MG HS PHEV (เอ็มจี เอชเอส พีเอชอีวี) รถยนต์เอนกประสงค์ที่มาพร้อมระบบไฮบริดแบบเสียบปลั๊กคันแรกที่ไม่ได้มาจากค่ายรถยุโรปในประเทศไทย กำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมประกาศราคาจำหน่าย ที่ทุกคนคาดว่าจะอยู่ที่ไม่เกิน 1.4 ล้านบาทในวันที่ 27 ตุลาคมนี้
อย่างไรก็ตาม เอ็มจี ประเทศไทย ได้จัดให้สื่อมวลชนได้ทำการทดสอบรถคันนี้กันอย่างใกล้ชิดแบบไม่เปิดเผยรายละเอียดอะไรมากมาย ให้ไปลุ้นกันอีกครั้งวันเปิดตัว ซึ่งจากการทดสอบเบื้องต้น ก็ต้องถือว่าเราประทับใจกับการตอบสนองของรถมากพอสมควร เมื่อได้ทำการขับขี่
แต่เมื่อได้สัมผัสรถแล้ว แน่นอนว่าต้องมีสิ่งที่เราชอบและไม่ชอบเกี่ยวกับรถคันนี้เกิดขึ้น ซึ่งขอบอกไว้ก่อนว่าเป็นเรื่องของลางเนื้อชอบลางยาว่าไม่ได้ คุณอาจจะชอบในสิ่งที่ผมไม่ชอบก็ได้ เรื่องนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วน ๆ ถ้าไม่เชื่อรออีก 2 อาทิตย์ไปดูคันจริงแล้วค่อยมาคุยกันอีกรอบก็ได้นะ
3 สิ่งที่เราชอบใน MG HG PHEV
1.ระบบไฮบริดรุ่นใหม่สุดแน่นอน
เอ็มจีนั้นทำการคัดเลือกระบบไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุดมาใช้ เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ให้กับรถยนต์ของพวกเขา ทำให้เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้านั้นทำงานร่วมกันได้อย่างเต็มที่ และติดตั้งอินเวิร์ตเตอร์ เพื่อช่วยในการชาร์จไฟฟ้ากลับเข้าแบตเตอรี่เมื่อเบรกหรือชะลอรถลงไป
สิ่งที่ถือว่าเป็นความเหนือชั้นก็คือ แบตเตอรี่ 16.6 กิโลวัตต์ชั่วโมงของเอ็มจีนั้น ถูกแยกออกเป็น 6 โมดูล ซึ่งแยกการทำงานและการบำรุงรักษาออกจากกันโดยเด็ดขาด ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายหากเสียเพียงบางชุด และหากระบบไฮบริดพัง ก็ยังสามารถขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์อย่างเดียวได้อีกด้วย
2.ความละเอียดในการออกแบบภายใน
แม้ห้องโดยสารของเอ็มจี เอชเอส จะถือเป็นหนึ่งในห้องโดยสารที่มีความโอ่อ่า หรูหราและเต็มไปด้วยสีสันด้านการออกแบบอยู่แล้ว เมื่อทำการพัฒนาเวอร์ชั่นไฮบริดออกมา พวกเขาได้ทำการปรับภาพของห้องโดยสารให้อัพขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการเพิ่มอุปกรณ์และระบบต่าง ๆ เข้าไป
ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มทางเลือกเบาะที่นั่งสีขาวล้วนสำหรับรถตัวถังสีขาว การติดตั้งระบบกราฟฟิกแบบใหม่บนหน้าจอกลางและหน้าจอแสดงผลเล็ก เพื่อเพิ่มการแสดงผลของระบบไฮบริด หรือแม้แต่หัวเกียร์แบบใหม่ที่ติดตั้งมานั้น ก็ดูหรูหราพรีเมียมในแบบที่รถยนต์ราคาหลักล้านควรจะเป็น
3.การตอบสนองของโหมดการขับขี่ที่แตกต่าง
