Haval H6 (ฮาวาล เอช6) จะเป็นสินค้าตัวแรกที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย ตามมาด้วย ORA Good Cat (ออร่า กู๊ดแคท) นี่คือทั้งหมดที่เรารู้มาจากการไลฟ์สตรีมเปิดตัว GWM Thailand หรือ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย เมื่อค่ำวานนี้ นอกจากนั้นทุกอย่างยังเป็นปริศนาทั้งหมด
หลังงานแถลงข่าว 1 วัน ผู้บริหารของจีดับบลิวเอ็มได้เชิญสื่อมวลชนกลุ่มหนึ่งมาพูดคุยกันเกี่ยวกับคำถามมากมายที่เกิดขึ้นกับแบรนด์ใหม่สำหรับตลาดประเทศไทยนี้ ซึ่งถือเป็นการพบปะอย่างเป็นทางการของเกรทวอลล์และนักข่าวเป็นครั้งแรก ซึ่งก็มีการถามตอบกันในหลายประเด็น
AutoFun Thailand เข้าร่วมพบปะกับทีมผู้บริหาร ที่นำทีมมาโดย เอลเลียต จาง ผู้บริหารใหญ่สุดของภูมิภาคอาเซียน เกรทวอลล์ มอเตอร์ และนี่คือ 9 ประเด็นที่น่าสนใจที่เราได้จากการพบปะพูดคุยกัน แม้มันจะยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนอย่างที่เราอยากได้ แต่ก็ทำให้เราได้รู้จักกับพวกเขาอย่างชัดเจนมากขึ้น
หนึ่ง ประเทศไทยจะเป็นเฮดควอเตอร์ของอาเซียน
เอลเลียตบอกว่าการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยและการเข้ามาจัดตั้งบริษัทต่าง ๆ สำหรับการบริหารงานในประเทศไทย ก็เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นเฮดควอเตอร์ของภูมิภาคอาเซียน โดยที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าซื้อโรงงานของจีเอ็มในประเทศไทยและอินโดนีเซียในช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม จากปัญหาเรื่องโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้ไม่สามารถเดินหน้าโครงการต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ และได้เลือกบริหารในประเทศไทยก่อน และคาดว่าหลังจากนี้เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ก็จะเข้าไปศึกษาตลาดอื่น ๆ ในอาเซียน รวมถึง อินโดนีเซีย เวียดนามและฟิลิปปินส์ ในอนาคต
"สำหรับโรงงานในมาเลเซียนั้น เป็นโรงงานขนาดเล็กที่เน้นการประกอบรถยนต์ สำหรับตลาดในประเทศมาเลเซียเท่านั้น ขณะที่ตลาดอินเดียที่มีการซื้อโรงงานมาพร้อมกัน ก็ไม่ได้อยู่ในการดูแลของอาเซียน เนื่องจากกลุ่มลูกค้ามีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก จึงไม่เกี่ยวกับผมแต่อย่างใด"
สอง ลงทุนไปแล้ว 2.26 หมื่นล้านบาทและยังไม่หยุดแค่นี้
หลังจากประกาศเข้าซื้อโรงงานจากเจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2563 และเพิ่งได้รับส่งมอบโรงงานอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีรายงานว่าเกรทวอลล์ใช้งบลงทุนในโครงการนี้ในประเทศไทยไปแล้วกว่า 2.26 หมื่นล้านบาท
นอกเหนือจากการเข้าซื้อทรัพย์สินทั้งหมด ได้มีการว่าจ้างพนักงานเพิ่มเติมในช่วงที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน โรงงานแห่งนี้มีพนักงานมากกว่า 500 คน โดยส่วนใหญ่เป็นการรับสมัครพนักงานของจีเอ็มกลับเข้ามา และเริ่มเดินสายทดลองการประกอบรถยนต์ที่โรงงานแห่งนี้ไปแล้วในปัจจุบัน
จางบอกว่าโรงงานแห่งนี้จะเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ ที่จะดูแลทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออกสำหรับพวงมาลัยขวาขนาดใหญ่ที่สุดของเกรทวอลล์ มอเตอร์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถส่งออกรถเอสยูวีรุ่นใหม่ ที่ทำการผลิตที่โรงงานแห่งนี้ เป็นสินค้าสำหรับส่งออกจากประเทศไทยได้ในอนาคต
สาม Haval H6 เริ่มผลิตไตรมาส 2 ส่วนออร่านั้นนำเข้าทั้งหมด
สินค้ารุ่นแรกที่จะผลิตและทำตลาดในประเทศไทยก็คือ Haval H6 โดยจะเริ่มต้นเปิดสายการผลิตอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ โดยคาดว่ารถเอสยูวีรุ่นใหม่นี้ จะเปิดตัวต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการกันในช่วงงานมอเตอร์โชว์ สิ้นเดือนมีนาคมนี้ พร้อมกับออร่า กู๊ดแคท
