Mercedes-Benz A-Class (เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ-คลาส) รถยนต์นั่งซีดานขนาดเล็กและ Mercedes-Benz GLA (เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ) ครอสโอเวอร์รุ่นเล็ก เตรียมขึ้นไลน์การผลิตในประเทศไทย โดยมีกำหนดการเปิดตัวในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ ก่อนการเปิดงานมหกรรมยานยนต์
แม้จะอยู่ในช่วงที่ตลาดรถยนต์ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจาก COVID-19 ในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ทั้งหมดในภาพรวม ค่ายรถยนต์ตราดาวเตรียมเดินหน้าแผนงานด้านสินค้าของพวกเขาต่อ ด้วยการส่งรถยนต์รุ่นที่ผลิตในประเทศไทยเข้ามาทำตลาดเพิ่มเติมในช่วงปลายปีนี้
เอ-คลาสนั้น ทำตลาดในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องด้วยเวอร์ชั่นนำเข้า และมีลูกค้าที่ให้ความสนใจมากพอสมควร ขณะที่จีแอลเอที่เปิดตัวไปในตลาดโลกตั้งแต่ปลายปี 2562 ที่ผ่านมา ก็มีมาให้ลุ้นกันว่าพวกเขาจะมาพร้อมทางเลือกเครื่องยนต์อะไรใหม่ ๆ หรือไม่ จากเดิมที่มีเครื่องยนต์ให้เลือกรุ่นเดียว
รถยนต์ขนาดเล็กเรือธงแห่งการแย่งชิงตลาดเริ่มต้นของผู้ที่นิยมรถยนต์หรูหราที่ขับเคลื่อนได้อย่างคล่องตัว มาพร้อมการนำเข้าทั้งคันเพื่อจำหน่ายรุ่นเดียวกัน Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic ที่ตกแต่งสปอร์ตลงตัว พร้อมราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่คบหายากอยู่ที่ 2.49 ล้านบาท
การออกแบบตัวถังเน้นการลดความเป็นสันเหลี่ยมรอบคัน แล้วโชว์พื้นผิวโค้งที่เล่นกับแสงเงามากขึ้นกว่าเดิม ไฟหน้าแบบเรียวแคบเอกลักษณ์ของค่ายแบบใหม่ ๆ กระจังหน้าแบบไดมอนต์กริลล์ ห้องโดยสารได้รับการตกแต่งแบบเรียบหรู แต่ครบครันด้วยอุปกรณ์ในการใช้งานในแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เบนซ์
ความกว้างขวางในห้องโดยสารคือจุดขายของรถยนต์คันนี้ เพราะเมื่อเทียบกับเพื่อน ๆ ในเซกเมนต์ใกล้เคียงกัน การจัดการด้านห้องโดยสารและพื้นที่ถือว่าดีที่สุดคันหนึ่ง มาพร้อมตัวถังกว้าง 1,796 มิลลิเมตร ยาว 4,556 มิลลิเมตร สูง 1,425 มิลลิเมตร พร้อมด้วยฐานล้อยาว 2,729 มิลลิเมตร เรียกว่ากระทัดรัดพอสมควร
ขุมพลังทางเลือกเดียวในประเทศไทย เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 1.4 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 1,620-4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบคลัตช์คู่ 7 สปีด เร่งจาก 0-100 กม.ต่อชม. ได้ใน 8.1 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 230 กม.ต่อชม.
