Great Wall Motors (เกรทวอลล์ มอเตอร์) เตรียมตัวจะเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการช่วงหัวค่ำวันนี้ หลังจากเจอปัญหาโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้ต้องเลื่อนแผนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการออกมาจากช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา
หลังจากเข้าซื้อโรงงานผลิตรถยนต์และหน่วยปฏิบัติงานอื่น ๆ จากจีเอ็ม ประเทศไทย ในช่วงต้นปี 2563 ที่ผ่านมา พวกเขาทำตัวเงียบงันในประเทศไทยร่วม ๆ ครึ่งปี จนเมื่อ Chevrolet (เชฟโรเลต) ออกมาหยุดผลิตและเริ่มขั้นตอนการถอนตัวจากประเทศไทย
GWM ก็เลยเริ่มเดินสายแนะนำตัวอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ รวมถึงออกข่าวแจกเพื่อให้ตัวเองเป็นที่รู้จักกันอย่างถี่ยิบ นับตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 เพื่อปูพรมให้ประชาชนชาวไทยได้รู้จักกับแบรนด์ของพวกเขา ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ท่ามกลางความสงสัยของผู้ที่ติดตามอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มมีการวิพากวิจารณ์กันถึงการเข้ามาของแบรนด์น้องใหม่สัญชาติจีน ที่เปิดหน้ากันอย่างเป็นทางการถึงที่มาที่ไปของแบรนด์ ท้าทายความเชื่อในเชิงลบของลูกค้าต่อแบรนด์จีน
AutoFun Thailand ขอพาย้อนรอยหนึ่งในรถยนต์แดนพญามังกร ที่กำลังเดินหน้าสร้างเครือข่ายการผลิตและการจำหน่ายนอกประเทศอย่างเข้มข้น และแน่นอนว่าเราจะประเมินว่าพวกเขาดีพอหรือไม่ ที่จะก้าวมาเป็นผู้เล่นหลักในประเทศไทยในอนาคต
เรารู้อะไรเกี่ยวกับ Great Wall Motors
ในเบื้องต้นนั้น เรารู้เพียงแค่ว่าจีดับบลิวเอ็มนั้นเคยเข้ามาพยายามเปิดตลาดในประเทศไทยมาก่อน ด้วยการเข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ในอดีต พร้อมนำรถเอสยูวีที่ขายดีที่สุดในโลกอย่าง Haval H6 (ฮาวาล เอช6) มาจัดแสดงในประเทศไทย
นอกจากนี้ พวกเขายังหาญกล้าแสดงความล้ำหน้าของโลกยานยนต์ ณ เวลานั้น ด้วยการส่งรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบประตูแบบปีกนกมาให้ประชาชนชาวไทยได้รู้จัก ทั้งที่คำว่ารถยนต์ไฟฟ้าในช่วงเวลานั้นยังเป็นสิ่งที่ไม่ได้รู้จักกันอย่างแพร่หลาย
ว่ากันว่าเกรทวอลล์นั้นพยายามหาทางเข้ามาทำตลาดในอาเซียนมาก่อนที่ MG (เอ็มจี) รถอังกฤษสัญชาติจีนจะเข้ามาทำตลาดเสียอีก แต่ก็ติดปัญหาในหลาย ๆ เรื่อง รวมถึงการพัฒนาโครงการต่าง ๆ มากมายของตัวเอง ทำให้ขยับออกมาลำบาก
จนกระทั่งถึงวันหนึ่ง เมื่อจีเอ็มประกาศว่าพวกเขาต้องการยกเลิกการทำตลาดทั้งหมดในภูมิภาคนี้ รวมถึงหาผู้ซื้อกิจการทั้งในไทย อินโดนีเซียและอินเดีย แน่นอนว่าคงยากที่ผู้ประกอบการรายเดิม ๆ ที่มีอยู่ จะสามารถเข้าเทคโอเวอร์กิจการได้ทั้งหมด
เมื่อคิดคำนวนทุกอย่างอย่างลงตัวแล้ว เกรทวอลล์ มอเตอร์จึงได้คืบหน้าเรื่องแผนงานนี้อย่างรวดเร็ว และใช้เวลาไม่นานในการปิดดีลในประเทศต่าง ๆ เริ่มมาจากอินเดีย อินโดนีเซีย และประเทศไทยปิดท้ายโครงข่ายการผลิตอย่างครบวงจร
ทำไม GWM คิดว่าเหมาะกับตลาดนี้
หลาย ๆ คนประเมินว่าปัจจัยที่ทำให้เกรทวอลล์กล้าเดินหน้าในตลาดประเทศไทย น่าจะเป็นเพราะเห็นการประสบความสำเร็จของแบรนด์เพื่อนอย่างเอ็มจี ที่ถือว่ามียอดจำหน่ายไม่เลวในตลาดประเทศไทย และยังมีตลาดส่งออกมารองรับอีก
แต่สิ่งที่เป็นตัวตัดสินจริง ๆ น่าจะเป็นเรื่องความเหมาะสมกับตลาด การใช้เป็นฐานการผลิตพวงมาลัยขวา การมีระบบเขตการค้าเสรีมารองรับ ทำให้สามารถแชร์เรื่องการผลิตกันได้ และที่สำคัญก็คือ สินค้าที่พวกเขามีอยู่นั้นรองรับกับตลาดเป็นอย่างดี
แน่นอนว่าสินค้าตัวแรกของพวกเขาคือ Haval H6 (ฮาวาล เอช6) รถยนต์เอนกประสงค์ที่ขายดีที่สุดในประเทศจีน ทำตลาดและระดับราคาสูสีกับ MG HS (เอ็มจี เอชเอส) น่าจะเป็นสินค้าที่ทำยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำหากทำราคามาสวยสวย
