**บทความนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของเจ้าของ Toyota Corolla Cross Hybrid Premium และไม่จำเป็นต้องสะท้อนถึงมุมมองของ AutoFun
เจ้าของรถ:Taveechart Karawamit
รุ่นรถ Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety รุ่นท๊อป
**บทความนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของเจ้าของ Toyota Corolla Cross Hybrid Premium และไม่จำเป็นต้องสะท้อนถึงมุมมองของ AutoFun
เจ้าของรถ:Taveechart Karawamit
รุ่นรถ Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety รุ่นท๊อป
ราคารถ 1,199,000 บาท
สีรถ Celestite Gray Metallic
หลัก ๆ คือเอามาแทนรถวีโก้รุ่นเก่า รุ่นแรกเลยที่ออกมาน่าจะ 10 กว่าปีละ เลยมาดูรีวิวรถต่าง ๆ แล้วมาสะดุดกับตัวนี้ Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) เพราะอย่างแรกเลยคือ เป็นรถแบบ B-SUV ไม่ใหญ่เท่า Toyota Fortuner เน้นครอบครัว 3-4 คนแบบสบาย ๆ รูปลักษณ์ภายนอก ดูดีในระดับนึง กระจังหน้า ความรู้สึกคงเหมือนหลาย ๆ คนคือ เหมือนน้องหน้าบึ้ง แต่แก้ไขได้ด้วยการใส่กระจังหน้าคิ้วโครเมี่ยม หรือ กระจังหน้าคิ้วโครเมี่ยวรมดำ เสริมไปจะทำให้หน้าน้องดูไม่บึ้งจนเกินไป
โดยรุ่นท๊อป จะมี กล้อง 360 องศา, มูนรูฟ, Adaptive Cruise Control, กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ เพิ่มเข้ามา
ส่วนรูปลักษณ์ภายใน ไม่ต้องคิดอะไรมาก แบบภายในเอาของ Altis มาทั้งดุ้น แต่รุ่นท๊อปจะมีเบาะโดยสารสี Terra Rossa หรือ สีแดง ตัดดำอยู่ข้างในให้เลือกกันด้วย แทนที่จะเป็นสีดำล้วน ๆ อย่างรุ่นอื่น ๆ ซึ่งตรงนี้ก็ถือว่า ออกแบบมาได้ดี เพราะถ้าไม่เห็นของจริง บางคนอาจไม่เลือก เพราะห้องผู้โดยสารสีแดงมันดูแปลก ๆ กว่ารถยี่ห้ออื่น แต่พอมาเห็น มาลองนั่ง มันเปลี่ยนความรู้สึกคนนั่งมาชอบสีแดงได้จริง ๆ
ตั้งแต่ขับมา พวงมาลัยเบา หมุนสบายมือมาก ๆ ช่วงล่างนุ่มและหนึบ เพราะใช้แบบทอร์ชั่นบีม ระบบ safety ต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นรองท๊อป ไม่ว่าจะเป็นระบบความปลอดภัยก่อนการชน ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน LDA หรือ ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน มันช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้เพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย
คันเร่งจะตอบสนองตามโหมดที่เราจะเลือก ถ้าเลือกโหมด eco เวลาเหยียบคันเร่ง เหมือนรถ eco car เลย, ถ้าอยากให้ตอบสนองเพิ่มขึ้น เปลี่ยนเป็นโหมด normal, ส่วนถ้าใครอยากซิ่ง รีบทำเวลา เปลี่ยนเป็น pwr รับรองตอบสนองเท้าดีมาก ๆ