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้านั้น แม้จะเป็นตลาดที่ทางเกรทวอลล์ค่อนข้างหมายมั่นปั้นมือว่าต้องการขึ้นเป็นผู้นำ แต่ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน พวกเขาจะยังเดินหน้านำเข้าสินค้าในเฟสแรกของการทำตลาดจากประเทศจีนทั้งหมด โดยไม่มีการเปิดเผยว่าจะมีการลงทุนเพื่อเพิ่มสายการผลิตแต่อย่างใด
"สิ่งที่เรายืนยันได้ก็คือ ขณะนี้เรายังระหว่างการรอการส่งเสริมการลงทุนสำหรับรถยนต์พลังงานใหม่ จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ รวมถึงเรามีแผนงานมากมายที่จะทำเพื่อสนับสนุนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ขอให้รอรับชมได้กันได้เลย"
สี่ ยืนยันว่าไม่เน้นยอดขายในระยะสั้น
แม้จะเปิดตัวบริษัทใหม่ในปีของโควิด-19 แต่ผู้บริหารของเกรทวอลล์ทุกคนยืนยันว่า เป้าหมายหลักในการทำตลาดปีนี้และปีหน้าของพวกเขา คือการนำเสนอสินค้าใหม่ที่จะเน้นด้านนวัตกรรมที่สามารถจับต้องได้ ในราคาที่เป็นเหตุเป็นผล และตั้งเป้าหมายการโดนใจผู้บริโภคเป็นพิเศษ
เป้าหมายการเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่เป็นท็อปออฟไมด์ 1 ใน 3 ของทุกเซกเมนต์ที่บริษัทจะเข้าไปทำตลาดนั้น แม้จะฟังดูลอยไปในอากาศสักเล็กน้อย แต่ผู้บริหารทุกคนก็ยืนยันว่าการตั้งเป้าหมายเพื่อเน้นการจำหน่ายให้เยอะที่สุด อาจจะทำให้พวกเขาไม่สามารถเดินหน้าเป้าหมายหลักของตัวเองไปได้
นอกจากนี้ การที่ประเมินว่าตลาดรถยนต์ในประเทศไทยนั้นเป็นตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรงมาก ทำให้อยากเน้นไปที่เรื่องของการสร้างแบรนด์ การนำเสนอสินค้าเพื่อครองใจผู้บริโภค และเกรทวอลล์ก็ต้องการให้พวกเขามีบทบาทในตลาดด้วยการรูปแบบการทำตลาดแบบใหม่มากขึ้น
ห้า โรงงานสำหรับการส่งออกในอนาคต
เกรทวอลล์นั้นประกาศว่าการลงทุน 2.26 หมื่นล้านบาทเป็นการลงทุนสำหรับเฟสแรกของบริษัท และหากต้องการการลงทุนเพิ่มในอนาคตนั้น พวกเขาก็สามารถทำได้ โดยมีโปรเจคต์ที่อยู่ระหว่างการขอรองรับการส่งเสริมการลงทุนอย่างโครงการผลิตรถยนต์พลังงานรูปแบบใหม่ที่รอพิจารณา
สำหรับการลงทุนเฟสแรกของเกรทวอลล์นั้น จะสร้างการจ้างแรงงานเพิ่มอีก 5,000 คน พร้อมสร้างกำลังการผลิตสูงสุด 8 หมื่นคันในเฟสแรก โดยพวกเขาระบุว่าจะพยายามเพิ่มการใช้ชิ้นส่วนในประเทศไทยให้ได้เป็นไม่น้อยกว่า 45% เพื่อช่วยลดต้นทุน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ทั้งนี้ โรงงานจีดับบลิวเอ็ม ประเทศไทย จะเริ่มเดินสายการผลิตรถรุ่นแรกอย่างฮาวาล เอช6 พวงมาลัยขวา และมีเป้าหมายที่จะส่งออกไปทำตลาดอย่างอาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และมีแผนที่จะเดินหน้าผลิตรถรุ่นอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต เพื่อรองรับตลาดในประเทศและตลาดส่งออก
หก การให้บริการรูปแบบใหม่ ผสมผสานออนไลน์
ณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรทวอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย ตอบคำถามเรื่องของการให้บริการลูกค้าในประเทศไทย ว่ารูปแบบของการให้บริการนั้น จะมีความแตกต่างจากโชว์รูมและศูนย์บริการในอดีต ซึ่งเป็นการผสมผสานกันของระบบออฟไลน์และระบบออนไลน์ในตลาด
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่ตั้งตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการ แต่จะไม่เน้นการขยายจำนวนมากหรือขนาดใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่าเกรทวอลล์วางแผนที่จะตั้งโชว์รูมไม่น้อยกว่า 30 แห่ง รวมถึงการสร้างศูนย์บริการแฟลกชิปเพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าแบบครบวงจร
