ในตอนแรก รถยนต์พลังงานไฮโดรเจนรุ่นแรกของค่าย BMW (บีเอ็มดับเบิ้ลยู) ก็คือ BMW iX5 ได้มีการพัฒนาและผลิตออกมาแล้ว แต่ใช้เพื่เป็นการทดสอบเท่านั้น ยังไม่ได้ขายจริง
แต่ล่าสุด หัวหน้าวิศวกรของโครงการ Jürgen Guldner ก็กล่าวว่าตัวรถนั้น "อาจจะมาวางขายจริงในช่วงครึ่งทศวรรษหลังนี้"
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
สำหรับ BMW iX5 จะมีการส่งมอบรถให้กับกลุ่มทดสอบต่าง ๆ จำนวนไม่เกิน 100 คันเพื่อพัฒนาระบบ แต่ยังไม่ได้มีการประกาศว่าจะขายจริงช่วงไหน
ซึ่งระหว่างการพูดคุยในงานเปิดตัวของ iX5 ต่อสื่อและนักการเมือง Guldner กล่าวว่าทาง BMW "กำลังรอจุดเปลี่ยนของโครงสร้างพื้นฐานของการเติมเชื้อเพลิงอยู่"
หรือก็คือเป็นการรอคำสั่งโครงสร้างพื้นฐานเชื้อเพลิงทางเลือกของสหภาพยุโรป ซึ่งอาจได้รับสถานะกฎระเบียบเต็มรูปแบบในไม่ช้า
การเปลี่ยนแปลงสถานะดังกล่าวจะมีความสำคัญ เนื่องจากจะมีการกำหนดให้มีการติดตั้งสถานีเติมน้ำมันเฉพาะสำหรับรถบรรทุกทุก ๆ 150 กม. ตามเส้นทางหลัก
เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งเหล่านี้อาจเป็นโครงร่างของเครือข่ายการเติมเชื้อเพลิงรถยนต์โดยสารแรงดันสูงที่แพร่หลาย
ดังนั้น Guldner จึงมองว่าการมาถึงของรถยนต์พลังงาน FCEV (fuel cell) ว่าเป็นเรื่องของเวลา เขากล่าวว่า “ขนาดของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะถึงขีดจำกัดบางอย่าง และขีดจำกัดจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ อาจเป็นวัตถุดิบ อาจเป็นโครงสร้างพื้นฐาน”
แม้ว่าเขาจไม่ได้เปิดเผยถึงค่าการผลิตโดยรวมของ iX5 แต่ละคันที่ประกอบมือ Guldner กล่าวว่าที่ราคาของรถยนต์ขุมพลัง FCEV นั้นสูงไม่ใช่เพราะค่าวัตถุดิบ แต่เป็นเพราะมีจำนวนน้อย และมันจะเปลี่ยนไป
“เราได้เห็นต้นทุนที่ลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา” Guldner ยังชี้ให้เห็นว่าสัดส่วนของวัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับ FCEV นั้นต่ำกว่าสำหรับ BEV มาก ซึ่งหมายความว่า FCEV จะมีความเสี่ยงน้อยกว่าต่อความผันผวนในตลาด
การศึกษาภายในของ BMW แสดงให้เห็นว่าต้นทุนที่เท่าเทียมกันกับ BEV นั้น “เป็นไปได้อย่างแน่นอน” ภายในทศวรรษหน้า จนถึงตอนนั้น ความสะดวกสบายและความสามารถทางไกลของ FCEV จะเป็นจุดขายได้เป็นอย่างดี
สำหรับ BMW iX5 Hydrogen ผลิตจากโรงงาน Fuel Cell ที่เมืองมิวนิก เป็นนำชิ้นส่วนจาก Toyota ส่วนใหญ่มารวมกับชุดขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า eDrive ที่มีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน, ชุดส่งกำลังและมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน ของ BMW
ทำให้มีกำลัง 401 แรงม้า เร่งจาก 0-100 ใน 6 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. และสามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 504 กม. มาตรฐาน WLTP
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });