ล่าสุดในประเทศจีน ได้มีการเพิ่มทางเลือกเครื่องยนต์ใหม่เป็น 2021 Nissan Sylphy e-Power (นิสสัน ซิลฟี อี-พาวเวอร์) ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกในโลกแล้วภายในงานเทียนจิน มอเตอร์โชว์ในประเทศจีน
ซึ่งนิสสัน ซิลฟี่นี้ ถือเป็นซีดานที่ขายดีมากในประเทศจีน จนขึ้นครองเป็นอันดับ 1 ได้ ขายดีกว่า Honda Civic (ฮอนด้า ซีวิค) ที่หล่นไปอยู่อันดับ 7 ในยอดขายรวม
แต่เพราะอะไรถึงได้ขายดีขนาดนั้น แต่ไทยกลับเป็นรถที่ถูกมองข้าม จนยกเลิกการขายไปในที่สุด?
ในช่วงเดือนมกราคม - สิงหาคม ปี 2020 Nissan (นิสสัน) ขายซิลฟี่ได้มากถึง 308,145 คัน ทำให้ขายดีกว่า Volkswagen Lavida ที่ขายได้ 252,106 คัน และ Toyota Corolla (โตโยต้า โคโรลล่า) ที่ขาย 207,327 คัน ส่วน Toyota Corolla Levin ที่ผลิตและขายในจีนเท่านั้น อยู่ที่อันดับ 9 ด้วย 131,864 คัน
ส่วนฮอนด้า ซีวิคที่เป็นรถขายดีที่สุดในประเทศไทย กลับไปอยู่อันดับ 7 ด้วยยอดขาย 146,083 คัน
ในส่วนของปีนี้ Nissan Sylphy ก็ยังคงอันดับ 1 ด้วยยอดขายรวม 334,106 คัน ยิ่งมีการเปิดตัวของ e-Power ด้วยแล้ว ก็น่าจะทำให้ยอดขายออกมาดีมากขึ้น
อ่านเพิ่มเติม พาชม 2021 Nissan Sylphy e-Power หล่อและสปอร์ต ภายในเหนือกว่า Honda Civic
เพราะมีไฟฟ้า
ก่อนที่จะเปิดตัว e-Power นิสสัน ซิลฟี่ในประเทศจีน มีตัวเลือกเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบ คือเครื่อง 1.6 ลิตรไร้ระบบอัดอากาศ จับคู่กับเกียร์ CVT หรือจะเลือกเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเลยก็ได้ ซึ่งยกเครื่องและเกียร์มาจาก Nissan Leaf (นิสสัน ลีฟ)
Toyota Corolla มีเครื่อง 1.2 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบ หรือเครื่อง 1.8 ไฮบริดที่ยกมาจาก Toyota C-HR (โตโยต้า ซี-เอชอาร์)
Volkswagen Lavida มีให้เลือกหลายแบบทั้งเครื่อง 1.5 ลิตรพร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เครื่อง 1.2 และ 1.4 ลิตรเทอร์โบเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด
Honda Civic มีเครื่อง 1.0 ลิตร VTEC เทอร์โบ หรือ 1.5 ลิตร VTEC เทอร์โบ เลือกได้ระหว่างเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์ CVT
แม้จะมีระบบขับเคลื่อนที่ค่อนข้างธรรมดาเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แต่ผู้บริโภคชาวจีนพบว่า Nissan Sylphy นั้นเหมาะสมกว่าสำหรับความต้องการของพวกเขา โดยเฉพาะรุ่นไฟฟ้า
จีนใช้มาตรฐานการปล่อยมลพิษแบบยูโรที่เข้มงวดมากมาใช้ ราคาน้ำมันจึงสูง ดังนั้นพลังงานจึงมีความสำคัญน้อยกว่า แต่ก็ยังต้องการความประหยัด Sylphy ที่ใช้ไฟฟ้าเต็มรูปแบบยังได้รับประโยชน์จากมาตรการจูงใจด้านภาษี (ขึ้นอยู่กับภูมิภาค) ดังนั้นการซื้อแทนแบบเครื่องยนต์สันดาปปกติจึงเป็นการตัดสินใจที่ดีสำหรับครอบครัวชาวจีนจำนวนมาก
กว้างขวาง
นอกจากนี้ชาวจีนยังกล่าวว่านิสสัน ซิลฟี่นั้นมีพื้นที่ ความกว้าง และมีพื้นที่วางขาด้านหน้ามากกว่าคันอื่น ๆ ในรุ่น จึงสามารถใช้งานได้มากกว่า Honda Civic ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน
เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย?
น่าเสียดายที่ว่า ประเทศไทยได้ทำการเลิกขาย Nissan Sylphy ไปแล้ว พร้อมกับ Nissan Teana (นิสสัน เทียน่า) โดยเป็นรถที่ถูกเปิดตัวในวันที่ 30 สิงหาคม 2012 และทำตลาดจนถึงปลายปี 2020 นับเป็นเวลากว่า 8 ปี ที่รถรุ่นนี้ทำตลาดในประเทศไทย
แต่เนื่องจากการทำตลาดนั้นยาวนานกว่าอายุปกติของรถพอสมควร ทำให้ภาพลักษณ์ของรถถูกมองว่าเป็นรถที่ลากขาย และสู้คู่แข่งที่ใหม่กว่าไม่ได้
เป็นเรื่องธรรมดาที่รถยนต์ซึ่งอายุตลาดมาก จะถูกมองว่าไม่สดใหม่ เทียบคู่แข่งไม่ได้ แถมในระยะเวลา 8 ปีนั้น Nissan Sylphy เหมือนถูกแช่แข็ง ไม่ได้มีการปรับเครื่องยนต์มากมาย และตัวถังแทบไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย
อ่านเพิ่มเติม นิสสัน ประเทศไทย 'เราไม่พอใจกับสถานะของเรา' และ 'มีหลายเรื่องที่ต้องแก้ไขปรับปรุง'
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นรถที่ถูกมองว่า "ธรรมดา" เกินไป แม้จะมีรุ่น Nissan Sylphy DIG Turbo เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จเจอร์ ที่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 190 แรงม้า ก็ยังทำให้คนสนใจได้ไม่มากเท่าที่ควร จนกล่าวกันว่ามีรุ่นนี้อยู่ในไทยเพียง 200 กว่าคันเท่านั้น
ประกอบกับการมาถึงของ Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) ใหม่ที่มีออพชั่นเพียบพร้อม ในราคาที่ถูกกว่าครึ่ง กับเครื่องเทอร์โบเหมือนกัน และการที่ Nissan โฟกัสความสนใจไปที่ Nissan Kicks e-Power (นิสสัน คิกส์) มากกว่า ไม่ได้ทำการโปรโมท Nissan Sylphy ในช่วงหลัง จึงทำให้รถรุ่นนี้ ถูกลืมในตลาดประเทศไทยไปโดยปริยาย
อ่านเพิ่มเติม Nissan Sylphy คือรถดี ที่ทุกคนลืม แม้แต่ Nissan เอง