รถกระบะทุกวันนี้ไม่ได้มีไว้ขนของอย่างเดียว แต่เป็นรถที่แสดงตัวตนของคนชอบเที่ยวลุย หรือใช้ชีวิตกลางแจ้งบ่อย ๆ ซึ่งมีหลายค่ายพยายามสลัดภาพลักษณ์รถขนของ ด้วยการจับมาเพิ่มชุดแต่งมากมาย จับกลุ่มคนใช้รถกระบะแบบส่วนตัว ไม่ใช่เชิงพาณิชย์(แม้ว่าจะจดทะเบียนป้ายเขียวก็ตาม) ซึ่งฟอร์ดคือผู้ผลิตรถกระบะรายล่าสุดที่ลงมาเล่นในตลาดนี้
2021 Ford Ranger XL Street (ฟอร์ด เรนเจอร์ เอกซ์แอล สตรีท) คือรุ่นย่อยใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวในปลายปี 2020 ล่าสุดนี้ นอกเหนือจากการไมเนอร์เชนจ์ของรุ่นย่อยอื่น ๆ แล้วล่ะก็ นับว่า Ranger XL Street มีความแตกต่างกว่าใคร โดยเป็นการนำรุ่น XL ตัวถังตอนครึ่ง ขับเคลื่องสองล้อ ความสูงปกติ มาเพิ่มของแต่งสไตล์ซิ่ง ที่มีราคาจับต้องได้ง่ายมาก ๆ เพียง 669,000 บาท เมื่อเทียบกับราคา Ford Ranger 2021 รุ่นใหม่ทั้งหมดแล้วเป็นดังนี้
ราคา Ford Ranger 2021 |
|
XL Street (ใหม่) |
669,000 บาท |
XL+ Sport |
689,000 บาท (เดิม 673,000) |
XLT ดับเบิ้ลแค็บ |
799,000 บาท (เดิม 854,000) |
Wildtrak |
979,000 - 1,265,000 บาท |
Raptor |
1,699,000 บาท |
Highlight การเปลี่ยนแปลงในรถคันนี้
-
สติ๊กเกอร์ Ford Racing
-
สีใหม่ น้ำเงิน ไลท์นิ่ง บลู
-
กระจังหน้าลายใหม่ มีกรอบแดง
-
ล้อแมกซ์สีดำ
-
กรอบกระจกข้างสีดำ
ภายนอก สีสันจากรถแข่ง
สำรวจรอบคันของกระบะตอนครึ่งตัวเตี้ยแต่งพิเศษ ที่ถูกใส่ของแต่งดีไซน์สปอร์ตรอบคัน เป็นผลงานของทีมออกแบบของฟอร์ดจากออสเตรเลีย ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่งเรนเจอร์ ของทีมฟอร์ด ไทยแลนด์ เรสซิ่ง (Ford Thailand Racing - FTR) โดยมีสติ๊กเกอร์รอบคันพาดตามยาว ตั้งแต่หน้ารถ ฝากระโปรง หลังคา และฝาท้าย เส้นสีขาวคู่ที่ตั้งใจให้นึกถึงรถแข่งในสนามอย่างเต็มที่
ความสปอร์ตยังมีต่อด้วยใส่กระจังหน้าลายตะแกรงแบบ 3 มิติใหม่ ทำสีดำเกือบทั้งหมด เหลือกรอบข้างสีแดง ส่วนล้อแม็กซ์เป็นสีดำเงาล้วน ที่สำคัญคือมีสีตัวถังใหม่ให้เลือก นั่นคือ สีน้ำเงิน ไลท์นิ่ง บลู ซึ่งเป็นเฉดเดียวกับที่ใช้ในรถแข่ง รวมถึงในรถสปอร์ตอย่าง Ford Mustang มาก่อนด้วย สรุปแล้ว รุ่นย่อย XL Street นี้เป็นการใช้เฉดสีตกแต่งเป็นหลักเท่านั้น ไม่ได้มีพาร์ทใด ๆ เพิ่มเติมขึ้นมาจากเดิม
มิติตัวถัง Ford Ranger XL Street |
||
กว้าง |
1,867 มิลลิเมตร |
|
ยาว |
5,376 มิลลิเมตร |
|
สูง |
1,706 มิลลิเมตร |
|
ระยะฐานล้อ |
3,220 มิลลิเมตร |
|
ระยะใต้ท้องรถ |
135 มิลลิเมตร |
