Great Wall Motor (เกรทวอลล์ มอเตอร์) เริ่มทำตัวเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องมาประมาณครึ่งปี หลังจากที่พวกเราได้ยินชื่อพวกเขาอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2563 จากการเข้าซื้อกิจการโรงงานประกอบรถยนต์และเครื่องยนต์จากเจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) อย่างยิ่งใหญ่ 

หลังจากนั้นพวกเขาก็ตั้งบริษัทลูกที่มีชื่อว่า Haval Thailand เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ฮาวาลในประเทศไทย จากนั้นก็มีข่าวออกมาเรื่อย ๆ ว่ารถรุ่นแรกที่พวกเขาต้องการทำตลาดก็คือ Haval H6 (ฮาวาล เอช6) ที่ครองแชมป์ในจีนมานาน ก่อนพลาดไปในเดือนสุดท้ายก่อนเปิดตัวในไทยนี่เอง

และในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 พวกเขาได้เปิดตัว 2021 Haval H6 HEV (ฮาวาล เอช6 ไฮบริด) ในประเทศไทยเป็นครั้งแรกของโลกอย่างยิ่งใหญ่ ท่ามกลางการคาดหวังของผู้บริโภคว่าจะได้ทราบราคา และพร้อมที่จะเดินหน้าจับจองรถคันนี้กันอย่างเป็นทางการ

แต่เกรทวอลล์ฯ ก็หักปากกาเซียนพร้อมทำร้ายจิตใจผู้บริโภคชาวไทยต่อไป ด้วยการไม่ประกาศราคา ไม่แถลงอะไรเกี่ยวกับความพร้อมของตัวเองเพิ่มเติมสักเรื่อง จนทำให้เริ่มมีคำถามว่า เอาจริง ๆ แล้ว พวกเขาพร้อมจริง ๆ หรือเปล่าที่จะเดินหน้าทำตลาดและดูแลลูกค้าในประเทศไทย

รวมไปถึงตัวสินค้ารุ่นใหม่ ๆ ที่มีการประกาศไปก่อนหน้านี้ว่าจะทำตลาดถึง 4 รุ่นในประเทศไทยปีนี้ การนำรถกระบะไฟฟ้าอย่าง POER EV (โปเออร์ อีวี) มาจัดแสดงคู่กับ ORA Good Cat (ออร่า กู๊ดแคท) และ ORA Black Cat (ออร่า แบล็คแคท) นั้นมีความหมายอะไรกับตลาดหรือไม่

ก่อนที่จะตัดสินใจว่าพวกเขายังโอเคไหม ลองมาฟังคำตอบจากผู้บริหารของค่ายนี้กันเถอะ!!!

เปิดตัว Haval H6 HEV ไม่ได้มีความหมายอะไร

หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าการเลือกเปิดตัวรถเอสยูวี ไฮบริด รุ่นใหม่ล่าสุดในประเทศไทยเป็นครั้งแรกของโลกนั้น เป็นการแสดงความยิ่งใหญ่ของตลาดในประเทศไทย แต่อย่างเพิ่งดีใจไป เพราะผู้บริหารบอกแล้วว่าไม่ได้มีอะไรมาก แต่เป็นเรื่องของเวลาที่เหมาะสมในการเปิดตัวเท่านั้น ที่ทำให้ต้องเปิดตัวที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรก

ทำไมไม่เปิดราคาล่ะ ไม่พร้อมหรือติดบีโอไอ

เอลเลียต จาง นายใหญ่ค่ายจีดับบลิวเอ็ม ระบุว่า การเปิดราคาจำหน่ายของรถรุ่นนี้จะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ พร้อมการเดินหน้าทำตลาดอย่างเป็นทางการ ซึ่งด้วยเวลาที่จำกัด นับตั้งแต่การรับโอนโรงงานจากจีเอ็มในช่วงปลายปี มาจนถึงการเริ่มขึ้นไลน์ผลิตรถคันนี้ออกมา ทำให้ไม่สามารถทำราคาจำหน่ายออกมาได้ทันในงาน

นอกจากนี้ เขายังปฏิเสธข่าวลือที่ว่า สาเหตุที่ยังไม่ประกาศราคาจำหน่าย เนื่องจากยังติดข้อตกลงบางเรื่องกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และแจ้งว่า การเข้าพบกับบีโอไอก่อนหน้านี้ ก็เพื่อเป็นการขอบคุณที่ได้รับความช่วยเหลือและสิทธิบัตรหลากหลายมาตั้งแต่เข้ามาเมืองไทยนั่นเอง

ตกลงจะขายแต่เครื่องยนต์ไฮบริดหรอ

แม้ว่าเกรทวอลล์พยายามที่จะผลักดันตัวเองไปอยู่ที่ธุรกิจรถยนต์พลังงานทดแทน ทั้งการเปิดตัวเวอร์ชั่นไฮบริด การนำรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่นมาจัดแสดง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า พวกเขาจะไม่สนใจการทำตลาดเครื่องยนต์แบบธรรมดาเสียหน่อย เพราะเอลเลียตยืนยันเองว่า หนึ่งในสิทธิบัตรที่เขาได้จากบีโอไอ ก็คือ ICE หรือเครื่องยนต์สันดาปภายในนั่นเอง

