากกว่า มีมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลัง 231 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร จับคู่กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 85.11 kWh วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 715 กม. ตามมาตรฐาน CLTC มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.9 วินาที
![สปอร์ตสุดสวยจากจีน 2 รุ่น Neta S ปะทะ BYD Seal เราจับมาเทียบกันให้ดูว่าคุณควรเลือกใครหากวางขายไทย 09]()
BYD Seal เองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน ใช้แพลทฟอร์มใหม่ของ BYD อย่าง e-platform 3.0 โดยในจีนจะมีทั้งรุ่นมอเตอร์เดี่ยวและคู่ 4 รุ่นดังนี้
รุ่นมอเตอร์เดี่ยว จะมีกำลังให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ 201 หรือ 308 แรงม้า ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง และแบตเตอรี่ขนาด 61.44 kWh สามารถขับขี่ได้ 550 กม.
ในรุ่นถัดมาจะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดความจุ 82.56 kWh และสามารถขับได้ไกลถึง 700 กม. ส่วนรุ่นสุดท้ายจะเป็นรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ให้กำลัง 517 แรงม้า มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที และสามารถขับได้ไกลถึง 650 กม.
ทั้งสองมีแบตเตอรี่แบบ Blade Battery ของ BYD กำลัง 800V
![สปอร์ตสุดสวยจากจีน 2 รุ่น Neta S ปะทะ BYD Seal เราจับมาเทียบกันให้ดูว่าคุณควรเลือกใครหากวางขายไทย 10]()
ความปลอดภัยสูสี
ในรถทั้งสองรุ่นเองก็ได้มีการชูจุดเด่นในด้านระบบความปลอดภัยที่ไม่มีใครยอมใคร เนต้า เอส รุ่น Lidar Version จะเน้นเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ NETA Pilot 4.0 ที่เทียบเท่าระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Autonomous Driving ระดับที่ 4 พร้อมกับมีเซนเซอร์ LIDAR มาให้
ใช้ระบบประมวลผล Huawei MDC610 High performance Computing Platform ซึ่งประกอบด้วย
- ระบบช่วยเหลือในการขับขี่สำหรับขับขี่ในเมือง NCP Nezha City Pilot assistance
- ระบบช่วยเหลือในการขับขี่เมื่อความเร็วสูง NHP Nezha High-speed Pilot assistance
- ระบบจดจำที่จอดรถ NMP Nezha Memory Parking
- ระบบเรียกรถอัตโนมัติ NMS Nezha Magic Summon
- ระบบช่วยเหลือในการขับขี่ 30 ตำแหน่งประกอบด้วย LIDAR 2 ตำแหน่ง, กล้องรอบคัน 11 ตำแหน่ง, เรดาร์แบบ Millimeter wave radar 5 ตำแหน่ง และเรดาร์แบบอัลตราโซนิค 12 ตำแหน่ง
![สปอร์ตสุดสวยจากจีน 2 รุ่น Neta S ปะทะ BYD Seal เราจับมาเทียบกันให้ดูว่าคุณควรเลือกใครหากวางขายไทย 11]()
ด้าน บีวายดี ซีล ระบุว่าระบบความปลอดภัยสำคัญคือ iTAC หรือ Intelligent Torque Control System ซึ่งสามารถควบคุมแรงบิดของแต่ละล้อได้อย่างมีอิสระ จึงสามารถป้องกันการลื่นไถลและยังผ่านการทดสอบการหักหลบ (moose test) ที่ความเร็วระดับ 83.5 กม.ต่อชม. ซึ่งถือว่าสูงมาก ส่วนระบบความปลอดภัยอื่น ๆ ยังไม่มีข้อมูลออกมามากนัก
อ่านเพิ่มเติม ยอดขาย EV ทั่วโลก 2022 BYD โตขึ้น 257%
![สปอร์ตสุดสวยจากจีน 2 รุ่น Neta S ปะทะ BYD Seal เราจับมาเทียบกันให้ดูว่าคุณควรเลือกใครหากวางขายไทย 12]()
ราคาเท่าไรดี?
ในด้านของราคา ในรถทั้งสองรุ่นนั้นยังไม่มีการคอนเฟิร์มราคาขายในประเทศไทย รวมถึงว่าจะนำเข้ามาเมื่อไร Hozon Neta S เปิดราคาขายจริงแล้วในประเทศจีน ด้วยราคา 338,800 หยวน หรือประมาณ 1.6 ล้านบาท คาดว่าราคาไทยอยู่ที่ 1.75 ล้านบาท
ส่วน BYD Seal ข้อมูลจากจีนระบุว่าจะมีราคาอยู่ระหว่าง 220,000-280,000 หยวนหรือประมาณ 1.158 - 1.47 ล้านบาท ทำให้หกเข้มาทำตลาดอาจอยู่ที่ 1.6 ล้านบาทขึ้นไปก็เป็นได้
ทั้งสองคันหักจากส่วนต่างราคาส่งหน้าโรงงานโดยสังเขป ลบด้วยภาษีมูลค่าเพิ่ม ยังไม่รวมส่วนลดอื่น ๆ จากโครงการรัฐบาล
![สปอร์ตสุดสวยจากจีน 2 รุ่น Neta S ปะทะ BYD Seal เราจับมาเทียบกันให้ดูว่าคุณควรเลือกใครหากวางขายไทย 13]()
รออีก 1-2 ปี
จากการคาดเดา หากรถทั้ง 2 รุ่นจะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ก็คงต้องดูท่าทียอดขายรถยนต์ในปัจจุบันก่อนว่าเป็นไปได้ด้วยดีหรือไม่ เนื่องจากทั้ง 2 รุ่นเป็นรถที่มีราคาค่อนข้างแพง ไม่แน่ว่าในรุ่นท็อปสุดของทั้งคูอาจมีราคาเฉียด 2 ล้านกันให้เห็น
ส่วนรุ่นไหนเหมาะกับใครนั้น ว่ากันจากสเปคแล้ว Neta S จะดูมีความสปอร์ตมากกว่า มีสมรรถนะที่ดี แถมยังสามารถเลือกรุ่นที่เน้นความปลอดภัยได้มากกว่า น่าจะถูกใจผู้นั่งโดยสารด้วยจอแยก
ส่วน BYD Seal จะเน้นความหรูหราภายในมากกว่าพร้อมด้วยพาโนรามิกซันรูฟ และเบาะที่ดูนั่งสบายมีลูกเล่นที่จอหมุนได้ ความแรงก็ไม่ได้น้อยหน้ากันเลย
![สปอร์ตสุดสวยจากจีน 2 รุ่น Neta S ปะทะ BYD Seal เราจับมาเทียบกันให้ดูว่าคุณควรเลือกใครหากวางขายไทย 14]()
อย่างไรก้ตาม ก็ต้องคอยดูส่าหากทั้ง 2 รุ่นมีการนำมาขยไทยจริง จะเป็นรุ่นไหนสเปคอะไรบ้าง ซึ่งก็น่าจะทำตลาดด้วยรุ่นธรรมดาไปก่อนจึงค่อย ๆ ขยับไปหาตัวแพงและแรงกว่าเดิม