ซูซูกิ บริษัทรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น จัดจำหน่าย 2019 ซูซูกิ สวิฟท์ บนค่าตัวเริ่มต้นที่รุ่น GA CVT ราคา 4.99 แสนบาทถึงรุ่นสูงสุด GLX-Navi CVT ราคา 6.29 แสนบาท มาพร้อมเครื่องยนต์ 3 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร มีกำลัง 83 แรงม้า และแรงบิด 108 นิวตันเมตร
2019 ซูซูกิ สวิฟทช์ เป็นรถยนต์อีโคคาร์ที่ผลิตโดย ซูซูกิ ในประเทศไทย ออกทำตลาดรถประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (อีโคคาร์) และเผยโฉมล่าสุดในปี 2561 มีน้ำหนักรถอยู่ระหว่าง 875 – 910 กก. และมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 23 กม.ต่อลิตร
All-New 2018 Suzuki Swift (2018 ซูซูกิ สวิฟท์) รถยนต์นั่งขนาดเล็กรุ่นแรกในโครงการอีโคคาร์ เฟสสอง จากค่ายซูซูกิ ที่ทำการพัฒนามาใหม่หมดจดทั้งรูปร่างหน้า การเปลี่ยนแปลงด้านเครื่องยนต์ รวมไปถึงบรรดาของเล่นต่าง ๆ มากมายที่ติดตั้งเพิ่มมาทั้งหมด
การพัฒนารถยนต์เพื่อเข้าโครงการอีโคคาร์ เฟสสอง หมายถึงทีมงานของซูซูกิต้องคิดหนักในเรื่องการพัฒนารถที่ทำได้ดีอยู่แล้วในอีโคคาร์เฟสหนึ่ง ให้มีสมรรถนะเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ประหยัดกว่าเดิมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น ตามข้อกำหนดอันเข้มงวด
และแน่นอนว่าพวกเขากลับมาพร้อมโครงสร้างตัวถังฮาร์ทเทค (HEARTTEC) เครื่องยนต์แบบใหม่หัวฉีดคู่ดูอัลเจต (Dual Jet) พร้อมด้วยระบบด้านความปลอดภัยอันเป็นมาตรฐานของโครงการ ซึ่งทำให้ตัวรถในภาพรวมนั้นมีความโดดเด่นและความน่าสนใจไม่น้อย
ด้านการวางราคาจำหน่ายนั้น ในรุ่นเริ่มต้นที่มีอุปกรณ์ไม่มากนัก แต่ได้ระบบต่าง ๆ ไปอย่างครบครัน เคาะราคาต่ำกว่า 5 แสนบาท และรุ่นท็อปที่เราทดสอบ มีอุปกรณ์ให้มากมายรวมไปถึงระบบนำทางที่ติดตั้งมาในตัวรถ วางราคาจำหน่าย 6.29 แสนบาท ซึ่งถือว่าทำราคามาดี
ส่วนตัวรถจะน่าสนใจขนาดไหน และพร้อมจะไปต่อกรกับคู่แข่งในตลาดอีโคคาร์ ที่มีทั้งเฟสหนึ่งและเฟสสองเต็มท้องตลาดไปหมดหรือไม่ จะพาไปทดสอบกันให้เหมือนประหนึ่งนั่งข้าง ๆ แล้วกดคันเร่งไปพร้อม ๆ กันเลยล่ะ
ตารางราคาจำหน่าย All-New 2018 Suzuki Swift |
Suzuki Swift 1.2 GA CVT |
4.99 แสนบาท |
Suzuki Swift 1.2 GL CVT |
5.36 แสนบาท |
Suzuki Swift 1.2 GLX CVT |
6.09 แสนบาท |
Suzuki Swift 1.2 GLX Navi CVT |
6.29 แสนบาท |
ตารางรายละเอียดทางเทคนิค 2018 ซูซูกิ สวิฟท์ จีแอลเอ็กซ์ เนวี่ |
มิติตัวถัง (กว้างxยาวxสูง) (มิลลิเมตร) |
1,735x3,840x1,495 |
ระยะฐานล้อ (มิลลิเมตร) |
2,450 |
ความสูงใต้ท้องรถ (มิลลิเมตร) |
120 |
ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย (ลิตร) |
265 |
เครื่องยนต์ |
K12M |
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี.) |
1,197 |
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที) |
83/6,000 |
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร/รอบต่อนาที) |
128/4,400 |
ระบบส่งกำลัง |
อัตโนมัติซีวีที |
ระบบขับเคลื่อน |
ขับเคลื่อนล้อหน้า |
ระบบบังคับเลี้ยว |
พาวเวอร์ไฟฟ้า อีพีเอส |
ระบบเบรกด้านหน้า |
ดิสก์เบรก |
ระบบเบรกด้านหลัง |
ดรัมเบรก |