ก็ไม่น่าแปลกใจอะไร อันนี้ AutoFun Thailand เดาเอาเอง จากยอดขายมหาศาลทั่วโลกของ Haval H6 นั้น เป็นเครื่องยนต์เบนซินทั้งหมด ที่มีอุปกรณ์น้อยกว่าเวอร์ชั่นไฮบริด เพราะฉะนั้น หากต้องการทำราคาจำหน่ายเพื่อท้าชิงกับคู่แข่ง ก็น่าจะมีตัวเริ่มต้นเป็นเครื่องยนต์ธรรมดาบ้างล่ะ ไตรมาสสองรู้กัน!!!

ตัวแทนจำหน่ายก็ไม่คืบหน้าอะไรใช่ไหม

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ เกรทวอลล์เคยระบุว่าพวกเขาจะเน้นการขายรถและการให้บริการผ่านเครือข่ายออนไลน์เป็นหลัก ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญพิเศษที่พวกเขาใช้อยู่ในตลาดประเทศจีน แต่ในงานที่ผ่านมา ก็มีการยืนยันว่าจะเปิดตัวแทนจำหน่าย 31 สาขาในสิ้นปีนี้ เพื่อรองรับการให้บริการทั้งในกทม. (ุ60%) และต่างจังหวัด (40%)

หลังจากนั้น ก็มีรายงานเพิ่มเติมว่า พวกเขาได้จับมือพันธมิตรกลุ่มแรก เพื่อทำการเปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการกลุ่มแรกจำนวน 17 แห่ง ประกอบไปด้วย กรุงเทพและปริมณฑล 8 แห่ง ชลบุรี 3 แห่ง ระยอง เชียงใหม่ ขอนแก่น นครราชสีมา สงขลาและภูเก็ต ที่ละ 1 แห่ง

ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับบริการมากกว่านี้ ก็ต้องดูกันไป แต่ดีลเลอร์รายหนึ่งบอกแล้วว่า อีก 2 เดือน พร้อมขายรถแน่นอน!!!

จริง ๆ เปิดรับจองก็ได้นะ หรือกลัวผู้บริโภคไม่เชื่อมั่น

ผู้บริหารของค่ายตอบอย่างชัดเจนว่า สิ่งที่พวกเขาต้องการในการเข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ครั้งแรก ก็เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าที่เข้ามาชมงาน โดยไม่ได้มุ่งเป้าไปที่การขาย เพราะทุกอย่างจะเริ่มต้นกันในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ตามแผนที่วางเอาไว้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เกรทวอลล์มองว่านี่คือการส่งต่อประสบการณ์จากออนไลน์สู่ออฟไลน์ ที่จะมีทั้งแอพพลิเคชั่นและการลงทะเบียนเพื่อเก็บข้อมูล โดยเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเปิดราคาพร้อมจำหน่าย ก็จะมีการส่งข้อมูลไปที่กลุ่มลูกค้าเหล่านี้ เพื่อให้บริการด้านต่าง ๆ รวมไปถึงการจองทดลองขับและจองซื้อรถได้ในอนาคต

จะบอกว่าเป็นการพลิกตำรามอเตอร์โชว์เมืองไทยก็คงไม่ผิด...

คำถามสุดท้าย ตกลงจะขายรุ่นไหนบ้าง

นอกเหนือไปจาก Haval H6 ที่ทำการผลิตในประเทศไทยแล้ว และจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 2 นี้ เราทราบแน่ ๆ ว่า ORA Good Cat จะเป็นสินค้ารุ่นต่อไปที่เข้ามาทำตลาดในฐานะรถยนต์นำเข้าสำเร็จรูป ซึ่งเอลเลียตบอกว่า หลังการเปิดตัวเอช6 พวกเขาก็จะหันไปมุ่งมั่นกับเจ้าแมวดีเต็มที่

คำถามคือ สินค้าอีก 2 รุ่นที่พวกเขาบอกว่าจะทำตลาดนั้น จะทำได้ตามเป้าหมายหรือไม่ และเจ้ากระบะไฟฟ้าที่เอามาโชว์นั้น จะเลื่อนขึ้นมาเร็วกว่าปีหน้าตามที่เคยบอกไว้หรือไม่ สิ่งที่ยืนยันได้แน่ ๆ ก็คือ ในปีนี้ ประเทศไทยจะมีสินค้าที่ทำตลาด 4 รุ่น ตามแผนเดิมที่วางไว้

ส่วนจะเป็นรุ่นไหน ใครจะไป ใครจะมา รอดูเมื่อถึงเวลาเปิดตัวได้เลย...