ใคร ๆ ก็อยากมีรถเอาไว้ซิ่งกันทั้งนั้นครับ พอมามองดูแล้ว รถสปอร์ตที่ขายในบ้านเราราคาอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านบาท เช่น Ford Mustang, Toyota GR Supra หรือ Audi TT ออกจะเกินงบไปซักหน่อย
สำหรับใครที่อยากได้ความรู้สึกหลังติดเบาะ ในราคาย่อมเยา เรารวบรวมรถที่มีเกิน 200 แรงม้า แต่ราคาไม่ถึง 2 ล้านบาทมาให้เลือกกันครับ
5. MG HS PHEV ราคา 1,359,000 บาท
เอ็มจี เอชเอส พีเอชอีวี ปลั้กอินไฮบริดคันแรกของเอ็มจี ที่นำเข้ามาขายในประเทศไทย ตัวรถเป็นแบบเดิม ภายในตัวถังสีขาวสุดพรีเมี่ยมด้วยเบาะสีขาว-น้ำเงินกรม ลองขับมาแล้วได้ความรู้สึกหลังติดเบาะเบา ๆ อ่านรีวิวได้ที่นี่
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร พ่วงเทอร์โบ 169 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ที่มีพละกำลังสูงสุด 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ EDU Gearbox ใช้แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 16.5 kW (กิโลวัตต์)
เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะได้พละกำลังรวมสูงสุด 291 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. หากวิ่งด้วยไฟฟ้าได้ไกลสุด 75 กิโลเมตร
4. Mitsubishi Outlander PHEV ราคา 1,500,000-1,700,000 บาท
มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี อีกคันกับปลั้กอินไฮบริด ที่ทางมิตซูบิชิกล่าวว่า เป็นปลั้กอินไฮบริดคันแรกที่ขายในเอเชีย และขายดีที่สุดในโลก พร้อมระบบจ่ายไฟกลับเข้าบ้าน Dendo Drive House แม้ราคาจะยังไม่เป็นที่เปิดเผย แต่คาดเดาว่าน่าจะเริ่มต้นที่ 1,500,000 ไปจนถึง 1,700,000 ก้เป็นได้
เครื่องยนต์
สเปคเครื่องยนต์ยังไม่เปิดเผย แต่คาดว่าจะเป็นขุมพลังเบนซิน 4 สูบ MIVEC 2.4 ลิตรคู่กับระบบไฟฟ้า มีกำลังรวมเกิน 236 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร จะมีมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวกับขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยมีโหมด EV ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน กับมีโหมดสปอร์ตพร้อมแป้นแพดเดิ้ลชิฟต์
3. Toyota Fortuner ราคา 1,349,000-1,839,000 บาท
โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ไม่มาไม่ได้ กับขวัญใจผู้ใช้แบรนด์ 3 ห่วง ด้วยหน้าตาที่สวยงาม ชุดแต่ง Legender ใหม่ และเครื่องที่แรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนขายกันหมดสต้อคมาแล้ว
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบเรียง ความจุ 2.8 ลิตร สร้างกำลังสูงสุด 204 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที
2. Ford Ranger Raptor ราคา 1,690,000 บาท
ฟอร์ด แรพเตอร์ กระบะสุดโหดจากฝั่งอเมริกา ที่มีความสูงใหญ่ พร้อมหน้าตาที่ดุดันกว่าคันอื่น ๆ มาเป็นครั้งแรกกับเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ ทำงานร่วมกันระหว่าง High-Pressure (HP Turbo) เทอร์โบแรงดันสูง และ Low-Pressure (LP Turbo) เทอร์โบแรงดันต่ำ ควบคุมด้วยวาล์ว Bypass
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue TDCi 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี. พ่วงเทอร์โบคู่กำลังสูงสุด 213 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift
1. Volvo S60 T8 ราคา 2,190,000-2,590,000 บาท
วอลโว่ เอส60 ที8 ราคาอาจจะเกินกันมาเล็กน้อย ด้วยความที่ประกอบในมาเลย์ เป็นรถยนต์รุ่นแรกของค่ายที่จะยุติการติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล ตามแผนการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ยังคงเครื่องเบนซินไว้อยู่ แต่แรงสะใจแน่นอน
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร 1,969 ซีซี. 4 สูบ Turbocharged และ Supercharged กำลังสูงสุด 320 แรงม้าที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิด 440 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 87 แรงม้า
เมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะได้กำลังสูงสุด 407 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร
แบงค์ให้ 3 คำ: ”แรง พอ ดี”
เอาเข้าจริงแล้ว ในชีวิตประจำวัน เราไม่ได้ขับรถเร็วไปมากกว่า 160 กิโลเมตร/ชั่วโมงทุกวันหรอกครับ โดยเฉพาะสภาพการจราจรในกรุงเทพยิ่งแล้วใหญ่ เอารถแรง ๆ มาก็ใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ ขับก็เหนื่อย
ล่าสุดกำลังจะมีการเปิดตัว Toyota GR Yaris ที่มีการพัฒนาร่วมกับทีมแข่ง Gazoo Racing มาขายในบ้านเราด้วยราคาที่คาดเดาส่าเกิน 3.5 ล้านบาท ด้วยพละกำลังสูงสุด 272 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตรที่ 3,000 – 4,600 รอบต่อนาที อ่านรายละเอียดได้ที่นี่ คิดว่าจะได้วิ่งกันเต็มที่ของกำลังเขาหรือไม่ ต้องมารอดูกันครับ