ภายใน Ford Ranger XL Street
การตกแต่งภายในเป็นโทนสีดำล้วน สิ่งที่ว้าวที่สุดก็คือ ในรถกระบะราคา 6 แสนกว่าบาทนี้ ได้หน้าจอสัมผัส 8 นิ้วดูสว่างไสวเหมือนรุ่นหรู พร้อมด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นที่ควบคุมได้ทั้งหน้าจออินโฟเทนเม้นท์ และจอดิจิตอลที่เกจหน้าปัด แถมสามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์ ไว้รับสายขณะขับรถ ด้วยการกดปุ่มพวงมาลัย นับเป็นความเท่ห์สุดเท่าที่งบเท่านี้จะให้ได้
ความสามารถในการปรับสูงต่ำของเบาะ และความสามารถในการยืดพวงมาลัยเข้าออก ก็เหมือนกับรถกระบะขนของรุ่นอื่น ๆ คือยังไม่ใส่มาให้อยู่ดี แม้ว่าจะเป็นรถกระบะที่จับกลุ่มคนใช้ขับส่วนบุคคล แต่ก็ยังไม่เหมาะกับคนสูงน้อยกว่า 170 ซม. อาจจะต้องเสริมเบาะรองนั่งกันเอาเอง
ออพชั่นอื่น ๆ ที่ให้มาในรายละเอียด ก็ถือว่าน่าประทับใจ เช่น ลำโพง 6 จุดแม้กระทั่งในแค็ปตอนหลังยังมีให้ โช้คอัพฝากระโปรงหน้า ไฟในห้องโดยสารทั้งตอนหน้าและตรงกลาง ราวมือจับฝั่งคนขับ แต่รายละเอียดบางอย่างที่ขาดหายไปก็มี เข็มขัดปรับระดับได้ แผงไล่ฝ้าหลัง กระจกในที่บังแดด ซึ่งบางคนอาจจะได้ใช้จริง หรือบางคนไม่ต้องการก็เป็นได้
เครื่องยนต์มีเรี่ยวแรงให้ใช้งาน
Ford Ranger XL Street มีเฉพาะเกียร์ธรรมดาเท่านั้น ทำให้วัยรุ่นอยากสบายจะส่ายหน้าหนีไปหลายคน แต่หากมาลองขับดูจริง ๆ แล้วจะพบว่า คลัตช์ไม่ได้แข็งไปกว่ารถเก๋งเกียร์ธรรมดาทั่วไป แถมด้วยกำลัง 160 แรงม้า กับแรงบิด 385 นิวตัน-เมตรที่พาเราออกตัวแบบโดดได้ง่าย ช่วงคันชักเกียร์ที่ไม่ได้กว้างมาก ทำให้ไม่ต้องออกแรงสับเกียร์จนเมื่อย แม้ว่าเราจะลองขับใช้งานในเมืองอย่างหนักแล้วก็ตาม
การลองขับนี้ได้พาขึ้นทางด่วนจำลองการขับทางไกล ขับลากจนแตะขีดแดง กระทั่งลองเลียคลัตช์ จนถึงลองออกตัวกระชากแบบคนไม่เลียคลัตช์ เรียกว่าเลียนแบบพฤติกรรมของหลายคนที่ใช้งานทุก ๆ แบบ ก็ยังไม่พบข้อบกพร่องหรือหลุด QC ออกมาให้เห็น การขับครั้งนี้นอกจากแช่ที่รอบจัดแล้ว ยังลองเข้าเกียร์ 6 ที่ความเร็ว 50 กม./ชม. พบว่ารอบเครื่องตกมาต่ำกว่า 1,000 รอบ/นาที แต่รถก็ยังไปต่อได้โดยไม่ส่งเสียงอุทรณ์ใด ๆ จะมีอาการตรงที่แรงม้าหดหายจนเร่งแซงได้ยากเท่านั้นเอง
ช่วงล่างแข็งแบบรถขนของ