ขนาดล้ออัลลอย (นิ้ว) |
16 |
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) |
37 |
รองรับเชื้อเพลิงสูงสุด |
แก๊สโซฮอล์ อี20 |
การออกแบบภายนอกที่สวยงามและโดดเด่น
แม้จะเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็ก แต่เมื่อมีผู้รออยู่ที่โครงการอีโคคาร์เฟสสองรายแรกคือ มาสด้า (Mazda 2) แน่นอนว่ารถที่ตามเข้ามาจะออกแบบหน่อมแน้มเป็นรถของเล่นไม่ได้อีกแล้ว และต้องบอกว่าสวิฟ์ใหม่เองก็ทำหน้าที่นี้ได้เป็นอย่างดี ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูสปอร์ตขึ้น ลงตัวกว่ารุ่นเดิมเยอะ
การออกแบบภายนอกนั้น ต้องบอกว่าซูซูกิเองสามารถนำไปต่อยอดรถของพวกเขาเป็นรุ่นสปอร์ตที่เน้นความดุดันได้สบาย ขนาดของตัวถังใหญ่ขึ้นในเกือบทุกมิติ ลดความสูงของตัวรถเพื่อความลู่ลม และแม้จะมีความกว้างที่ลดลง แต่พื้นที่ภายในห้องโดยสารกลับดูกว้างขึ้นกว่าเดิม
กระจังหน้าพร้อมเส้นคาดสีแดงในทุกรุ่น มาพร้อมมือจับประตูหลังที่ซ่อนด้านบนของบานประตู ไฟท้ายแบบแอลอีดีที่ดูโฉบเฉี่ยวและลงตัวขึ้น ประตูเข้าห้องโดยสารเปิดได้อย่างกว้างขวาง เข้าออกได้อย่างสบาย ขณะที่บานประตูหลังก็เปิดได้กว้างขวาง ขนสัมภาระเข้าออกได้โดยสะดวก
ห้องโดยสารเพิ่มของเล่น เน้นใช้งานในเมือง
การออกแบบห้องโดยสารภายในเน้นโทนดำ โดยใช้งานพลาสติกสลับกับผ้าหุ้มในตำแหน่งต่าง ๆ พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมปุ่มควบคุมระบบต่าง ๆ ติดตั้งบนคอพวงมาลัย ใช้ในการคุมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและระบบเครื่องเสียงได้โดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย
เบาะที่นั่งหุ้มผ้าลายสวย รูปร่างของเบาะเป็นแบบแบแบไม่ห่อหุ้มตัวมากนัก ตำแหน่งการนั่งดูค่อนข้างจมทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ดูแล้วน่าจะมีปัญหาในการเดินทางระยะไกลมาก ๆ ก็อาจจะทำให้เมื่อยกว่าปกติ จริงอยู่ว่าอาจจะมีคนเถียงว่าอีโคคาร์ก็ใช้ในเมืองสิ แต่อย่าลืมว่าคนไทยซื้อรถคันเดียวเที่ยวทั่วไทยนะ
เข็มขัดนิรภัยแบบปรับระดับได้ แผงคอนโซลหน้าหันเข้าหาคนขับเพื่อความสะดวกในการอ่านข้อมูล จอสัมผัสที่มาพร้อมระบบนำทาง อาจจะต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจสักเล็กน้อย ในรุ่นเปิดตัวไม่มีกล้องถอยหลังและเซนเซอร์ถอยหลังมาให้ ต้องไปติดตั้งกันเอาเองนะ
เครื่องยนต์ใหม่และแพลตฟอร์มน้ำหนักเบา
ซูซูกิทำการพัฒนารถคันนี้แบบใหม่เกือบหมดทั้งคัน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้แพลตฟอร์มฮาร์ทเทคใหม่ ที่มีการปรับปรุงให้มีน้ำหนักเบาขึ้น แต่เพิ่มความแข็งแกร่งด้วยการใช้ความสามารถในเชิงวิศวกรเข้ามาทดแทน ทำให้ได้ตัวถังที่น้ำหนักเบา และมีสัดส่วนน้ำหนักต่อแรงม้าที่ดีขึ้น
เครื่องยนต์ใหม่รหัส K12M ขนาด 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบซีวีที รองรับเชื้อเพลิงสูงสุดแก๊สโซฮอล์ อี20 และให้อัตราการประหยัดน้ำมันถึง 4.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร
แม้เครื่องยนต์จะมีแรงม้าลดลง แต่มีแรงบิดเท่าเดิม ที่มาที่รอบที่ไวกว่าเดิม แน่นอนว่าเมื่อรวมกับน้ำหนักตัวถังที่ลดลงไป 70 กิโลกรัม การตอบสนองของรถคันนี้ก็ต้องดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเกียร์ซีวีทีใหม่ที่ติดตั้งอิเลกทริคปั้มและวางซอฟต์แวร์ใหม่ให้ขับสนุกสนานกว่าเดิม
