2021 Haval H6 HEV (ฮาวาล เอช6) รถเอนกประสงค์ที่เปิดให้จองรุ่นล่าสุดของประเทศไทย ก่อนที่จะเปิดราคาที่หลาย ๆ คนอยากรู้จนไม่อยากรู้กันไปแล้วในช่วงปลายเดือนนี้ กับรถยนต์เอสยูวีไฮบริดรุ่นล่าสุดจากแดนมังกร ที่เลือกใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต
การเข้ามาของฮาวาล เอช6 เอชอีวีนั้น เป็นเรื่องที่สร้างแรงกระเพื่อมให้กับรถเอสยูวีระดับซี-เซกเมนต์มากพอสมควร เพราะนอกจากการที่มีข่าวลือว่าระดับราคาของพวกเขาจะเข้ามาท้าชนกับผู้อยู่มาก่อน ต้องขอบอกว่าสเปก รายละเอียดของรถก็ถือว่าไม่ธรรมดา
รถคันนี้เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในตลาดโลกที่ประเทศไทย และในสัปดาห์นี้ ฮาวาล ก็ได้เชิญสื่อมวลชนจากประเทศไทยเกือบ 100 สื่อมาร่วมทดสอบกันตลอดทั้งสัปดาห์ เพื่อให้ได้สัมผัสและเรียนรู้เกี่ยวกับรถยนต์รุ่นนี้กันอย่างใกล้ชิดตลอดระยะเวลา 1 วัน
AutoFun Thailand ร่วมทริปเปิดหัวขบวนกันตั้งแต่เปิดทริปวันจันทร์ที่ผ่านมา และก็เก็บความประทับใจในการทดสอบรถรุ่นนี้มาจนถึงวันนี้ ซึ่งเราได้ข้อสรุปว่า หากราคาจำหน่ายของรถอยู่ในกลุ่มเดียวกับคู่แข่ง แบบบวกหรือลบไม่มาก น่าจะทำให้ตลาดสนุกสนานขึ้น
เพราะด้วยสมรรถนะของรถที่ไม่ได้ด้อยกว่าใครในตลาด มาผสมกับระบบ อุปกรณ์และของเล่นต่าง ๆ นานามากมายที่ให้มาตลอดทั้งคันรถ ถือว่า GWM นั้นมีความตั้งใจในการเดินหน้าพัฒนารถคันนี้จริง และแม้จะดูยึกยักไปหน่อย แต่ H6 HEV นั้นถือว่าไม่ธรรมดา
ลองขับมาแล้วเลยกล้าบอกว่า นี่คือรถยนต์ที่มาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุดในคลาสแบบไม่ลังเล...
ไฮไลท์นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะพบเจอใน Haval H6 HEV
- ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 2+
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติทั้งทางตรงและทางแยก
- ระบบถอยห่างจากรถขนาดใหญ่บนท้องถนน
- ระบบลดความเร็วในโค้งแบบอัตโนมัติ
- ระบบช่วยจอดรถยนต์อัตโนมัติ 3 รูปแบบ
- กล้องรอบคันความละเอียด 4 ล้านพิกเซล
- กราฟฟิกที่แสดงรายละเอียดของรถที่เข้ามาใกล้
รถที่ปลอดภัยและมีของเล่นมากที่สุดบนท้องถนน
ถ้ามาตรฐานของซี-เอสยูวีถูกวางเอาไว้ด้วยรถยนต์จากญี่ปุ่นและยุโรปมานาน ต้องบอกว่าการที่ฮาวาลตัดสินใจใส่อุปกรณ์ทั้งหมดให้กับรถคันนี้ในรุ่นท็อปที่ยังไม่รู้ว่าราคาเท่าไหร่ ก็น่าจะเป็นการวางเดิมพันครั้งสำคัญของพวกเขาว่าจะทำให้ลูกค้าไทยพอใจได้หรือไม่
นอกเหนือไปจากระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 2+ ที่พวกเขาเคลมว่าดีที่สุดในรุ่นระดับเดียวกัน รถคันนี้ยังมีระบบความปลอดภัยมากมายติดตั้งมาให้เต็มคันไปหมด จากสเปกจะบอกว่ามีการทำงานร่วมกันถึง 22 ระบบ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่รถคันนี้
ไม่ใช่แค่เรื่องของระบบที่สำคัญ แต่รถคันนี้มาพร้อมรายละเอียดของการออกแบบที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นกล้องมองภาพชัดแจ๋ว เรดาห์ที่จับรถหลากหลายประเภทได้ รวมไปถึงลูกเล่นอย่างระบบที่บอกระยะห่างระหว่างรถหน้า-หลังได้ ซึ่งทั้งปลอดภัยและดูดีที่สุดเลย
ทุก ๆ คนคงอยากรู้เรื่องสมรรถนะของรถ
ทีมงานของฮาวาลระบุว่าเครื่องยนต์ไฮบริดของพวกเขานั้นให้สมรรถนะที่โดดเด่น ให้กำลังรวมสูงสุด 243 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตร เหนือกว่ารถปิกอัพในประเทศไทยเกือบทั้งหมด ซึ่งเอาจริง ๆ มันเหนือกว่ารถปิกอัพทุกรุ่นที่ทำตลาดในไทย
การส่งกำลังเป็นการทำงานของเกียร์ 2 ส่วนที่แยกกันประจำการที่เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งทำให้รถคันนี้สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน ๆ ได้ที่ความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเหมือนรถอีวี เพียงแต่เครื่องยนต์จะเดินอยู่ตลอดเวลาปั่นไฟเข้าแบตเตอรี่ของรถ
นั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฮาวาลให้ตัวเลขเฉลี่ยการสิ้นเปลืองในเมืองสูงถึง 28 กิโลเมตรต่อลิตร ขณะที่อัตราเฉลี่ยรวมจะอยู่ที่ 19.2 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยไอเสีย 120 กรัมต่อกิโลเมตร และหากรถทำความเร็วมากกว่านั้น ก็จะเป็นการทำงานร่วมกันของระบบไฮบริด
การขับขี่นั้นนอกเหนือจากการขับขี่แบบปกติแล้ว รถยังมีระบบ e-Pedal มาให้ด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน ซึ่งระบบนี้ก็คือระบบคันเร่งไฟฟ้าที่จะลดความเร็วของรถได้จนถึงจุดหยุดนิ่งเมื่อถอนเท้าออกจากคันเร่ง ถือเป็นระบบที่โผล่มาเซอร์ไพร์สเลย
การตอบสนองของเครื่องยนต์นั้น หากกดคันเร่งลงไปอย่างเต็มที่ ด้วยแรงบิดขนาดนี้ แน่นอนว่ายอ่มมีอาการล้อฟรีให้เห็นเล็ก ๆ อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่เราทำการทดสอบบนแทร็กอยู่ที่ 8.32 วินาที และน่าจะทำได้ดีกว่านี้ หากเลี้ยงคันเร่งให้เนียน ๆ
