รถอเนกประสงค์เอสยูวี (SUV ย่อมาจาก Sports Utility Vehicle) ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยการตอบโจทย์ทุกการใช้งาน แต่เราควรเลือกรถประเภทไหนที่เหมาะกับตัวเราเองมากที่สุด
รถเอสยูวีในปัจจุบันมีคุณสมบัติที่ครบครัน ทั้งห้องโดยสารที่โอ่โถง ทัศนวิสัยที่กว้างไกล สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมไม่แพ้รถซีดานหรือแฮทช์แบ็ก ขณะเดียวกัน รถเอสยูวีบางรุ่นยังรองรับการขับขี่บนเส้นทางสมบุกสมบันได้ดี และยังมีหน้าตาปราดเปรียวสไตล์รถคูเป้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม รถเอสยูวีที่วางขายในท้องตลาดทุกวันนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ รถเอสยูวีแบบบอดี้ออนเฟรม (body on frame) และรถเอสยูวีแบบยูนิบอดี้ (unibody) เราไปชมกันว่าแบบไหนเหมาะกับคุณผู้อ่านมากที่สุด
รถเอสยูวีแบบบอดี้ออนเฟรม
โครงสร้างตัวถังแบบบอดี้ออนเฟรม คือการถ่ายทอดวิวัฒนาการในการผลิตรถยนต์แบบดั้งเดิม สามารถย้อนกลับไปในยุคที่ใช้รถเทียมม้า ลูกค้าสามารถซื้อแชสซีส์และสั่งผลิตตัวถังแบบคัสตอมได้ตามต้องการ
หลักการเบื้องต้นของการสร้างรถเอสยูวีแบบบอดี้ออนเฟรม คือการสร้างตัวถังมาติดตั้งไว้บนฐานเฟรมหรือแชสซีส์ ดังนั้น แชสซีส์จะเป็นส่วนรับน้ำหนักหลัก ขณะที่ตัวถังจะมีหน้าที่รองในการช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวรถ
รถเอสยูวีแบบบอดี้ออนเฟรมที่คอรถยนต์ในบ้านเรารู้จักเป็นอย่างดีถูกเรียกว่ารถกระบะดัดแปลงอเนกประสงค์หรือรถพีพีวี อาทิ Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์), Isuzu MU-X (อีซูซุ มิวเอ็กซ์) และ Ford Everest (ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์) เป็นต้น
แน่นอนว่าการวางตัวถังไว้บนแชสซีส์ทำให้ตัวรถมีความสมบุกสมบันอย่างดีเยี่ยม แต่จุดอ่อนของตัวรถคือความยืดหยุ่นและแรงสั่นสะเทือนที่สูง นั่นทำให้ทีมนักออกแบบและวิศวกรจะต้องเพิ่มความยืดหยุ่นเข้าไปในตัวรถ ซึ่งไม่เพียงจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่แต่ยังทำให้ตัวรถสามารถลุยเส้นทางออฟโรดได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
รถเอสยูวีแบบยูนิบอดี้
ยูนิบอดี้คือคำศัพท์เรียกเทคนิคการผลิตรถที่ใช้ตัวถังแบบผสานหนึ่งเดียวภายใต้โครงสร้างที่เรียกว่าโมโนค็อก (Monocoque) ซึ่งมาจากภาษากรีกผสมกับคำฝรั่งเศสที่แปลตรงตัวว่า “เปลือกเดียว” สื่อความหมายถึงการสร้างรถยนต์ที่ตัวถังและแชสซีส์ถูกหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว (อันเป็นที่มาของอีกคำศัพท์นั่นคือ unitary)
การผสานตัวถังกับโครงสร้างตัวรถเข้าไว้ด้วยกันช่วยเพิ่มความเหนียวแน่นทนทานของตัวรถเอสยูวีแบบยูนิบอดี้ พร้อมกับช่วยให้คุณภาพการขับขี่ทั้งบนทางตรงและทางโค้งมีความแม่นยำและเฉียบคมมากกว่าเมื่อเทียบกับรถเอสยูวีแบบบอดี้ออนเฟรม
รถเอสยูวียูนิบอดี้ที่พบเห็นได้ทั่วไปก็คือรถที่เรา ๆ ท่าน ๆ คุ้นเคยอย่าง Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์-วี) Mazda CX-5 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-5) เป็นต้น
การปราศจากแชสซีส์แบบแยกส่วนยังช่วยลดน้ำหนัก นอกจากทำให้สมรรถนะการขับขี่โดยรวมดีขึ้น ยังทำให้มีอัตราบริโภคน้ำมันลดลง อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนของรถเอสยูวีประเภทนี้คือความแข็งแกร่งที่ยังสู้แบบบอดี้ออนเฟรมไม่ได้
เทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้ดีเท่าเทียมกัน
หากถามว่ารถเอสยูวีประเภทไหนดีกว่ากัน คงตอบได้ยากเพราะเทคโนโลยีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบวิศวกรรมในปัจจุบันทำให้ความแตกต่างระหว่างบอดี้ออนเฟรมและโมโนค็อกแทบจะกลายเป็นเส้นบาง ๆ ไปแล้ว
Land Rover Defender รุ่นใหม่เปลี่ยนโครงสร้างจากบอดี้ออนเฟรมไปเป็นแบบยูนิบอดี้ ใช้ช่วงล่างด้านหลังแบบอิสระ พร้อมใส่ระบบอเลคโทรนิคช่วยเหลือผู้ขับขี่มากมายจึงทำให้ตัวรถยังมีสมรรถนะการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดที่ยอดเยี่ยมเช่นเดิม
ขณะเดียวกัน Toyota Land Cruiser 300 รุ่นใหม่ยังคงใช้การออกแบบสไตล์บอดี้ออนเฟรม แต่ด้วยการดีไซน์รายละเอียดทางวิศวกรรมอย่างพิถีพิถันทำให้รถเอสยูวีรุ่นใหม่ของ Toyota มีการขับขี่ที่หรูหรา เงียบสงบ แทบไม่ต่างจากรถยนต์นั่งเลยทีเดียว