2022 Haval Tank 300 (2022 ฮาวาล แทงก์ 300) คือรถอเนกประสงค์ขนาดกลางสายพันธุ์บึกบึนที่ว่ากันว่าจะเข้ามาทำตลาดเมืองไทยภายในปีหน้า
Great Wall Motor หรือ GWM (เกรท วอลล์ มอเตอร์) ประกาศในงานแถลงข่าวเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ว่าจะจัดจำหน่ายรถยนต์ถึง 9 รุ่นภายใน 3 ปี เริ่มต้นจากรถเอสยูวี-ซี 2021 Haval H6 (2021 ฮาวาล เอช6) ตามมาด้วยรถยนต์ไฟฟ้า 2021 ORA Good Cat (2021 ออร่า กู๊ดแคท) ซึ่งทั้งสองรุ่นจะประเดิมขายภายในปีนี้แน่นอน
สำหรับในปีหน้า คาดว่าจะถึงคิวของรถเอสยูวีรุ่นต่าง ๆ ปัจจุบัน Haval นำเสนอรถเอสยูวีสไตล์บึกบึน 2 รุ่นคือ Big Dog (ฮาวาล บิ๊ก ด็อก) ที่เราเคยนำเสนอไปแล้ว และรถเอสยูวีที่มีหน้าตาคล้ายกันแต่ขนาดใหญ่กว่าและบึกบึนกว่าอย่าง Tank 300 ซึ่งเป็นรถอเนกประสงค์ที่คอรถออฟโรดไม่ควรพลาด
เปิดสเปกเบื้องต้น “ไอ้รถถัง”
จุดเด่นของ Tank 300 คือการสร้างบนแชสซีส์แบบ ladder frame ที่จะให้สมรรถนะความทรหดเหนือชั้นกว่ารถเอสยูวี-ครอสโอเวอร์ทั่วไป ในแง่ของความบึกบึนนั้นจะเทียบเท่ารถพีพีวีหรือรถกระบะดัดแปลงอย่าง Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์) Mitsubishi Pajero Sport (มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต) และ Ford Everest (ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์)
มิติตัวถัง |
|
Haval Tank 300 |
Toyota Fortuner |
ความยาว (มม.) |
4,720 |
4,795 |
ความกว้าง (มม.) |
1,927 |
1,855 |
ความสูง (มม.) |
1,930 |
1,835 |
ระยะฐานล้อ (มม.) |
2,750 |
2,750 |
รูปลักษณ์ของ Tank 300 โดดเด่นตรงที่สไตล์แบบย้อนยุคผสมผสานความทันสมัย รูปทรงแบบกล่องเหลี่ยมชวนให้นึกถึงรถเอสยูวีตระกูล Land Rover ไฟหน้าทรงกลม กระจกมองข้างทรงเหลี่ยม แผงกันชน ซุ้มล้อ และส่วนอื่น ๆ เน้นความแข็งแกร่งแทบทั้งสิ้น
ภายในห้องโดยสารน่าจับต้องใช้งานด้วยช่องแอร์ทรงกลมที่มีดีไซน์คล้ายไอพ่นเครื่องบิน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน มาตรวัดเป็นจอฟูลดิจิทัลที่เชื่อมต่อกับจอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ 12.3 นิ้ว คอนโซลกลางติดตั้งสวิทช์และคันเกียร์อย่างสมดุล องศาตั้งฉากของคอนโซลหน้าทำให้บรรยากาศในรถดูแกร่งกร้าว พร้อมลุยทุกเส้นทาง
ขุมพลังขับเคลื่อนมีทั้งเบนซินและดีเซล
ถึงแม้จริง ๆ แล้ว Tank 300 จะออกจำหน่ายในประเทศจีนภายใต้แบรนด์ WEY แต่ล่าสุด มีภาพสิทธิบัตรของ Tank 300 ภายใต้แบรนด์ Haval หลุดออกมาในประเทศออสเตรเลียแล้ว บ่งบอกว่า Great Wall Motor อาจใช้ชื่อ Haval ในการทำตลาดรถเอสยูวีในนามรถถังรุ่นนี้
ภาพสิทธิบัตรดังกล่าวหลุดออกมาพร้อมข้อมูลทางเทคนิค Tank 300 จะมีเครื่องยนต์ 2 รุ่น เริ่มต้นจากเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบชาร์จ บล็อก 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร มีพละกำลังอยู่ที่ 230 แรงม้า แรงบิด 387 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ
นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ บล็อก 4 สูบ ขนาด 2.4 ลิตร พละกำลังประมาณ 181 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตันเมตร ทั้งระบบส่งกำลังและระบบขับเคลื่อนเหมือนกับเครื่องยนต์เบนซิน
Tank 300 มีระยะห่างจากพื้นอยู่ที่ 224 มม. เหนือกว่า Fortuner ซึ่งอยู่ที่ 193 มม. จึงหายห่วงเลยว่าถ้าขับเจ้าหมาไซส์ใหญ่ไปลุยออนโรดแล้วจะไปติดหล่มโคลนในป่าไกลปืนเที่ยงหรือไม่
ระบบช่วงล่างด้านหน้าของ Tank 300 เป็นแบบอิสระ ด้านหลังแบบมัลติลิงค์ พร้อมระบบครูสคอนโทรลบนเส้นทางออฟโรด ช่วยผ่อนภาระสำหรับมือใหม่ได้เป็นอย่างดี
ราคาจำหน่ายของ Tank 300 ในประเทศจีนเริ่มต้นที่ 175,800 – 213,800 หยวนหรือประมาณ 827,000 – 1,000,6000 บาท มีรายงานว่าหลังจากเริ่มต้นจำหน่ายเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ลูกค้าชาวจีนให้ความสนใจจับจองและนำไปขับขี่พิสูจน์สมรรถนะบนเส้นทางออฟโรดกันอย่างคึกคัก
หากทำตลาดในเมืองไทยจริง คาดว่าจะมีค่าตัวอยู่ในระดับเดียวกับรถพีพีวีของบ้านเราคือ 1,300,000 – 1,600,000 บาท