-ประหยัดน้ำมันแน่นอนเพราะมีมอเตอร์ไฟฟ้าไฮบริดมาช่วย ถ้าขับในเมือง ต่ำ ๆ มี 17-25 โล/ลิตร แน่ ๆ ประหยัดสุดๆ
-ห้องโดยสาร ห้องเก็บสัมภาระด้านหลัง ถือว่า กว้างขวาง นั่งแล้วไม่อึดอัด และใส่ของได้เยอะ
-ระบบ safety ต่าง ๆ ทำออกมาดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กล้องมองรอบคัน 360 องศา
-ช่วงล่าง ทอร์ชั่นบีม ขับแล้วสบายจริง ซับแรงกระแทกจากพื้นถนนได้ดีมาก ๆ
-มูนรูฟ สำหรับผม ช่วยในเรื่องโปร่งแสงในห้องโดยสาร ไม่รู้สึกอึดอัด
-ใส่ใจในงานรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น เพิ่มแสงส่องสว่างในที่วางแก้ว และแผงประตู เวลากลางคืน แต่ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ ออกจะจาง ๆ หน่อย แต่ก็ถือว่า ใส่ใจดี
-ขับรถตอนฝนตกหนัก มีปัญหาเรื่องน้ำเข้าห้องเครื่อง แต่ฝ่ายวิศวกรโตโยต้ายืนยันว่า ยังไงก็ไม่โดนถึงเครื่องยนต์แน่นอน ถ้าขับรถตามปรกติ แม้จะลุยฝนตกหนักจะมีกระเด็นมาบ้าง และถ้าใครไม่สบายใจก็ซื้อยางอเนกประสงค์มาติดกันฝนเพิ่มได้
-เสียงเครื่อง + เสียงลมดังเข้าห้องโดยสาร เมื่อใช้ความเร็วเกิน 120 กม.ขึ้นไป
-ระบบ Adaptive Cruise Control ยังไม่ให้ถึงจุดหยุดนิ่ง หรือ Stop and go แบบเดียวกับที่ altis ใช้ ทั้ง ๆ ที่รถก็รุ่นท๊อปแล้ว ราคาก็ 1.2 ล้านน่าจะให้มา เพราะระบบนี้จะช่วยคนขับรถ เวลารถติดในเมืองได้อย่างดีมาก ๆ แต่กั๊กไว้
-ไฟหน้าอัตโนมัติ ที่ติดเร็วเกินไป ด้วยความที่มันเป็นไฟหน้าอัตโนมัติ ดังนั้นเราจึงเปิดปิดเองไม่ได้ เพราะฉะนั้น เวลาโพล้เพล้ 4-5 โมงเย็น ไฟหน้าก็จะติด หรือวิ่งใต้ BTS แม้แต่ตอนกลางวัน ไฟก็ติด และจะเป็นปัญหาจุกจิกบางเวลา ถ้าเราไปจอดรถตอนเย็น ๆ ที่ที่ไฟหน้าไปส่องหน้าคนอื่น ในขณะที่เรายังไม่ดับเครื่อง
-พื้นที่เก็บของในห้องโดยสาร + ช่องเสียบ USB ถือว่าให้มาน้อยมาก ๆ ๆ ๆ
-เบาะหลังพับเก็บ ไม่เรียบสนิทไปกับตัวรถ และช่องสัมภาระ ถ้าออกแบบมาให้พับเก็บราบไปเลย จะดีมาก ๆ
-เบาะคนนั่งข้างคนขับ ยังเป็นปรับแบบ Manual น่าจะเป็นปรับไฟฟ้าเหมือนคนขับ เพราะรถของคู่แข่งเค้าปรับไฟฟ้ากันเกือบทั้งหมดแล้ว
สำหรับผมแล้ว รถคันนี้ตอบโจทย์การใช้งานของผมมาก เพราะเป็นครอบครัวขนาดเล็ก 3-4 คน วิ่งในเมืองเป็นหลัก ขับขี่ไม่ได้ใช้ความเร็วเกิน 120 กม/ชม และประหยัดน้ำมันได้ดีมาก ช่วงล่างแน่นและหนึบ เก็บรายละเอียดบางอย่างได้ดี ห้องโดยสารกว้างใช้ได้ คันเร่งตอบสนองดี โดยรวมแล้ว คุ้มค่ากับการรอคอยมากว่า 2 เดือนกับอีกเกือบ 2 อาทิตย์ครับ
พร้อมจัดการซื้อ-ขายรถได้ภายใน 24 ชั่วโมง
Toyota Corolla Cross 1.8 Sport 2022
แลก
เพิ่มรถของคุณ