สินค้าอีกตัวที่น่าจะเข้ามาแน่นอนก็คือรถกระบะรุ่นปืนใหญ่ GWM Pao (จีเอ็มดับบลิว เป๋า) ที่ออกแบบมาอย่างดุดันถูกใจผู้บริโภคชาวไทยอย่างแน่นอน แต่น่าจะต้องใช้เวลาในการศึกษาตลาดอีกสักนิดว่าจะวางตำแหน่งสินค้าให้แตกต่างอย่างไรได้
อีกคันที่หลาย ๆ คนคิดว่าจะมา เพราะกระแสเรียกร้องเหลือเกินก็คือเจ้ารถยนต์ไฟฟ้าคันน่ารักอย่าง ORA Good Cat (โออาร์เอ กู๊ดแคท) นั้น เชื่อว่าเกรทวอลล์ก็คงต้องดูกระแสและความเป็นไปได้ของตลาดว่าควรหรือไม่ควรสำหรับประเทศไทยในตอนนี้
เมื่อไหร่เราจะได้ใช้รถ GWM
หลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันนี้แล้ว เกรทวอลล์ มอเตอร์ เตรียมที่จะเปิดตัวสู่สาธารณชนอย่างยิ่งใหญ่ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ สิ้นเดือนมีนาคมนี้ โดยได้มีการจับจองพื้นที่แสดงรถยนต์เอาไว้เป็นที่เรียบร้อย
ในงานนั้นนอกจากจะเป็นการเปิดไลน์อัพสินค้าที่จะทำตลาด และคาดว่าจะเป็นงานเปิดราคาจำหน่ายของเอสยูวีรุ่นแรกอย่างเป็นทางการ ก็คาดว่าจะเป็นการประกาศขายรถของบริษัทในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเช่นเดียวกัน
เครือข่ายตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการนั้นไม่ใช่ปัญหา เพราะพวกเขาเตรียมแผนงานเอาไว้หมดแล้ว มีการเจรจากับตัวแทนจำนหน่ายรถยนต์มากหน้าหลายตา ให้มา 'ทดลอง' ทำตลาดแบรนด์ใหม่ ที่มั่นใจว่าจะมัดใจผู้บริโภคชาวไทยเอาไว้ไม่ยาก
ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่โรงงานของเกรทวอลล์ที่ไปเทคมาจากจีเอ็ม ประเทศไทย ก็กำลังจะขึ้นเป็นฐานการผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ ที่ใช้พวงมาลัยขวา โดยหากดูตามพันธสัญญา พวกเขาวางแผนผลิตรถมากถึง 8 หมื่นคันต่อปี
และแน่นอนว่าจะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นโรงงานผลิตอย่างสมบูรณ์แบบแห่งที่ 3 นอกประเทศจีน และยังเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกไปยังอาเซียน ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ และตลาดใหม่อื่น ๆ ที่จะตามมาเพิ่มเติมในอนาคต
แล้วเราคิดอย่างไรกับ Great Wall Motor กันนะ
แน่นนอนว่าเราก็เป็นเหมือนทุกคนที่เวลามีแบรนด์รถยนต์ใหม่ ๆ เข้ามา ก็อดที่จะตั้งคำถามในใจไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใหม่จะไหวไหม หรือควรที่จะเสี่ยงกับแบรนด์นี้หรือไม่ เหมือนตอนที่เอ็มจีเข้ามาใหม่ ๆ พวกเราก็ตั้งคำถามแบบนี้
การประกาศฮุบโรงงานของจีเอ็ม พร้อมด้วยการค่อย ๆ ทำแผนงานอย่างไม่รีบร้อนอะไรมาข้ามปี ก็อาจจะแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการทำตลาดของพวกเขาได้บ้าง แต่ก็อาจจะยังไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจของพวกเราในการเลือกซื้อรถสักคัน
ที่เหลือที่จีดับบลิวเอ็มต้องทำเพื่อที่จะมัดใจลูกค้าชาวไทย ก็คือการนำเข้ารถรุ่นใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ การทำราคาจำหน่ายที่เหมาะสม ไม่ได้ถูกอย่างเดียว แต่ต้องเน้นเรื่องการให้บริการที่มีมาตรฐาน เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในการเป็นเจ้าของรถยนต์แบรนด์นี้
แน่นอนว่ามันไม่ได้ง่ายแน่นอน เพราะเอาจริง ๆ ในยุคหลัง ๆ นี้ แบรนด์รถยนต์แบรนด์เข้าเมืองไทยกันยากมากขึ้นเรื่อย ๆ แถมการเป็นแบรนด์ที่ไม่มีแฟนอยู่ในตลาดมาก่อน ก็ทำให้เกรทวอลล์นั้นต้องทำงานหนักกันมากขึ้นในการรังสรรค์ตลาด
วันนี้พวกเขาจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย และจากนั้นก็น่าจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ด้วยข่าวคราวและแผนงานที่จะเข้มข้นตามมา ซึ่งเราเชื่อว่า GWM น่าจะพร้อมยืนระยะในประเทศไทยกันไปยาว ๆ ในอนาคต
ให้เวลาและเปิดใจกับแบรนด์ใหม่กันหน่อย อาจจะมีอะไรซ่อนอยู่มากกว่าที่คิด!!!