แม้ว่าจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงในประเทศไทยจะเป็นสิ่งที่หาได้ยาก ทำให้ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามือสองนั้นแทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้
แต่แน่นอนว่าในอนาคตโอกาศที่รถยนต์ไฟฟ้ามือสองก็จะมีให้เห็นมากขึ้น แล้วมีปัจจัยอะไรบ้างที่ควรจะดูก่อนตัดสินใจซื้อมาใช้?
แม้ว่าจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงในประเทศไทยจะเป็นสิ่งที่หาได้ยาก ทำให้ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามือสองนั้นแทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้
แต่แน่นอนว่าในอนาคตโอกาศที่รถยนต์ไฟฟ้ามือสองก็จะมีให้เห็นมากขึ้น แล้วมีปัจจัยอะไรบ้างที่ควรจะดูก่อนตัดสินใจซื้อมาใช้?
หลายคนอาจจะคิดกันไปว่า รถยนต์ไฟฟ้ามีระบบเทคโนโลยีเยอะ อาจทำให้ค่าซ่อมบำรุงนั้นสูงตามไปด้วย แต่อันที่จริงแล้วเนื่องจากการทำงานของมอเตอร์รถยนต์ไฟฟ้ามีความร้อนน้อยกว่าการเผาไหม้ของเครื่องยนต์สันดาป ทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ เสื่อมสภาพช้า มีการประเมิณอายุการใช้งานเอาไว้มอเตอร์ไว้ที่ประมาณ 10 ปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานของผู้ขับขี่
ดังนั้นหากเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังมีอายุการใช้งานไม่มากจึงยังไม่ต้องกังวล ในอีกส่วนหนึ่งก็คือแบตเตอรี่ ที่ทาค่ายรถยนต์จะมีการออกแคมเปญรับประกันแบตเตอรี่มาให้อยู่แล้ว อย่างเช่นใน MG ZS EV (เอ็มจี แซดเอส อีวี) ที่ตอนเปิดตัวจะรับประกันแบตเตอรี่ให้นานถึง 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร จึงควรถามเจ้าของว่าเคยมีปัญหา หรือได้รับการเคลมมาก่อนหรือไม่
หลายท่านทราบว่าราคาแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้านั้นค่อนข้างแพงหูฉี่ แต่ในปัจจุบันราคาแบตเตอรี่นั้นมีแนวโน้มที่จะถูกลงเป็นอย่างมาก ผลการสำรวจจาก Bloomberg NEF พบว่าระหว่างปี 2010-2018 ราคาของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าลดลงมากถึง 85% เลยทีเดียว
อ่านเพิ่มเติม 2021 MG EP ค่าบำรุง 100,000 โลจ่ายไม่เกิน 8,000 บาท
อีกประเด็นที่เป็นที่พูดถึงกันก็คือ ค่าไฟที่ใช้ในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ที่ก็มีหลากสูตรหลากการคำนวน ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ กฟน.ก็ได้มีการกำหนดค่าชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบ Low Priority เสียค่าไฟ 2.63 บาท/หน่วย
หากลองยกตัวอย่าง รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 150 แรงม้า อัตราสิ้นเปลืองประมาณ 5.34 กิโลเมตร/ kWh. ค่าเชื้อเพลิงของรถยนต์ไฟฟ้านั้นจะอยู่ที่ 0.5 บาท/กิโลเมตร ทำให้ปี ๆ หนึ่ง รถยนต์ไฟฟ้าคันนั้นจะมีค่าชาร์จอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาทเท่านั้น
อ่านเพิ่มเติม ราชกิจจานุเบกษาใหม่ กำหนดค่าชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าเสียค่าไฟ 2.63 บาท/หน่วย
ลองมอง MG ZS EV ที่เปิดตัวเมื่อปี 2019 ด้วยราคา 1,190,000 บาท ในปัจจุบันผ่านมา 3 ปีราคาเฉลี่ยมือสองอยู่ที่ประมาณ 840,000 บาท มีราคาหล่นลงมา 29.41%
หรือในประเทศรัสเซียเอง ราคา Nissan Leaf มือสองนั้นตีเป็นเงินไทยแค่ 150,000 บาทเท่านั้น
ซึ่งก็ถือว่าผู้ที่รอซื้อรถยนต์มือสองนั้นจะได้ประโยชน์ไปเต็ม ๆ ทำให้ดูน่าสนใจไม่น้อย
สิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ ระยะทางในการวิ่งต่อการชาร์จ เนื่องจากปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้ายังมีระยะค่อนข้างจำกัด ควรศีกษาความพร้อม และเส้นทางที่มักจะเดินทางบ่อย ๆ ว่ามีสถานีชาร์จรองรับหรือไม่
ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าที่มีขายในประเทศไทยมีระยะอยู่ที่ระหว่าง 400-500 กิโลเมตร ซึ่งจะเหมาะกับวิ่งใช้งานในเมืองมากกว่า หากอยากได้จริง ๆ ก็ควรเอาไว้เป็นตัวเลือกรถคันที่สอง
อีกทั้งยังควรดูว่ารถยนต์คันนี้ใช้มากี่ปี วิ่งมาเท่าไร แล้วความจุแบตเตอรี่เหลืออีกเท่าไร เนื่องจากการใช้งานไปนาน ๆ ของรถยนต์ไฟฟ้าจะทำให้แบตตอรี่เสื่อมสภาพลง ส่งผลให้มีระยะในการวิ่งน้อยลงจากค่ามาตรฐาน
อ่านเพิ่มเติม รถยนต์ไฟฟ้าหลังผ่านไปหลายปี จะเสียระยะการวิ่งไปเท่าไรกันนะ?
เราค่อนข้างที่จะไม่แนะนำให้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นรถคันแรกในบ้าน ด้วยหลาย ๆ ปัจจัยที่กล่าวมายังไม่เอื้ออำนวยต่อการครอบครอง รวมถึงหากมีปัญหาขัดข้อง จะได้ยังมีรถยนต์สันดาปธรรมดาไว้ใช้งานก่อน
อย่างไรก็ตาม หากท่านมีการใช้งานเพียงในเมือง หรือออกต่างจังหวัดแค่กรุงเทพปริมณฑล รถยนต์ไฟฟ้าก็เป็นตัวเลือกที่น่าคบหา ถ้ามีความพร้อมครับ