แม้ว่าในการทดสอบเบื้องต้น ทางทีมงานจะให้ลองโหมดการขับขี่แบบธรรมดา เพื่อให้เรียนรู้ถึงระบบไฮบริดอย่างเต็มที่ว่า ในการใช้งานจริงนั้น พละกำลังของเครื่องยนต์มีความหลากหลายในการใช้งานมากพอที่จะรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่มีปัญหาอะไรให้ถกเถียง
อย่างไรก็ตาม หากเป็นผู้ขับขี่ฝีเท้าหนัก ที่ต้องการการตอบสนองที่ยอดเยี่ยม ในโหมดสปอร์ตนั้น ตัวมอเตอร์ไฟฟ้าจะตอบสนองไวขึ้นเล็กน้อย และในโหมดซูเปอร์ สปอร์ต เครื่องยนต์จะเริ่มทำงานพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าทันที เรียกกำลังได้อย่างคล่องตัวทันใจวัยรุ่นใจร้อนแน่นอน
3 สิ่งที่ทำให้เราตะหงิด ๆ ในหัวใจ
1.เบาะสีขาวนวลสำหรับรถสีขาว
ไม่ใช่ว่าเบาะสีนี้ไม่สวยนะครับ แต่ลองคิดถึงสภาพของเบาะสีขาวนวลที่นำมาใช้งานจริงในประเทศไทยที่เป็นเมืองร้อนชื้น แน่นอนว่าแม้มันจะดูหรูหราโอ่อ่ากว่าเบาะสีดำ แต่มันก็น่าจะเลอะง่ายกว่าเช่นกัน และดูจากสภาพแล้ว ก็ไม่ได้ทำความสะอาดได้ง่าย ๆ เสียด้วยนะ สำหรับเบาะสีใหม่นี้
2.ลายกราฟฟิกในจอที่ดูไม่พรีเมียม
แม้เราจะชื่นชอบการออกแบบภายในห้องโดยสารที่อัดของเล่นมาเยอะมาก รวมไปถึงหน้าจอแสดงผลแบบใหม่ ที่แสดงผลที่แตกต่าง โดยเฉพาะกราฟฟิกที่เปลี่ยนไปในโหมดการขับขี่ต่าง ๆ นั้น แต่เอาจริง ๆ กราฟฟิกมันก็ดูแบบแปลก ๆ ไม่ได้สวยงามหรือพรีเมียมลงตัวเท่าที่ควรเลย
3.การออกแบบภายนอกที่ดูเหมือนเดิม
ถ้าระบบไฮบริดคือของเล่นใหม่ล่าสุดของรถ หน้าตาของเวอร์ชั่นปลั๊กอินไฮบริดนั้นกลับไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากเวอร์ชั่นธรรมดาแม้แต่น้อย มีเพียงแค่ที่ชาร์จไฟ โลโก้พีเอชอีวีและล้อแมกซ์ลายใหม่เท่านั้น เรียกได้ว่าจอดไว้คู่กันให้ทายว่าคันไหนเบนซินหรือไฮบริดก็ยากที่จะเดาถูก
ลุ้นราคาเพื่อต่อยอดการขายอันยอดเยี่ยม
MG HS นั้นเป็นหนึ่งในสินค้าที่ขายดีที่สุดของค่ายเอ็มจี และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกเขาขึ้นเป็นผู้นำตลาดเอสยูวีในประเทศไทยในช่วงครึ่งปีแรก การเสริมทัพด้วยเวอร์ชั่นไฮบริด และเป็นรถยนต์ที่ทำตลาดในวงกว้าง ที่มาพร้อมระบบปลั๊กอินไฮบริด ถือเป็นจุดขายที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง
แม้จะยังไม่ได้ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่ผู้บริหารของค่ายก็เปรย ๆ ออกมาแล้วว่า รถคันนี้จะเป็นปลั๊กอินไฮบริดที่ลูกค้าสามารถเอื้อมถึงได้อย่างง่ายดาย ทำให้เราพอจะมั่นใจได้ว่า เมื่อเปิดราคาจำหน่ายคันนี้ออกมาในอนาคต ลูกค้าก็จะสนใจที่จะพิจารณารถคันนี้เช่นกัน
เพราะอย่าลืมว่าคู่แข่งตัวสำคัญอย่าง 2020 Mitsubishi Outlander PHEV (มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี) ก็เตรียมที่เปิดตัวตามมาภายใน 1 ไตรมาสแน่ ๆ ก็คงรอแอบส่องราคาอยู่เช่นกัน ซึ่งหากเอชเอส พีเอชอีวี สามารถทำราคาได้น่ารักในช่วงก่อนคู่แข่งเปิดตัว ก็น่าจะโกยยอดขายได้แน่นอน