2019 MG Extender (เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์) เปิดตัวพร้อมแนวคิดรถกระบะพันธุ์ยักษ์ ด้วยสัดส่วนตัวถังที่มีขนาดใหญ่โตที่สุดรุ่นหนึ่งในระดับเดียวกัน เอาใจคอรถปิกอัพที่ชอบความอลังการ
ตลาดรถกระบะ 4 ประตูที่รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันก็ได้หรือตอบสนองไลฟ์สไตล์แอดเวนเจอร์ก็ดีมีให้เลือกมากมายหลายรุ่นในท้องตลาด ส่วนใหญ่จะมีราคาจำหน่ายระดับ 8-9 แสนบาทไปจนถึงทะลุหลัก 1 ล้านบาท มาพร้อมอ็อปชั่นอำนวยความสะดวกสบายที่ไม่ต่างจากรถยนต์นั่งประเภทซีดานหรือเอสยูวี
อาจเป็นเรื่องบังเอิญหรืออย่างไรก็ไม่อาจหาคำตอบได้แน่ชัดที่ MG กำหนดราคารถกระบะตัวท็อป Extender รุ่น 2.0 DC GRAND 4WD X 6AT ไว้ที่ 1,029,000 บาทเท่ากันเป๊ะกับ Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) รุ่นท็อปของเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว Wildtrak Hi-Rider 10AT เราจึงขอนำสเปกของรถกระบะทั้งสองรุ่นมาเทียบเคียงให้ท่านผู้อ่านได้ชมกัน
มิติตัวถัง
|
MG Extender |
Ford Ranger |
ความยาว |
5,365 มม. |
5,376 มม. |
ความกว้าง |
1,900 มม. |
1,867 มม. |
ความสูง |
1,850 มม. |
1,815 มม. |
ระยะฐานล้อ |
3,155 มม. |
3,220 มม. |
ความจุถังน้ำมัน |
73 ลิตร |
80 ลิตร |
ขนาดล้อและยาง |
18 นิ้ว 255/60 R18 |
18 นิ้ว 265/60 R18 |
Extender มีความยาวตัวถังสั้นกว่าแต่กว้างกว่าและสูงกว่า Ranger อยู่เล็กน้อย ตัวเลขห่างกันไม่มากนัก มิติตัวถังของรถกระบะทั้งสองรุ่นจึงใกล้เคียงกันมาก ล้ออัลลอยใช้ขนาด 18 นิ้วให้ภาพลักษณ์บึกบึนสมศักดิ์ศรี ฝั่งหนึ่งมาพร้อมคำนิยามว่าเป็นรถกระบะพันธุ์ยักษ์ อีกฝ่ายถูกขนานนามว่าเป็นรถกระบะอเมริกันพันธุ์แกร่ง
ระบบขับเคลื่อน
|
MG Extender |
Ford Ranger |
เครื่องยนต์ |
ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ |
ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ |
ความจุ |
2.0 ลิตร / 1,996 ซีซี |
2.0 ลิตร / 1,996 ซีซี |
พละกำลัง |
161 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที |
180 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที |
แรงบิด |
375 นิวตันเมตรที่ 1,500 – 2,400 รอบต่อนาที |
420 นิวตันเมตรที่ 1,750 – 2,500 รอบต่อนาที |
ระบบส่งกำลัง |
เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด |
เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด |
ระบบขับเคลื่อน |
ขับเคลื่อน 4 ล้อ |
ขับเคลื่อน 4 ล้อ |
หัวใจขับเคลื่อนแตกต่างกันพอสมควร Ranger มีเรี่ยวแรงเหนือกว่า Extender อย่างชัดเจนทั้งแรงม้าและแรงบิด ถึงแม้จะใช้เครื่องยนต์ขนาดเดียวกันคือบล็อก 4 สูบ 2.0 ลิตรหรือ 1,996 ซีซีก็ตาม ขณะที่ระบบส่งกำลังของ Ranger ยังล้ำสมัยกว่าด้วยการใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด
รูปลักษณ์และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
Extender รุ่นสูงสุด 2.0 DC GRAND 4WD X 6AT มาพร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ LED มีระบบควบคุมการเปิด-ปิดอัตโนมัติ ไฟเดย์ไลท์ ระบบควบคุมไฟเลี้ยวตามองศาพวงมาลัยอัตโนมัติ ไฟตัดหมอก ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวและปรับไฟฟ้า เสาวิทยุฝังกระจก กันชนหน้า-หลังสีเดียวกับตัวรถ และบันไดข้าง
ภายใน Extender ตกแต่งด้วยสีดำ วัสดุหุ้มเบาะเป็นหนังและหนังสังเคราะห์ คอนโซลและภายในตกแต่งด้วยวัสดุ Soft Touch วัสดุหุ้มพวงมาลัยเป็นหนัง กระจกมองหลังตัดแสง
ด้าน Ranger Turbo Wildtrak Hi-Rider 10AT มีไฟหน้าโปรเจคเจอร์ LED เปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมไฟเดย์ไลท์ ไฟตัดหมอก LED ไฟเบรกดวงที่สามพร้อมไฟส่องสว่างกระบกะท้าย กระจกมองข้างพริ้อมไฟเลี้ยว ปรับและพับไฟฟ้า ส่วนกระจังหน้า กันชนหน้า-หลังเป็นแบบ wildtrak บันไดข้างสีดำพร้อมกาบตกแต่งสีเงิน ฝาท้ายแบบผ่อนแรง Easy Lift รวมถึงสปอร์ตบาร์และราวหลังคา ไฟส่องสว่างด้านข้างรถ
ภายในของ Ranger ตกแต่งด้วยสีดำ มีพวงมาลัยและหัวเกียร์ wildtrak เบาะนั่งและแผงข้างประตูเป็นหนังเฉพาะแบบ wildtrak ส่วนกระจกมองหลังเป็นแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกเด่น ๆ ของ MG Extender รุ่น 2.0 DC GRAND 4WD X 6AT มีดังนี้
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
