ตลาดของเอสยูวีขนาดเล็กในประเทศไทยในตอนนี้ค่อนข้างดุเดือด เปิดตัวแข่งขันกันมากมาย ทั้ง 2022 Honda HR-V (2022 ฮอนด้า เอชอาร์-วี) หรือที่เพิ่งเปิดราคาไปอย่าง 2022 Haval Jolion (2022 ฮาวาล โจไลออน) หรือแม้แต่คู่แข่งที่เปิดตัวมาก่อนสักพักอย่าง Toyota Corolla Cross หรือ Mazda CX-30/CX-3
แต่น่าเสียดายที่ผู้ผลิตรถสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง Suzuki (ซูซูกิ) ยังไม่นำรถในเซกเมนต์นี้มาจำหน่ายสักที ถ้ามีอย่าง 2022 Suzuki S-Cross เข้ามาขายในบ้านเราคงจะดีไม่น้อย
2022 Suzuki S-Cross (2022 ซูซูกิ เอส-ครอส) ได้เปิดตัวในเจเนอเรชั่นที่ 3 เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจะพร้อมจำหน่ายที่แรกในยุโรปตั้งแต่ปลายปีนี้(2021) ก่อนไปยังตลาดลาตินอเมริกา โอเชียเนีย และเอเชีย
เมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้ว S-Cross คันใหม่จะดูใหญ่ขึ้น มีดีไซน์ที่เหมือนกับเอสยูวีมากขึ้น ซึ่งจะสะท้อนโดยการออกแบบด้านหน้าที่ดูตั้งขึ้น พร้อมกับกระจังหน้าขนาดใหญ่สีดำ และแถบโครเมียมแนวนอนคาดเชื่อมกับไฟหน้าแบบ LED ทั้งสองด้านที่อยู่ตำแหน่งที่สูงกว่ารุ่นเดิม และแต่ละโคมจะมีดวงไฟอยู่ข้างในโคมละสามดวง
ตัวรถมีความเป็นเอสยูวีเพิ่มขึ้นจากการดีไซน์ ฝากระโปรงหน้าสูงขึ้นจากรุ่นเดิม เมื่อลงมาด้านล่างพบกับเบ้าไฟตัดหมอกรูปสี่เหลี่ยมคางหมู พร้อมกับมีชุดแต่งพลาสติกสีดำหุ้มอยู่ด้านล่างรอบคันไปจนถึงด้านหลัง และซุ้มล้อดีไซน์แบบเหลี่ยมพร้อมล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
ด้านท้ายของ S-Cross ใหม่มีไฟท้ายที่ดูเชื่อมกันตามสมัยนิยม ซึ่งใน S-Cross นั้นจะเชื่อมด้วยชุดแต่งของตัวรถที่มีโลโก้ซูซูกิติดอยู่ด้วย และเมื่อมองลงไปด้านล่างจะเห็นการตกแต่งที่ใช้ skid plate พลาสติกที่ทำให้ตัวรถดูบึกบึนมากขึ้น
มิติของตัวถังของ 2022 Suzuki S-Cross นั้นไม่ใหญ่มากเมื่อเทียบกับคู่แข่ง โดยมีความยาว/ความกว้าง/ความสูง อยู่ที่ 4,300/1,785/1,585 มม. ตามลำดับ และมีระยะฐานล้อที่ 2,600 มม. ซึ่งตัวเลขเหล่านี้แทบไม่ต่างจากรุ่นเดิมเลย หรือจะเป็นบิ๊กไมเนอร์เชนจ์คล้าย Lexus IS ก็เป็นได้
ซึ่งดีไซน์แบบเก่ายังสะท้อนมายังภายในเช่นกัน พวงมาลัยยังใช้ดีไซน์ของรุ่นเดิม(คล้าย Suzuki Ciaz/Swift รุ่นเก่า) มีเพียงคอนโซลส่วนกลางเท่านั้นที่ดูใหม่ทั้งหมด พร้อมติดตั้งจอ infotainment ที่มีให้เลือกทั้งขนาด 7 และ 9 นิ้ว จากภาพจะเห็นว่าระบบปรับอากาศเป็นแบบ Dual Zone อีกด้วย
มาตรวัดหลังพวงมาลัยยังเป็นแบบอนาลอก ผสมกับหน้าจอ MID ขนาด 4.2 นิ้ว มีระบบ เข้า-ออกรถ และสตาร์ทรถโดยไม่ต้องใช้กุญแจ, แอร์ Dual Zone, ที่นั่งปรับมือแต่มีระบบอุ่นเบาะมาให้และมีให้เลือกทั้งผ้าและหนัง, เบรคมือแบบแมนนวล, Panoramic Sunroof, รองรับ Apple CarPlay/Android Auto และเบาะหลังที่ปรับเอนได้สองระดับ
สิ่งที่เพิ่มมาจะเป็นกล้อง 360 องศา และมีระบบช่วยเหลือการขับขี่ (ADAS) เป็นครั้งแรก ซึ่งจะประกอบด้วย Adaptive Cruise Control, Autonomous Emergency Braking (เบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ), ระบบเตือนและป้องกันการออกนอกเลน, Rear Cross-Traffic Alert และระบบอ่านป้ายไฟจราจร
การเริ่มจำหน่ายจะแบ่งออกเป็น 2 รุ่น ได้แก่ Motion และ Ultra ซึ่งทั้งสองรุ่นจะมีระบบความปลอดภัยพื้นฐานคือ ABS, EBD, ESP, BA, แอร์แบค 7 ตำแหน่ง, ระบบแสดงผลแรงดันลมยาง, ระบบช่วยการออกตัวในที่ลาดชัน และจุดยึด Isofix ในตำแหน่งที่นั่งหลัง
ขุมพลังของ S-Cross มาในเครื่องยนต์ไฮบริด เป็นการรวมระหว่างเครื่องยนต์รหัส K14D Boosterjet เบนซิน 4 สูบ 1.4 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า(PS) ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 235 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 2,000-3,000 รอบ/นาที
พร้อมด้วยระบบ SHVS (Smart Hybrid Vehicle by Suzuki) 48V mild hybrid ซึ่งใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งตัวแปลงและมอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่เป็นตัวปั่นไฟเพื่อช่วยเหลือเครื่องยนต์ให้มีอัตราการบริโภคน้ำมันที่ดีขึ้น และยังเพิ่มกำลังของเครื่องยนต์อีก 14 แรงม้า (PS) และแรงบิดอีก 53 นิวตันเมตร
ระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า ในรุ่นท็อป Ultra ยังมีทางเลือกในระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมกับโหมดการขับขี่
ในอนาคตทางซูซูกิจะมีเครื่องยนต์ไฮบริดแบบเต็มรูปแบบให้เลือกเพิ่มเติม ซึ่งประกอบด้วย เครื่องยนต์สันดาปพ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (MGU-Motor Generator Unit) และ Auto Gear Shift(AGS) สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดและ EV Mode ซึ่งเครื่องยนต์นี้จะเริ่มจำหน่ายในยุโรปในปีหน้า
2022 Suzuki S-Cross จะเริ่มเปิดจำหน่ายที่แรกในยุโรปตั้งแต่ปลายปี 2021 ก่อนไปยังตลาดลาตินอเมริกา โอเชียเนีย และเอเชีย ซึ่งน่าเสียดายที่ยังไม่มีแผนสำหรับประเทศไทย
ระหว่างรอว่าจะมาหรือไม่ ลองดูคู่แข่งของมันไปก่อนนะครับ
อ่านเพิ่มเติม : รีวิว 2022 Honda HR-V RS พลังพอตัว ช่วงล่างแจ่ม 0-100 ไม่ถึง 10 วิ ประหยัด 18 กม./ลิตร น่าใช้!!!