การทำความเร็วในย่านที่กฎหมายกำหนดนั้นเป็นไปได้อย่างสะดวกสบาย การเร่งแซงนั้นทำได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการกดคันเร่งลงไปเท่านั้น แถมยังมีระบบเบรกที่ไว้ใจได้ในย่านความเร็วต่ำและปานกลาง แต่อาจจะต้องกดแป้นเบรกลึกนิดนึงหากใช้ความเร็วสูง ๆ
การเก็บเสียงของรถนั้นถือว่าทำได้ปานกลาง ยังมีเสียงลมลอดเข้ามาจากกระจกด้านหน้าอยู่บ้าง แก้ไขได้ด้วยการเปิดเพลงกลบไปก่อน ช่วงล่างนั้นเซตมาค่อนข้างนุ่ม อาจะต้องระมัดระวังเวลาเจอเนินสูง ๆ อาจจะมีอาการตึงตังออกมาบ้าง แต่ขับบนถนนถือว่าสบายดี
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ว่าเยี่ยมยอด
ผมคิดเอาเองว่าถ้ากลุ่มลูกค้าเป็นสุภาพสตรีที่ไม่มีความชำนาญในการขับรถมาก และรู้สึกกลัวที่จะขับรถคันใหญ่ ๆ น่าจะชอบฟังชั่นส์หลาย ๆ อย่างที่รถคันนี้มีให้ ตัวที่เขาชูเป็นจุดขายมากสุดก็คือระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติที่ทำงานได้อย่างง่ายดายกว่าที่คาดเอาไว้
รถนั้นจะจำระยะทางที่ขับเข้าไปด้วยความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นระยะทางไม่เกิน 50 เมตร หากเราไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ก็ทำแค่กดปุ่มให้รถนั้นถอยหลังออกไปตามเส้นทางเดิมที่เราเพิ่งเดินหน้าเข้ามา ซึ่งทดสอบกันแล้วทำงานได้เป็นอย่างดี
ระบบช่วยเหลือการจอดแบบ 3 รูปแบบ ทั้งแบบถอยเข้าช่อง แบบจอดขนาน และการจอดแบบทแยง ใช้งานได้อย่างง่ายดายด้วยกล้องและเรดาห์รอบคัน แถมระบบของฮาวาลยังโดดเด่นด้วยการเปิดไฟฉุกเฉินทันทีที่ใช้งาน แถมเข้าเกียร์ P ให้ด้วย เมื่อจัดการเรียบร้อย
ถามว่ามันน่ากลัวไหมกับการใช้งานระบบนี้ ก็ถือว่าน่ากลัวอยู่นะ เพราะฮาวาลนั้นถอยแบบใกล้มาก แต่รถก็ฉลาดมากพอที่จะผ่านมาได้ แถมยังมีระบบช่วยเอารถออกจากช่องจอด ที่จะทำแค่โผล่หัวออกไปให้พ้นคันหน้า แล้วให้ผู้ขับขี่เข้ามาควบคุมรถต่อด้วยตัวเอง
Haval H6 HEV ยังมาพร้อมระบบควบคุมความเร็วแบบอัตโนมัติ ที่วิ่งโดยใช้เส้นถนนเป็นหลัก แต่ก็สามารถล็อกเป้ารถคันหน้าได้ และพ่วงมาด้วยระบบลดความเร็วของรถเมื่อเข้าทางโค้งโดยอัตโนมัติ ทำให้เราไม่ต้องกดเบรกชะลอความเร็วแล้วกดเปิดระบบใหม่
รวมไปถึงจุดขายครั้งแรกในไทยกับระบบถอยห่างจากรถขนาดใหญ่บนท้องถนน ซึ่งรถจะทำการควบคุมตัวเองให้หนีออกจากรถขนาดใหญ่ด้านหน้า และกลับเข้าสู่กลางเลนอีกครั้งหลังจากวิ่งผ่านไป ทำให้เราไม่ต้องหวาดเสียวกับพี่ ๆ สิบล้อบนท้องถนนสักเท่าไร
