ฮุนได มอเตอร์ แนะนำ 2019 ฮุนได ไอโอนิค (2019 Hyundai IONIQ) รถยนต์ไฟฟ้าออกสู่ตลาดเมืองไทยด้วยราคาจำหน่าย 1,749,000 ล้านบาท มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 120 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 295 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์แบบซิงเกิลสปีด ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 165 กม.ต่อชม.
2019 ฮุนได ไอโอนิค เป็นรถพลังงานไฟฟ้าที่ฮุนได มอเตอร์ นำเข้ามาทั้งคัน (CBU) เพื่อจำหน่ายในประเทศไทย ออกทำตลาดรถพลังงานไฟฟ้า 100% มีระยะทางขับขี่อยู่ที่ 280 กม. ต่อการชาร์จไฟเต็มแบตเตอรี่หนึ่งครั้ง
Hyundai IONIQ เปิดตัวครั้งแรกที่งาน 2018 บางกอก มอเตอร์โชว์ในปี 2561 ทำให้หลายคนจับตามองและชื่นชมความกล้าหาญของค่ายรถจากแดนโสมขาว แต่กระแสรถพลังงานไฟฟ้าไม่ได้เฟื่องฟูอย่างที่คิดและทำให้ IONIQ แทบจะถูกลืมเลือนไปโดยปริยายจนล่าสุดมีรายงานว่าไม่สามารถทำยอดขายได้เลยในปีนี้แม้แต่คันเดียว
สาเหตุที่ทำให้ Hyundai IONIQ ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรเกิดจากอะไร เป็นเพราะราคาจำหน่ายที่สูงถึง 1.749 ล้านบาทใช้หรือไม่ เรามาชมกัน
มิติตัวถัง
Hyundai IONIQ |
ความยาว |
4,470 มม. |
ความกว้าง |
1,820 มม. |
ความสูง |
1,450 มม. |
ระยะฐานล้อ |
2,700 มม. |
ระยะต่ำสุดจากพื้น |
140 มม. |
ปริมาตรห้องสัมภาระ |
455 / 1,410 ลิตร |
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด |
5.3 เมตร |
ไฮไลท์
ถึงแม้รูปทรงตัวถังที่เป็นแบบลิฟท์แบ็กของฮุนได ไอโอนิคจะไม่ได้ดูปราดเปรียวมากนักเมื่อมองในภาพรวม แต่ดีไซเนอร์ของ Hyundai สามารถสร้างสรรค์ทุกชิ้นส่วนภายนอกได้อย่างกลมกลืนและลงตัว ทำให้มีความลู่ลมมากและมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศเพียง Cd 0.24 เท่านั้น
การออกแบบภายนอก
เนื่องจากเป็นรถพลังงานไฟฟ้า IONIQ จึงมาพร้อมกระจังหน้าดีไซน์แบบปิด ไม่มีช่องลม ช่วยลดแรงต้านอากาศ รอบคันตกแต่งด้วยเส้นสายสีทองแดงซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Hyundai ที่บ่งชี้ว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแท้ 100% เพิ่มความหรูหราด้วยการใช้วัสดุโครเมียมตกแต่งคิ้วขอบกระจกและมือจับเปิดประตู
ไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติเป็นแบบโปรเจคเตอร์เลนส์ LED พร้อมไฟเลี้ยวและไฟหรี่ LED มีไฟเดย์ไลท์ ไฟท้าย และไฟตัดหมอกหลัง LED กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยว ปรับและพับไฟฟ้า สปอยเลอร์หลังมาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED เช่นกัน ส่วนล้ออัลลอยใช้ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 205/55 R16
การออกแบบภายใน
ภายในตกแต่งด้วยโทนสีดำพร้อมสีทองแดงเหมือนกับภายนอก มือจับเปิดประตูด้านในเป็นเมทัลลิก เบาะหุ้มหนังเดินตะเข็บสีทองแดงพร้อมมีระบบระบายอากาศ ติดตั้งกาบบันไดข้างสแตนเลส พวงมาลัยหุ้มหนัง และมีระบบต้อนรับผู้ขับขี่
พื้นที่ในห้องโดยสารถือว่ากว้างขวางพอตัว มีความจุรองรับการจัดเก็บสัมภาระอยู่ที่ 455 ลิตรและสามารถพับเบาะหลังแบบแยกส่วน 60/40 เพื่อเพิ่มความจุเป็น 1,410 ลิตร
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- หน้าปัดแบบดิจิทัลพร้อมจอ LCD ขนาด 7 นิ้ว
- ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง
- ระบบกุญแจอัจฉริยะ และปุ่มสตาร์ทรถ
- ปุ่มเปิดฝาประโปรงท้ายที่กุญแจรีโมท
- เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Hold Function
- เครื่องเสียงวิทยุ AM/FM พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 5 นิ้ว
- ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth
- ช่องต่อสำหรับ USB/AUX
- ที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย (Qi)
- ลำโพง 6 ตำแหน่ง
ระบบความปลอดภัยฮุนได ไอโอนิค
- ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ประกอบด้วยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านนิรภัย และหัวเข่าผู้ขับขี่
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS เสริมแรงเบรกBA และกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESP
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB
- ระบบเตือนเมื่อมีความเสี่ยงในการเกิดการชนด้านหน้า FCW
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา BSD
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA
- ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA
- ระบบเตือนเมื่อมีรถขับสวนขณะถอยหลัง RCTA
- สัญญาณเตือนกะระยะถอยหลัง
- กล้องมองหลัง
ระบบขับเคลื่อน
มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 120 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 295 นิวตันเมตร ใช้กำลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน โพลิเมอร์ความจุ 28 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทำอัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. ในโหมด Sport ได้ที่ 9.9 วินาที และโหมด Normal อยู่ที่ 10.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 165 กม.ต่อชม. ระยะเบรกจาก 100-0 กม.ต่อชม. ภายใน 36.1 เมตร
สำหรับการชาร์จไฟทำได้ 3 แบบ คือ ชาร์จแบบที่ 1 กระแสสลับ – เต้าเสียบบ้านใช้เวลา 10 ชั่วโมง ชาร์แบบที่ 2 กระแสสลับ เครื่องชาร์จ Wallbox ภายใน 4 ชั่วโมง 25 นาที และชาร์จแบบที่ 3 กระแสตรงหรือแบบด่วนภายในเวลา 23 นาที
ฮุนได ไอโอนิคมาพร้อมช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท ด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม (Coupled Torsion Beam Axle) ดิสก์เบรก 4 ล้อ
สมรรถนะการขับขี่และความสะดวกสบาย
จุดเด่นในด้านการขับขี่ของ Hyundai IONIQ ที่สัมผัสได้อย่างชัดเจนคือความเงียบสงบและนุ่มนวล ปราศจากเสียงเครื่องยนต์และแทบไม่ได้ยินเสียงการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า อัตราเร่งในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เทียบเท่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปขนาด 1.8 ลิตรหรือในระดับซีเซกเมนท์
ข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้าคือการผลิตแรงบิดที่มีให้ใช้แบบทันทีทันใด การไต่ระดับความเร็วจึงทำได้ดังใจคิด ไม่มีอาการรอรอบ พละกำลังตอบสนองอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นไปจนถึงความเร็วสูงระดับ 120 กม.ต่อชม. ขึ้นไป จึงเหมาะสำหรับการใช้งานทั้งทางใกล้และทางไกล
พวงมาลัยและช่วงล่างทำงานประสานกันได้อย่างลงตัว ทำให้ Hyundai IONIQ มีสมรรถนะการขับขี่ที่มั่นคง ให้ความคล่องตัวที่ดีแม้ในบางจังหวะตัวรถจะนุ่มนวลไปหน่อยจนเกินอาการโยนตัวก็ตาม ระบบความปลอดภัยที่ประเคนมาให้แทบจะล้นคันช่วยเพิ่มความอุ่นใจและเชื่อมั่นในทุกการเดินทาง
อัตราความประหยัด
ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งสามารถทำได้ที่ 280 กม. คิดเป็นค่าใช้จ่ายไม่ถึง 1 บาทต่อกม.
สรุป
ตลาดรถพลังงานไฟฟ้าที่มีแนวโน้มจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในบ้านเราต้องพังพาบจากการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ลำพังยอดขายรถยนต์ทั่วไปก็ลดต่ำลงอย่างหนักอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงรถพลังงานไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจนมีส่วนแบ่งตลาดไม่ถึง 0.1% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดในประเทศไทยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
หากมองที่การเป็นรถนำเข้าและการมีอ็อปชั่นต่าง ๆ ครบครัน ราคาจำหน่ายของ Hyundai IONIQ ที่ 1.749 ล้านบาทถือว่าเหมาะสม และคู่ควรกับการเป็นรถคันที่ 2 ของครอบครัวที่สนใจในระบบขับเคลื่อนที่ล้ำสมัยและคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
แต่ระยะทางขับขี่ที่ค่อนข้างสั้น ถึงแม้ Hyundai IONIQ(ฮุนได ไอโอนิค)จะเคลมตัวเลขที่ 280 กม. แต่การใช้งานจริงอยู่ที่เพียง 200 กม.เศษต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง ทำให้ผู้ใช้ต้องทบทวนแผนการเดินทางอย่างรอบคอบ การใช้งานในเมืองในชีวิตประจำวันอาจไม่ใช่ปัญหา แต่เมื่อคุณต้องเดินทางออกนอกเมืองหรือต่างจังหวัดก็อาจทำให้เกิดความขลุกขลักในการใช้งาน
ความวิตกกังวลด้านระยะทางหรือ range anxiety ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่ขัดขวางการเติบโตของตลาดรถพลังงานไฟฟ้าไม่เพียงในประเทศไทยแต่รวมถึงทั่วโลก ตราบใดที่ทุกภาคส่วนยังไม่ร่วมมือกันอย่างเต็มประสิทธิภาพ ตราบนั้นรถพลังไฟฟ้าก็จะดูดีอยู่แค่ในโบรชัวร์