เชื่อว่าชาวไทยหลายคน ยังไม่พร้อมที่จะเขาสู่ยุคแห่งรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างรวมกัน
จึงทำให้หลายคนยังสนใจใช้งานรถยนต์ไฮบริดอยู่ เนื่องจากยังมีความประหยัด แถมยังสามารถเติมน้ำมันได้อยู่ จึงไม่ต้องห่วงเรื่องแบตหมดกลางทาง
เราจึงจะพาไปดูรถยนต์ไฮบริดขายดีในประเทศญี่ปุ่นประจำปี 2021 ที่เราอยากให้มาขายไทยบ้าง
1. Toyota Yaris
Toyota Yaris (โตโยต้า ยาริส) รุ่นนี้ เราอาจได้เห็นมาวิ่งทดสอบในประเทศไทยกันบ้างแล้ว แต่ยังไม่ขายกันสักที
ซึ่งปกติโตโยต้า ยาริสในประเทศไทย็ถือว่าขายดีมากอยู่แล้ว หากมีการทำไฮบริดมาด้วย พร้อมหน้าตาที่สวยกว่าเดิม จะต้องขายได้ดีแน่นอน ถ้าไม่แพงขึ้นมาก
ส่วนทางด้านขุมพลัง สเปคที่ขายในญี่ปุ่นนั้น จะมีให้เลือกถึง 3 เครื่องยนต์ ได้แก่
- เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 3 สูบ สมรรถนะ 91 แรงม้า แรงบิด 120 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 80 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตัน-เมตร อัตราประหยัดน้ำมันสูงสุด 36 กม./ลิตร สามารถเลือกระบบขับเคลื่อน 4 ล้อได้
- เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 3 สูบ 120 แรงม้า แรงบิด 145 นิวตันเมตร เลือกได้ทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และแบบ Direct Shift-CVT
- เครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร 3 สูบ ให้กำลังสูงสุด 69 แรงม้า แรงบิด 92 นิวตัน-เมตร อัตราประหยัดน้ำมันสูงสุด 20.2 กม./ลิตร
ด้วยความที่ใช้เครื่องเล็ก บวกกับการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ได้อัตราการประหยัดน้ำมันที่สูงมาก น่ามาขายไทยอย่างยิ่ง
อัตราประหยัดน้ำมันสูงสุด 36 กม./ลิตร
2. Toyota Aqua
อาจมีหน้าตาที่ไม่คุ้นกันเท่าไรนัก แต่อีกชื่อหนึ่งที่เราพอจะคุ้นหูกันบ้างก็คือ Toyota Prius C
โดย Toyota Aqua เป็นรถยนต์ซับคอมแพ็คแฮตช์แบ็ก 5 ประตู ที่เปิดตัวเมื่อปี 2011 เป็นการขยายไลน์อัพของ Toyota Prius
ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร ให้พละกำลัง 91 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 120 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า และในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมีการติดตั้งมอเตอร์ที่ล้อหลังอีก 1 ตัว ให้กำลังเพิ่มขึ้นอีก 6.4 แรงม้า
สำหรับแบตเตอรี่ที่ใช้นิกเกิล-ไฮโดรเจนแบบไบโพลาร์ ความจุเป็น 5.0Ah ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าแบตเตอรี่ในรุ่นก่อน ทำให้สามารถเดินทางในโหมด EV ได้เร็วกว่าเดิม
อัตราประหยัดน้ำมันสูงสุด 35.8 กม./ลิตร
3. Toyota Prius
ก็ถือว่าน่าแปลกที่ Toyota Prius กลับมีอัตราประหยัดน้ำมันที่น้อยกว่า Aqua ทั้งที่มีรูปทรงซีดานน่าจะลู่ลมได้มากกว่า
แต่ก็ถือว่าในโฉมล่าสุด มีการปรับไปในทางที่ดีขึ้นมากหน้าตาดูสปอร์ตขึ้น น่าใช้งานมากกว่าเดิมจนอยากให้กลับมาขาย
ขุมพลังยังคงเดิมด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid ขนาด 1.8 ลิตร 2ZR-FXE ให้กำลังสูงถึง 98 แรงม้า แรงบิด 142 นิวตันเมตรที่ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร ทำให้ได้แรงม้ารวมถึง 122 แรงม้า
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับหน้า ประหยัดสุด 39 กม./ลิตร และแบตเตอร์รี่ แบบ Nickle – Metal (NiMH) เลือกได้ทั้งรุ่นขับหน้าและขับสี่ E-Four
อัตราประหยัดน้ำมันสูงสุด 32.1 กม./ลิตร
4. Toyota Yaris Cross
Toyota Yaris Cross เป็นรถครอสโอเวอร์ที่มีขนาดเล็กกว่า Toyota Corolla Cross ยังใช้โครงสร้างแพลตฟอร์มสำหรับรถยนต์ขนาดเล็กอย่างทีเอ็นจีเอเหมือนเดิม
เป็นรถที่เปรียบได้ดังจิ๊กซอร์ที่มาอุดช่องโหว่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์รถอเนกประสงค์ที่ทำตลาดใหญ่ ๆ ของ Toyota (โตโยต้า) ซึ่งปัจจุบันมีทั้งรถเอสยูวีและรถครอสโอเวอร์ให้เลือกมากมายหลายรุ่น หลายขนาด
ขุมพลังใต้ฝากระโปรงของ Yaris Cross มีให้เลือก 2 รูปแบบ คือเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.5 ลิตร เกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติซีวีที ขับเคลื่อนล้อหน้า
ขณะระบบไฮบริด เป็นเครื่องเบนซิน 3 สูบ ทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้าระบบไฮบริดเจน 2 ระบบขับเคลื่อนที่เลือกได้ระหว่างขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้ออี-โฟร์
อัตราประหยัดน้ำมันสูงสุด 30.8 กม.ต่อลิตร
5. Nissan Note
เดี๋ยวท่านจะเบื่อโตโยต้ากันเสียก่อน Nissan Note (นิสสัน โน้ต) ในประเทศญี่ปุ่นโฉมนี้ ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด
มีหน้าตาสวยงามขึ้นเป็นอย่างมาก จนได้รับรางวัล Car of the Year 2021 มาแล้ว รวมถึงใส่เทคโนโลยี e-Power ด้วย
ระบบขับเคลื่อนของ Note e-Power ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตรปั่นกระแสไฟฟ้าสู่แบตเตอรี่ ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลังสูงสุด 109 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 254 นิวตันเมตร
อัตราประหยัดน้ำมันสูงสุด 29.5 กม./ลิตร
แม้ว่าในการจัดอันดับนี้ จะมี Toyota เป็นส่วนใหญ่ แต่มันก็อาจแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความมุ่งมั่นที่จะทำรถรักษ์โลกขึ้นมาจริง ๆ ซึ่งปัจจุบันเขามีกว่า 45 รุ่นแล้วเมื่อรวม Lexus (เลกซัส)
นอกจากนี้ยังมีคันอื่น ๆ อย่าง Honda Fit e:HEV และ Honda Insight ที่เราต่างอยากให้มาขายทั้งนั้น แต่ก็อาจจะได้แค่หวังก็ได้ครับ
อ่านเพิ่มเติม เทียบ SUV ญี่ปุ่น Honda Vezel, Toyota Yaris Cross, Toyota Raize, Nissan Kicks มีผู้ชนะรุ่นเดียว