เอาจริง ๆ มันมีอีกหลายระบบที่ติดตั้งมา โดยเฉพาะพวกระบบความปลอดภัยด้านท้ายของตัวรถ ที่ยังไม่ได้มีโอกาสทดลองกันว่าใช้งานได้ดีขนาดไหน ไว้ตอนที่ได้รับรถทดสอบออกมาแบบส่วนตัว เราค่อยมาทำการทดสอบระบบที่เหลือกันอีกครั้งก็แล้วกันนะครับ
Hi, Haval และห้องโดยสารหรูหราฟุ้งเฟ้อ
ห้องโดยสารของฮาวาล เอช6 เอชอีวี ในรุ่นท็อป มาในแบบที่เราเคยพาไปชมกันหลายรอบแล้ว โดยรวมเป็นห้องโดยสารที่กว้างขวาง สมกับที่คุยว่ารถเขานั้นใหญ่โตกว่าคนอื่น เบาะที่นั่งที่รองรับน้ำหนักตัวได้ดี แม้จะดูบาง ๆ วิ่งทางไกลประมาณ 200 กิโลเมตรไม่เมื่อย
การตกแต่งด้านหน้าสีทูโทน พร้อมด้วยโลหะสีโรสโกลด์เป็นมาตรฐาน พวงมาลัยที่มีขนาดรอบวงตรงมือจับค่อนข้างเล็ก อาจจะต้องกำแน่น ๆ หน่อย มาพร้อมฟังชั่นส์ที่สามารถควบคุมผ่านพวงมาลัยได้มากมาย และแป้นแยกสำหรับระบบครูสคอนโทรลด้านใต้อีกที
แผงกลางคอนโซลนั้นมีปุ่มน้อยมากในแบบสมัยนิยมทั่วไป การสั่งงานทั้งหมดนั้นทำได้ผ่านหน้าจอขนาด 12 นิ้วตรงกลาง และลดลงเหลือ 10 นิ้วในรุ่นล่าง มาพร้อมระบบผู้ช่วยอัจฉริยะในรถ ที่เพียงคุณเอ่ยว่า Hi, Haval เธอก็พร้อมจะมาดูแลคุณในหลายฟังชั่นส์
แต่หากคุณไม่พอใจกับชื่อเรียกที่ดูเหมือนกันไปหมด คุณสามารถตั้งชื่อรถคันนี้ได้ ระบบ AI ถูกออกแบบให้สามารถเรียนรู้และจดจำเสียงได้แม่นยำกว่า 98% และฮาวาลคุยกว่า การสั่งงานด้วยเสียงนั้น จะช่วยลดปัญหาการใช้งานปุ่มลงได้อีก 80% เพิ่มความปลอดภัย
ผมลองใช้งานระบบต่าง ๆ ดู ลอง Hi, Haval อยู่หลายรอบ พบว่าการตอบสนองถือว่าไม่ธรรมดานะ เอาง่าย ๆ แค่ตอนที่เราขับรถที่ความเร็วประมาณ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้วสั่งเปิดซันรูฟ รถตอบทันทีเลยว่า คุณขับรถเร็ว เราจะเปิดให้แค่ครึ่งเดียวพอ ล้ำไปอีก
ระบบนำทางที่ติดตั้งมาในตัวเครื่องมาพร้อมฟอนท์ภาษาไทยที่สวยงาม อ่านง่าย ช่องเชื่อมต่อยูเอสบีมีอยู่รอบคัน และในรุ่นท็อปก็มาพร้อมระบบชาร์จไฟแบบไร้สายที่ด้านใต้แผงคอนโซล ที่ชาร์จได้ไว ชาร์จได้จริง เรียกว่าเอาใจผู้ใช้งานยุคใหม่ไม่ต้องพกสายยาว ๆ
ซันรูฟขนาดใหญ่ที่พาดมาถึงห้องโดยสารตอนหลังก็น่าสนใจ ถ้าจะหาเรื่องติจริง ๆ ก็คงจะเป็นเรื่องที่เข็มขัดนิรภัยปรับระดับไม่ได้นี่ล่ะครับ เป็นจุดบอดในตัวรถและการขับขี่ของผมเลย เพราะจุดล็อกนั้นอยู่ค่อนข้างสูงและบาดด้านข้างคอเกือบตลอดเวลาที่ใช้งาน
มีอะไรอีกไหมนะ ที่เราลืมบอก...
จริง ๆ แล้วมันมีระบบปลีกย่อยมากมายเยอะแยะไปหมดสำหรับรถคันนี้ ตามที่เราเคยบอกว่ากระดาษ A4 แผ่นนึงเขียนฟอนท์ 14 ก็ไม่พอ ระบบปรับอากาศในรุ่นท็อปเป็นแบบแยกซ้าย-ขวาอัตโนมัติ พร้อมฟิลเตอร์ CN95 และระบบ Ionizer เพื่ออากาศบริสุทธิ์ภายในรถ
ถุงลมนิรภัยรอบคันรถ 6 ตำแหน่ง กล้องรอบคัน 5 จุด สำหรับระบบ 360 องศาและระบบความปลอดภัยอื่น ๆ โดยฮาวาลระบุว่า กล้องที่ติดตั้งในเอช6 เอชอีวีนั้น เป็นกล้องความละเอียดสูง 4 ล้านพิกเซล ทำให้ได้ภาพที่คมชัด ส่องสว่างและสามารถใช้งานได้ทุกสภาพ
นอกจากความคมชัดของกล้องที่ส่งผ่านเข้ามาที่หน้าจอใหญ่แล้ว ในรถยังมีหน้าจอแสดงผลขนาด 10 นิ้วที่ด้านหลังพวงมาลัย เพื่อแสดงผลข้อมูลการขับขี่ต่าง ๆ และในรุ่นท็อปจะมีเฮดอัพดิสเพลย์บนกระจกบังลมหน้า ที่สามารถเลือกใช้แชร์ข้อมูลได้อย่างหลากหลาย
ที่หน้าจอขนาด 10 นิ้ว พวกเขาแอบใส่ฟังชั่นส์ที่ผมว่าน่าสนใจนอกเหนือไปจากการเตือนรถยนต์ในจุดอับที่ใคร ๆ ก็มี แต่ในเอช6 มาพร้อมระบบแสดงผลให้เห็นเลยว่า รถคันที่วิ่งมาอยู่ในจุดอับนั้น เป็นรถใหญ่ รถเล็กหรือรถจักรยานยนต์ ซึ่งมีความแม่นยำค่อนข้างสูง
หน้าจอใหญ่สามารถแสดงระยะห่างระหว่างรถคันหน้า-หลัง เพื่อเพิ่มความสามารถในการประเมิรสถานการณ์ และผู้ใช้งานยังสามารถควบคุมรถคันนี้ผ่านแอพพลิเคชั่น GWM ที่มีฟังชั่นส์มากมายทั้งการตรวจสอบและควบคุม และยังอัพเกรดผ่าน FOTA ได้อีกด้วย
BUY or BYE BYE...
ยังเป็นเรื่องที่ตอบได้ยากมากว่ารถคันนี้น่าคบหาขนาดไหน เพราะติดปัญหาจริง ๆ อยู่ 2 เรื่อง หนึ่ง ราคาจำหน่ายที่ยังไม่ประกาศออกมาสักที ต้องรอกันต่อไปถึง 28 เดือนนี้ แต่หากเป็นเหมือนที่ดีลเลอร์บอกมาว่าอยู่ที่ระดับล้านต้น ๆ ในรุ่นท็อป ก็เป็นสินค้าที่น่าสนใจ
อีกเรื่องที่ยังไม่มีความมั่นใจอย่างชัดเจนก็คือเรื่องของศูนย์บริการ ที่แม้ทีมงานจะบอกว่ามีการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายมากมายรวม 30 แห่งในปีนี้ทั่วประเทศ แต่ก็คงต้องรอให้ศูนย์บริการเหล่านี้เปิดออกมาเสียก่อน ถึงจะตอบได้ว่ามันเหมาะสมหรือเพียงพออยู่หรือไม่
แต่หากมองแต่ตัวรถเป็นหลัก ใครที่ชอบรถที่ของเล่นเยอะ ๆ มีลูกเล่นมาก ๆ แถมยังเอาใจบรรดาลูกค้ายุคใหม่ด้วยฟังชั่นส์เหนือชั้น แถมยังอัดโปรโมชั่นแรงกันตั้งแต่เริ่มต้น ไม่แปลกใจที่มีลูกค้ากดจองไปแล้วกว่า 2,000 รายในวันแรกของการเปิดรับจองเลยทีเดียว
แต่ของจริงอยู่ที่ลูกค้าจ่ายเงินจองหลังรู้ราคา จะหมู่หรือจ่า เดี๋ยวรู้กัน!!!