"ตอนนี้คงบอกรายละเอียดทั้่งหมดไม่ได้ แต่เราพยายามจะนำเสนอรูปแบบการซื้อรถและให้บริการแบบใหม่ เช่น การจองการเข้ารับบริการผ่านแอพพลิเคชั่น ขั้นตอนทุกอย่างทำผ่านระบบออนไลน์ หรือการให้บริการอื่น ๆ ที่จะเปิดเผยอย่างเป็นทางการพร้อมการเปิดตัวรถรุ่นใหม่"
เจ็ด รถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าต้องมา
เกรทวอลล์นั้นประกาศตัวเองขึ้นเป็นผู้นำตลาดรถยนต์กลุ่มเอ็กซ์อีวี หรือที่้ใช้งานพลังงานไฟฟ้าทุกรูปแบบ พร้อมกับการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง ORA Good Cat อย่างไรก็ตาม พวกเขาระบุว่าหากมีความต้องการเครื่องยนต์สันดาปภายใน พวกเขาก็พร้อมนำเข้ามาทำตลาดเช่นเดียวกัน
AutoFun Thailand ถามย้ำกับผู้บริหารว่า Haval H6 ที่จะเปิดตัวในไตรมาสสองจะมาพร้อมเครื่องยนต์แบบไหน เพราะในประเทศจีนก็มีทางเลือกเพียงเครื่องยนต์เบนซิน แต่ก็ได้รับคำตอบว่า รายละเอียดทั้งหมดของเครื่องยนต์นั้นจะได้รับการเปิดเผยกันเมื่อเปิดตัวรถรุ่นนี้ในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ณรงค์ระบุว่าเพื่อผลักดันตลาดรถยนต์ไฟฟ้าให้เกิดขึ้นในประเทศไทย บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อขยายสถานีชาร์จไฟฟ้าหลากหลายรูปแบบ ทั้งการร่วมมือกับภาครัฐและการขยายสถานีของตัวเอง เพื่อให้สอดคล้องกับการทำตลาด และผลักดันยอดจำหน่ายขึ้นเป็นผู้นำในอนาคต
แปด แบรนด์จีนและเทคโนโลยีแห่งโลกใหม่
เกรทวอลล์นั้น เข้าทำตลาดในประเทศไทยด้วบการประกาศตัวเองเป็นแบรนด์รถยนต์สัญชาติจีนอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งดูจะท้าทายต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวไทย ที่มักมองว่าสินค้าจากจีนนั้นด้อยคุณภาพ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ผู้บริหารของเกรทวอลล์นั้นไม่เห็นด้วย และบอกว่าเป็นเรื่องเก่ามานานแล้ว
"หากย้อนกลับไปสักสิบปีก่อน แบรนด์จีนก็อาจจะไม่ได้รับการยอมรับอย่างเต็มที่ แต่คิดว่าในช่วงหลัง ๆ หลาย ๆ แบรนด์จากจีนก็ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี และประเทศจีนเองก็เป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งบริษัทก็เตรียมนำสิ่งเหล่านี้มานำเสนอในประเทศไทย"
ผู้บริหารของค่ายระบุว่าเป้าหมายที่จะเดินหน้าก็คือการมุ่งสู่การเป็นผู้นำ ด้วยการเสนอผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยีที่มีอยู่ ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพัฒนาแบตเตอรี่รูปแบบใหม่ที่ไม่มีโคบอลต์ หรือการวิจัยระบบขับเคลื่อนใหม่ ๆ ทั่วโลก ที่สามารถสร้างความแตกต่างได้แน่นอน
เก้า ราคานั้นไม่ถูกแต่ต้องแข่งขันได้
คำถามเรื่องราคาดูเหมือนจะเป็นอีกเรื่องที่มีการถามกันมากในช่วงของการสัมภาษณ์ เพราะมีการตั้งธงว่าสินค้าจากจีนนั้นมักจะเน้นการทำราคาจำหน่ายให้ถูกลง เพื่อให้สามารถแข่งจันได้ จางบอกว่า ในตอนแรกที่มีการตั้งโจทย์นั้น พวกเขาไม่ได้มองเรื่องการทำราคาเพื่อแข่งกับผู้ผลิตรายอื่น
"เราเอาลูกค้าเป็นตัวตั้ง เอาความต้องการของลูกค้า อยากได้แบบไหน สินค้าที่เรามีจะตอบโจทย์ไหม เทคโนโลยีที่เรามีโอเคไหม นี่คือเราดีไซน์ผลิตภัณฑ์มา เราเชื่อว่าลูกค้าไม่ได้อยากได้เทคโนโลยีต่ำในราคาถูก แต่ต้องการเทคโนโลยีที่มากขึ้น ในราคาที่สามารถแข่งขันได้ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ"
เพราะฉะนั้น การวางตำแหน่งราคาสินค้าของบริษัทจะไม่เน้นไปที่การทำราคาเพื่อท้าชิงตลาด แต่อยากที่จะรู้จักกับคนไทยมากขึ้น อยากวัดผลการตอบรับของแบรนด์ว่ามาถูกทางหรือไม่ และราคาจำหน่ายรถยนต์จะเปิดตัวพร้อมการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ คันแรกก็คือไตรมาสสองนี้นี่เอง