ทางด้านช่วงล่างนั้น เห็นว่าเป็นรุ่นสปอร์ตแล้วอย่าคิดว่าจะแต่งอะไรเพิ่ม ยังคงมาตรฐานรถกระบะขนของรุ่นปกติ ที่เซ็ตมาอย่างแข็งเน้นบรรทุก เห็นมีแหนบถึง 4 แผ่น โดยเป็นแหนบบรรทุกซะ 2 แผ่นเข้าไปแล้ว ข้อดีคือสามารถบรรทุกหนักแบบรถขนของ ส่วนช่วงล่างหน้าก็เซ็ตมาให้หนักแน่นแบบรถกระบะขนของ ที่มียุบตัวไม่มาก ซึ่งก็มีข้อดีคือการคาดเดาได้ง่าย เมื่อรถเสียอาการแล้วสามารถกู้คืนได้ไว พวงมาลัยไฟฟ้าก็ยังทำงานดั่งใจนึก นับว่ายังไม่เสียชื่อกระบะฟอร์ดด้านการเกาะถนน
อัตราการกินน้ำมันก็ยังคงไม่ใช่จุดขายของรถรุ่นนี้ เพราะเมื่อดูจากใน OBD แสดงค่าเฉลี่ยออกมาได้ประมาณ 11.23 กม./ลิตร ด้วยรูปแบบการขับในเมืองเป็นส่วนใหญ่ แถมยังใช้รอบจัดอีกด้วย หากเป็นคนขับทั่วไปที่ไม่ได้เท้าหนัก และมีการเดินทางไกลสลับบ้าง ก็จะพบค่ากินน้ำมันเฉลี่ย 13 กม./ลิตรขึ้นไปได้ไม่ยาก
รายละเอียดทางเทคนิค Ford Ranger XL Street |
||
เครื่องยนต์ |
ดีเซล 4 สูบ |
|
ความจุ |
2,198 ซีซี. |
|
กำลังสูงสุด |
160 แรงม้า |
|
แรงบิดสูงสุด |
385 นิวตันเมตร |
|
ระบบส่งกำลัง |
ธรรมดา 6 สปีด |
สรุปสิ่งที่ต้องปรับปรุง
ความน่าเสียดายอยู่อย่างหนึ่งของ Ford Ranger XL Street คือการเกิดมาแต่งแท้ ๆ แต่ภายในยังขาดความเฟี้ยวฟ้าวอยู่มาก ควรจะเพิ่มเบาะหนังเย็บด้ายสีแดง หุ้มลายคาร์บอนไฟเบอร์ ปรับโทนสีภายในให้ดูสปอร์ต เพื่อปรับธีมภายในให้เข้ากับภายนอก คงจะไม่เป็นการรบกวนต้นทุนเกินไป
จุดสำคัญอีกอย่างก็คือ ควรเพิ่มทางเลือกเกียร์ออโต้เข้ามาด้วย เพราะลูกค้าที่ซื้อไปใช้งานส่วนตัว มักจะมีโอกาสใช้งานในเมืองสูงกว่าแบบรุ่นปกติ แม้ว่าคลัตช์รุ่นนี้จะไม่แข็ง แต่ก็ยังสู้การใช้เกียร์อัตโนมัติไม่ได้อยู่ดี
เทียบกับคู่แข่ง
Isuzu D-Max X-series (อีซูซุ ดี-แมคซ์ เอกซ์-ซีรี่ย์) ในราคาเริ่มต้น 729,000 บาท คุณจะได้การตกแต่งที่เฟี้ยวกว่าเยอะ นอกจาสติ๊กเกอร์แล้ว ยังได้สเกิร์ตรอบคัน สัญลักษณ์รถซิ่งทั้งภายนอกและภายใน แถมยังได้การตกแต่งด้วยสีแดงที่ายในอีกด้วย แม้ว่าเครื่องยนต์จะมีกำลังน้อยกว่านิด ๆ แต่ก็ได้ความประหยัดชดเชยมาแทน
Toyota Hilux Revo Z-Edition (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่) ในราคา 669,000 บาท แม้ว่าจะไม่ได้แต่งสวยอะไรจากโรงงาน คุณจะได้ขับเกียร์ออโต้ เบาะปรับสูงต่ำได้ พวงมาลัยปรับเข้าออกได้ แถมด้วยชื่อชั้นโตโยต้าที่มีศูนย์บริการเยอะแยะ ไม่ต้องง้อศูนย์เฉพาะทาง หรือไปเซอร์วิสไกล ๆ
Mitsubishi Triton Limited Edition (มิตซูบิชิ ไทรทัน) ในราคา 647,000 บาท ถูกกว่าใครเพื่อน ที่ตกแต่งหลายชิ้นส่วนเป็นสีดำ ได้คิ้วซุ้มล้อ กับกันชนท้าย ทำให้รถดูใหญ่เต็มตามากขึ้น ส่วนเครื่องยนต์ก็แรงกว่าใครด้วยกำลัง 181 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตร