2020 MG HS PHEV (เอ็มจี เอชเอส พีเอชอีวี) รุ่นปลั๊กอินไฮบริดเตรียมเปิดตัวในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ ตัดหน้า Mitsubishi Outlander PHEV (มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี) ที่จะปรากฏโฉมในเมืองไทยในช่วงปลายปี

ก่อนหน้านี้ กลุ่มรถเอสยูวี-ซี ระดับคอมแพ็กต์ไม่มีรถรุ่นใดที่ใช้ระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริดมาก่อน มีเพียงรุ่นไฮบริดธรรมดา อย่าง Nissan X-Trail Hybrid ที่ถูกยกเลิกการทำตลาดไปเรียบร้อยแล้ว

Mitsubishi ประกาศล่วงหน้าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาว่าจะเปิดตัว Outlander PHEV อย่างแน่นอนภายในปีนี้ แต่แล้วกลับกลายเป็น MG ที่กำลังจะช่วงชิงนำเสนอ HS PHEV ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดเป็นเจ้าแรกของเซกเมนท์ มาพร้อมเป้าหมายต่อยอดความสำเร็จของรถเอสยูวีรุ่นนี้ที่ทำยอดขายได้ระดับผู้นำตลาด

ถึงแม้ MG จะเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่มีอายุในตลาดเมืองไทยไม่กี่ปี แต่ก็ไม่ใช่ผู้เล่นหน้าใหม่ในกลุ่มรถพลังงานทางเลือก พวกเขานำเสนอ MG ZS EV รถพลังงานไฟฟ้ามาแล้ว และ MG HS PHEV จะเป็นรถปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของ MG ในบ้านเรา

วัดสเปก MG HS PHEV ปะทะ Mitsubishi Outlander PHEV

จากตารางข้างต้นจะเห็นว่า MG HS มีมิติตัวถังสั้นและเตี้ยกว่า แต่มีความกว้างมากกว่า Mitsubishi Outlander PHEV ซึ่งมีรูปทรงตัวถังยาวและสูงดูคล้ายลิ่ม

การออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกของ HS ดูคุ้นเคยกับสายตาผู้บริโภคชาวไทยเพราะไม่แตกต่างจากรุ่นสแตนดาร์ดเครื่องยนต์สันดาปมากนัก ตัวถังภายนอกใช้สีฮีโร่เป็นสีฟ้า Copenhagen Blue บนหลังคามีพาโนรามิกซันรูฟช่วยเพิ่มมูลค่าตัวรถ

ส่วนรูปลักษณ์ของ Outlander PHEV มาพร้อมสไตล์แบบรถอเนกประสงค์ขนานแท้ ไฟหน้า ไฟตัดหมอก เดย์ไลท์ และไฟหลังเป็น LED ทั้งหมด ตกแต่งเสริมความหรูหราด้วยโครเมียมรอบคัน ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า บนหลังคามีซันรูฟเปิด-ปิดไฟฟ้า ล้ออัลลอยมีขนาด 18 นิ้ว หุ้มด้วยยาง 225/55 R18

เปรียบเทียบระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริด

ต้องเรียนแจ้งท่านผู้อ่านก่อนว่า สเปกข้างต้นคือเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในต่างประเทศ ยังไม่มีการยืนยันว่ารุ่นที่จะจำหน่ายในบ้านเรานั้นจะมีข้อมูลทางเทคนิคแตกต่างจากนี้มากน้อยเพียงใด

แต่ถ้าเทียบสเปกกันหมัดต่อหมัด HS PHEV ดูจะเหนือกว่าในหลายด้าน นั่นเป็นเพราะรถเอสยูวีลูกครึ่งจีน-อังกฤษได้รับการพัฒนาขึ้นมาทีหลัง ขณะที่ Outlander PHEV ออกทำตลาดมาได้สักพักแล้วโดยได้รับการปรับปรุงเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง กระทั่งขึ้นแท่นเป็นรถปลั๊กอินไฮบริดที่มียอดขายสูงที่สุดในภูมิภาคยุโรประหว่างปี 2015 - 2019 ด้วยตัวเลขมากกว่า 260,000 คัน

สำหรับระยะทางขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน ๆ นั้น สเปกเบื้องต้นระบุว่า HS PHEV ทำได้ที่ 75 กม. ส่วน Outlander PHEV อยู่ที่ 55 กม.

องค์ประกอบสำคัญที่น่าติดตามนอกเหนือจากระบบขับเคลื่อนคือฟังก์ชั่นการชาร์จไฟฟ้า ทั้งสองรุ่นจะมาพร้อมหัวชาร์จแบบใด ใช้งานได้สะดวกสบายหรือไม่ และเติมกระแสไฟฟ้าได้รวดเร็วแค่ไหน ปัจจัยทั้งหมดจะช่วยส่งเสริมการตัดสินใจซื้อของลูกค้าในบ้านเราอย่างแน่นอน

ความน่าจะเป็นด้านราคาจำหน่าย

มีความเป็นไปได้ที่ MG จะกำหนดกลยุทธ์ราคาของ HS EV ที่ช่วยให้ลูกค้าเอื้อมถึงได้ง่ายและเขย่าตลาดรถยนต์อีกเช่นเดิม คาดว่าค่าตัวของรถเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่นี้จะอยู่ที่ประมาณ 1.2 - 1.3 ล้านบาท สามารถช่วงชิงลูกค้าที่มองหารถอเนกประสงค์ประหยัดพลังงานได้อย่างที่คู่แข่งอาจต้องมองค้อน 

ขณะที่ Outlander PHEV คาดว่าจะออกจำหน่ายด้วยราคาราว 1.3 - 1.6 ล้านบาท พอฟัดพอเหวี่ยงกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน ทั้ง Mazda CX-5 และ Honda CR-V