Tank 300 Pro กับ Ultra สเปคภายนอกต่างกันยังไง
สเปคภายนอก Tank 300 Pro
Tank 300 Pro มีสเปคภายนอกเป็นพื้นฐาน ออพชั่นเด่นมีดังนี้
ไฟหน้า LED เปิด-ปิดอัตโนมัติ ปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ มีระบบหน่วงความสว่างหลังจากดับเครื่อง
Tank 300 Pro มีสเปคภายนอกเป็นพื้นฐาน ออพชั่นเด่นมีดังนี้
ไฟหน้า LED เปิด-ปิดอัตโนมัติ ปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ มีระบบหน่วงความสว่างหลังจากดับเครื่อง
ระบบไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED (DRL)
ระบบไฟท้ายแบบ LED
ระบบไฟตัดหมอกด้านหน้าและหลังแบบ LED
กระจกมองข้างปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
ระบบปัดนํ้าฝนด้านหน้าและหลัง
ราวหลังคาและเสาอากาศแบบครีบฉลาม
บันไดข้าง
ยาง H/T (Highway Terrain)
Tank 300 Ultra มีออพชั่นภายนอกที่เพิ่มจากรุ่น Pro ดังนี้
กระจกมองข้างจำตำแหน่งการปรับได้
ซันรูฟไฟฟ้า
ยาง A/T (All Terrain)
สรุป คือ สเปกภายนอกของ TANK 300 Pro กับ Ultra ต่างกันแค่เล็กน้อยเท่านั้น หากไม่สังเกตดอกยางขนาดใหญ่กับซันรูฟบนหลังคาก็แทบแยกไม่ออก
Tank 300 Pro มีออพชั่นที่เป็นจุดเด่นหลักดังนี้
หน้าจอมัลติมีเดียแบบสัมผัสขนาด 12.3"
ลําโพง 8 ตําแหน่ง พร้อมซัพวูฟเฟอร์
รองรับ Apple CarPlay & Android Auto, Bluetooth, MP5
ระบบนําทางและระบบสั่งการด้วยเสียง (Voice Command)
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ด้านหน้าแยกอิสระซ้ายและขวา
กระจกไฟฟ้า one-touch ทั้ง 4 บาน
พวงมาลัยพร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงและสวิตช์ควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่
พวงมาลัยพร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ (Paddle Shift)
เบรคมือไฟฟ้า พร้อม Auto-hold
เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง และนวดไฟฟ้า
เบาะผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
เบาะหนังสังเคราะห์
Tank 300 Ultra มีออปชันภายในที่เพิ่มจากรุ่น Pro ดังนี้
ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
ระบบกรองอากาศ ตรวจจับ PM 2.5 และ Ionizer
ลำโพงยี่ห้อ Infinity 8 ตําแหน่ง พร้อมซัพวูฟเฟอร์
เบาะหนัง Nappa
เบาะนั่งแถว 1 มีระบบบันทึกตําแหน่งพร้อมระบบ Welcome Seat และระบบระบายอากาศ
ช่องจ่ายไฟ 220V
Tank 300 Pro มีความปลอดภัยที่เป็นจุดเด่นหลักดังนี้
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลม รวม 6 ใบ
กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วตํ่า (TJA)
ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินบนทางตรงและทางแยก (AEBI)
ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า (FCW)
ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วตํ่า (MEB)
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK)
ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการชนครั้งที่ 2 (SCM)
ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน และลงทางลาดชัน (HSA / HDC)
ระบบตรวจสอบลมยาง
เซนเซอร์หน้า 4 จุด หลัง 4 จุด
Tank 300 Ultra มีออพชั่นความปลอดภัยที่เพิ่มจากรุ่น Pro ดังนี้
ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ (IIP)
ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วตํ่า (TJA)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK)
ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS)
ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงถูกชนด้านหลัง (RCW)
ระบบช่วยเตือนรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
เซนเซอร์หน้า 6 จุด หลัง 6 จุด
สเปคพื้นฐานของ Tank 300 ทั้ง Pro กับ Ultra ต้องบอกว่าเหมือนกันหมดทุกอย่าง ตั้งแต่ขนาดตัวรถ ความสูง รวมถึงขุมพลังเครื่องยนต์
มิติความยาว x กว้าง x สูง 4,760 x 1,930 x 1,930 มม.
ระยะฐานล้อ 2,750 มม.
ความสูงใต้ท้องรถ 224 มม.
มีความสามารถในการลุยนํ้า 700 มม.
Tank 300 Pro กับ Ultra ใช้เครื่องยนต์เบนซิน พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ระบบจ่ายเชื้อเพลิงไดเร็คอินเจคชัน
ปริมาตรกระบอกสูบ 1,998 ซีซี กําลัง 244 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร
กําลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 106 แรงม้า แรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 268 นิวตัน-เมตร
ใช้เกียร์ 9 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อถาวร
ระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบอิสระดับเบิ้ลครอสอาร์ม ส่วนด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงก์ ติดตั้งระบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ พร้อมด้วยล้อแม็กซ์ขนาด 17 นิ้วสีดำ
จากการเปรียบเทียบระหว่าง tank 300 pro vs ultra จะเห็นว่าภายนอกต่างกันแค่ดอกยางและหลังคาซันรูฟ ถ้าไม่สังเกตก็แทบไม่ต่างกันเลย
ส่วนออปชันและระบบความปลอดภัยของ Ultra เหนือกว่าอยู่แล้ว ส่วนตัวมองว่าไม่เหนือกว่ากันมากเท่าไร ถ้าคิดว่าไม่จำเป็นก็เล่นรุ่น Pro ก็ได้ เพราะถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน
ส่วนเรื่องขุมพลังและสมรรถนะ tank 300 pro vs ultra เหมือนกันหมด ไม่มีอะไรต่าง
ถามว่าคุ้มไหมถ้าเพิ่มเงิน 150,000 บาท เพื่อไปเอา Tank 300 รุ่นท็อป คำตอบมันไม่ตายตัวอยู่แล้ว เพราะบางคนมองว่าคุ้ม บางคนมองว่าไม่คุ้ม ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัว ความจำเป็นในการใช้งาน และสิ่งที่เราให้ความสำคัญ
อย่างผมเป็นคนให้ความสำคัญกับสุขภาพ แน่นอนว่าคงเลือก Tank 300 ultra เพราะอยากได้ระบบกรองอากาศตรวจจับ PM 2.5 คิดทบทวนดูแล้วว่าอนาคตฝุ่นมันคงไม่หายไปง่าย ๆ จ่ายเพิ่มอีก 150,000 บาทดีกว่า อย่างน้อยก็ช่วยให้อากาศสะอาดขึ้นมานิดหน่อย มีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น เพราะผมอยากอยู่กับแมว
ส่วนบางคนอาจจะเลือก Tank 300 ultra เพราะอยากเน้นระบบความปลอดภัยมากเป็นพิเศษ บางคนอาจจะชอบเพราะเป็นเบาะหนัง Nappa และมีซันรูฟก็ได้
อ่านเพิ่มเติม : เปิดราคาอย่างเป็นทางการ Tank 300 เริ่มต้น 1,649,000 บาท และ Tank 500 เริ่มต้น 2,049,000 บาท
ขายรถเก่า-ซื้อคันใหม่ ไม่ยุ่งยาก ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง
TANK 300 Upcoming 2023
แลก
เพิ่มรถของคุณ