- เบาะนั่งคนขับ และผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
- หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ (Multi-Function Display)
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ และมีระบบปรับอากาศด้านหลัง
- ปุ่มสตาร์ทอัจฉริยะ Push Start
- ช่องจ่ายไฟ 12V / ระบบกุญแจรีโมท / ไฟส่องแผนที่
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ - วางสายโทรศัพท์
- ลำโพง 6 ตำแหน่ง
- วิทยุ MP3 และช่อง AUX
- หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว
- ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ / ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ช่อง
- ระบบ i-Smart
ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกเด่น ๆ ของ Ford Ranger รุ่น Turbo Wildtrak Hi-Rider 10AT มีดังนี้
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
- กุญแจรีโมทอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ทอัตโนมัติ
- เบาะผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- คอนโซลทำความเย็น
- ช่องต่อไฟ 12V และ 230V
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา
- สวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
- หน้าจอข้อมูลบนหน้าปัดแบบคู่ 4.2 นิ้ว
- หน้าจอแสดงผลแบบมัลติทัชขนาด 8 นิ้ว
- ระบบเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ ช่อง USB 2 จุด รองรับแอปเปิลคาร์เพลย์ และแอนดรอยด์ออโต้
- ระบบนำทางเนวิเกชั่น
- ลำโพง 6 ตำแหน่ง
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกใกล้เคียงกัน MG Extender ได้เปรียบจากการติดตั้งเบาะนั่งปรับไฟฟ้าทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า ขณะที่ Ranger มีทั้งระบบนำทางเนวิเกชั่น แถมยังรองรับการเชื่อมต่อแอปเปิลคาร์เพลย์และแอนดรอยด์ออโต้ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานแนวไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่อย่างมาก
ระบบความปลอดภัย
ระบบความปลอดภัยเด่น ๆ ของ MG Extender รุ่น 2.0 DC GRAND 4WD X 6AT มีดังนี้
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และเสริมแรงเบรก EBA
- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ประกอบด้วยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
- กล้องมองภาพรอบทิศทาง พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
ระบบความปลอดภัยเด่น ๆ ของ Ford Ranger รุ่น Turbo Wildtrak Hi-Rider 10AT มีดังนี้
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบควบคุมการทรงตัว ESP
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HLA
- ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ประกอบด้วย คู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
- สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและหลัง
- กล้องมองหลังขณะถอยจอด
ระบบความปลอดภัยของ Extender ดูจะครบครันมากกว่าด้วยการติดตั้งระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW และกล้องมองภาพรอบทิศทาง ส่วนระบบอื่น ๆ ถือว่าเพียบพร้อมด้วยกันทั้งคู่
ราคาจำหน่าย
MG Extender รุ่น 2.0 DC GRAND 4WD X 6AT ราคา 1,029,000 บาท
Ford Ranger รุ่น Turbo Wildtrak Hi-Rider 10AT ราคา 1,029,000 บาท
สรุป
รถกระบะที่มีราคาจำหน่ายระดับ 1 ล้านบาทยังมีอีกหลายตัวเลือก ไม่ว่าจะเป็น Toyota Hilux Revo ที่เพิ่งปรับโฉมใหม่ รวมถึง Isuzu D-Max และ Mitsubishi Triton ซึ่งทั้งหมดรั้งตำแหน่งท็อป 3 ยอดขายในตลาดรถกระบะของประเทศไทยในเวลานี้
การขาดความสดใหม่ทำให้ Ford Ranger หล่นลงมาอยู่ในท็อป 5 ส่วน MG ที่ยังถือว่าเป็นแบรนด์น้องใหม่ในตลาดปิกอัพทำให้มียอดขายไม่ดีเท่าที่ควรโดยรั้งอันดับท้าย ๆ ด้วยตัวเลขหลักไม่กี่ร้อยคันต่อเดือนเท่านั้น
MG จึงยังมีการบ้านต้องทำกันอีกเยอะในการปรับกลยุทธ์การตลาดของ Extender ซึ่งดูแล้วเป็นงานโหดหินที่จะต้องขับเคี่ยวในเซกเมนท์รถกระบะที่ว่ากันว่ามีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดที่สุดเซกเมนท์หนึ่งในบ้านเรา ทางออกของ MG อาจเป็นการปรับไมเนอร์เชนจ์เพิ่มอ็อปชั่นหรือการกำหนดราคาใหม่ที่ย่อมเยากว่าเดิมเพื่อสร้างแรงดึงดูดลูกค้าเหมือนกับที่เคยทำได้มาแล้วกับ MG HS