การผลิตในประเทศในครั้งนี้ แน่นอนว่าตัวเครื่องยนต์ดีเซลนั้นไม่น่าจะเข้ามาเปิดตัวอย่างแน่นอน แต่ต้องมารอลุ้นกันว่าจะมีการเพิ่มไลน์อัพการตกแต่งของตัวรถ หรือการติดตั้งอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยใหม่ ๆ เข้ามาในรถคันนี้หรือไม่ โดยราคาจำหน่ายไม่น่าจะมีการปรับเปลี่ยน รวมไปถึงเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดก็คงไม่มาเช่นกัน
หลังจากการเปิดตัวผ่านระบบออนไลน์ในวันที่ 11 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ไม่ได้มีการอัพเดตอะไรที่สำคัญเกี่ยวกับรถครอสโอเวอร์รุ่นนี้ออกมา ทำให้ลูกค้าชาวไทยหลาย ๆ คนเริ่มถามกันแล้วว่า ตกลงค่ายรถยนต์ตราดาวจะยังเดินหน้าทำตลาดจีแอลเอต่อไปในประเทศไทยหรือเปล่า
และแน่นอนว่าพวกเขาเตรียมพร้อมที่จะเดินหน้าเปิดสายการผลิตเพื่อทำตลาดรถยนต์รุ่นนี้อย่างแน่นอน โดยจีแอลเอใหม่นั้น มาพร้อมกับขนาดที่ดูสปอร์ตปราดเปรียวในรูปลักษณ์ของเอสยูวีมากขึ้น ความกว้างขวางใหญ่โตของห้องโดยสาร รวมไปถึงเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับปรุงสมรรถนะมาเป็นอย่างดีขึ้นชัดเจน
ตัวถังภายนอกนั้นมีขนาดกว้าง 1,834 มิลลิเมตร หรือกว้างกว่าเดิม 30 มิลลิเมตร ยาว 4,410 มิลลิเมตร ลดลงจากเดิม 14 มิลลิเมตร สูง 1,611 มิลลิเมตร หรือสูงกว่าเดิมถึง 104 มิลลิเมตร เพิ่มพื้นที่เหนือศีรษะให้กับผู้โดยสารตอนหน้า และฐานล้อยาว 2,729 มิลลิเมตร ยาวขึ้น 30 มิลลิเมตร เพิ่มพื้นที่ของห้องโดยสาร
เครื่องยนต์รุ่นหลักที่ทำตลาดในรุ่นจีแอลเอ 200 มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1,332 ซีซี. ที่ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด และมีทางเลือกตัวแรงอย่างจีแอลเอ 35 เอเอ็มจี เครื่องยนต์ 306 แรงม้า 400 นิวตันเมตร รวมถึงปลั๊กอินไฮบริดใต้แบรนด์อีคิวให้เลือกใช้
แน่นอนว่าเครื่องยนต์รุ่นมาตรฐานนั้นมาเปิดตัวอย่างแน่นอน ขณะที่ตัวแรงและไฮบริดยังต้องรอดูกันต่อไป รวมไปถึงทริมและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่แฟน ๆ ต้องลุ้นกันต่อล่ะว่า เมื่อเปิดสายการผลิตแล้วจะมีรุ่นอะไรจำหน่ายกันบ้าง โดยโฉมปัจจุบันที่ทำตลาดจีแอลเอ 200 เออร์บันนั้น เคาะราคาพิเศษอยู่ที่ 1.99 ล้านบาทเท่านั้น
จะมีอะไรเซอร์ไพร์สอีกในช่วงปลายปีนี้
อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องจับตามองกันอย่างจริงจังในช่วงที่เหลือของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็คงจะเป็นเรื่องการตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ในปีนี้หรือไม่ เพราะการเคาะกำหนดการเปิดตัวรถยนต์ใหม่ของพวกเขาในช่วงเวลาดังกล่าว ก็เป็นการหยั่งเชิงเบาเบาว่าพวกเขานั้นอยากจะร่วมงานแสดงรถยนต์เพื่อขายของกันขนาดไหน
แต่อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่ว่า บริษัทแม่อย่างเดมเลอร์ เอจีนั้น ได้ออกมาประกาศอย่างชัดเจนว่าจะไม่เข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่ใดทั้งสิ้น ตั้งแต่ช่วงการเกิดปัญหาโรคระบาดในช่วงที่ผ่านมา ทำให้งานหลักในประเทศไทยอย่างงานมอเตอร์โชว์ พวกเขาก็ไม่ได้เข้าร่วม และหันมาจัดกิจกรรมตามดีลเลอร์เพื่อกระตุ้นยอดจำหน่ายแทน
ขณะที่ตัวสินค้าอื่น ๆ นั้น ก็ยังจะไม่น่ามีอะไรเพิ่มเติมไปมากกว่านี้ อย่างเจ้า Mercedes-Benz S-Class รุ่นใหม่ ที่เปิดตัวไปในตลาดโลกนั้น ไม่ได้เห็นในปีนี้อย่างแน่นอน ส่วนเรื่องยอดขาย พวกเขาก็น่าจะรักษาส่วนแบ่งตลาดของตัวเองเอาไว้ได้อย่างเข้มแข็งอีกปี เอาจริง ๆ ก็เหลือลุ้นแค่ซีเคดีสองคันนี้เท่านั้นล่ะปีนี้