การขับขี่ที่ดีขึ้นมาจากกำลังของเครื่องยนต์ที่ส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบแทบจะไม่มีรอยต่อ แน่นอนว่าอาการลากรอบเครื่องยนต์ที่ย่านความเร็วสูงยังมีให้เห็นอยู่ แต่เครื่องยนต์นั้นไม่ได้ออกอาการเหนื่อยจนทำให้ถอดใจอยากถอนคันเร่งแต่อย่างใด
ช่วงล่างที่ดูเหมือนว่าจะเซตอัพมาแบบเบาหวิวที่ก่อให้เกิดความไม่มั่นใจในตอนแรก หากขับไปสักพักและสามารถปรับเรื่องของการขับขี่ให้เข้ากับตัวเองได้ ขอบอกว่าเรื่องนั้นไม่เป็นปัญหา คุณสามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นใจแน่นอน หรือจะไปทำช่วงล่างเล็กน้อยให้หนึบขึ้นก็ไม่ผิดกติกา
ระบบความปลอดภัยและอุปกรณ์ความสะดวกเต็มที่
ข้อกำหนดของการเข้าโครงการอีโคคาร์ เฟสสอง ทำให้ซูซูกิ สวิทฟ์ในทุกรุ่นย่อย จำเป็นที่จะต้องมีระบบช่วยเหลือด้านการขับขี่ อันประกอบด้วย ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ระบบกระจายแรงเบรก ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบป้องกันการลื่นไถล และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน เป็นระบบมาตรฐาน
ขณะที่ซูซูกิก็ติดตั้งอุปกรณ์อื่น ๆ เพิ่มมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า ระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่ง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบกุญแจสมาร์ทคีย์พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ มาพร้อมถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง กุญแจอิมโมบิไลเซอร์และสัญญาณกันขโมย
เบาะนั่งด้านหลังพับได้แบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการขนสัมภาระ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติพร้อมจอแสดงผลดิจิตอล เครื่องเสียงหน้าจอ 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อหลากหลายรูปแบบ รวมถึงแอปเปิล คาร์เพลย์และแอนดรอยด์ ออโต้ มาพร้อมระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบบลูทูธ
อีโคคาร์ที่คุ้มค่าและน่าคบหา
ในด้านการตอบสนองต่อการขับขี่นั้น เมื่อมีอีโคคาร์รายใหม่ ๆ ที่มาพร้อมเครื่องยนต์สมรรถนะสูงเกิดขึ้นมากมายในท้องตลาด ทำให้สมรรถนะของ All-New 2018 Suzuki Swift อาจจะดูด้อยไปบ้างเมื่อเทียบกัน แต่หากมองที่ความคุ้มค่าของรถแล้ว สวิฟท์ก็ยังเป็นรถที่น่าสนใจอยู่
เป้าหมายของซูซูกิในการพัฒนาสวิทฟ์ใหม่ คือการพัฒนารถที่ดูสปอร์ตขึ้น ขับขี่ได้สนุกขึ้น น่าใช้งานขึ้นด้วยออพชั่นที่หลากหลายมากมาย และนี่ก็คือคำตอบที่พวกเขาทำขึ้นมาสำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของพวกเขาที่อยากจ่ายไม่แพงมาก แต่ได้สินค้าที่ดีเหมาะกับการใช้งานประจำวันทุกวัน
ด้วยราคาจำหน่ายระดับไม่ถึง 5 แสนบาทแล้วได้ระบบความปลอดภัยเหล่านี้เป็นมาตรฐาน หรือจะจ่ายแพงอีกนิดเพื่อเอาของเล่นไปให้ครบ ๆ 2018 ซูซูกิ สวิฟท์ ก็ยังเป็นรถที่คุ้มค่าที่สุดคันหนึ่ง ที่มาพร้อมการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ห้องโดยสารที่สะดวกสบายและระบบที่พร้อมสำหรับการใช้งานรถยนต์ที่ดีสักคัน