เมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz) ลุยตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กอย่างต่อเนื่อง ด้วยการส่ง New 2020 Mercedes-Benz C200 Coupe AMG Dynamic (2020 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี200 คูเป้) ซึ่งมาพร้อมรูปทรงคูเป้สองประตูคันกะทัดรัด โดยเคาะราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่ 3.45 ล้านบาท
รถยนต์ในกลุ่ม Dream Car ของค่ายตราดาว ที่มาพร้อมเอกลักษณ์ของการออกแบบที่โดดเด่น ปราณีต และพิถีพิถันทั้งภายใน-ภายนอก มาพร้อมเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่ให้สมรรถนะในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ที่ได้รับการเลือกสรรมาแล้วว่าเหมาะสมกับรถคันนี้
การตกแต่งชั้นยอดที่เห็นได้ตั้งแต่การมองแวบแรก ห้องโดยสารภายในที่หรูหรา เต็มเปี่ยมไปด้วยอุปกรณ์การใช้งาน รวมไปถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่พร้อมให้ทุกคนจับจองเป็นเจ้าของแล้ววันนี้ที่โชว์รูมเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วประเทศไทย
ราคาจำหน่าย New 2020 Mercedes-Benz C200 Coupe AMG Dynamic
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เปิดราคาจำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี200 คูเป้ เอเอ็มจี ไดนามิก ที่ 3.45 ล้านบาท
รายละเอียดทางเทคนิค New 2020 Mercedes-Benz C200 Coupe AMG Dynamic |
ความกว้างของตัวรถ (มิลลิเมตร) |
1,810 |
ความยาวของตัวรถ (มิลลิเมตร) |
4,696 |
ความสูงของตัวรถ (มิลลิเมตร) |
1,408 |
เครื่องยนต์ |
เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ |
ปริมาตรกระบอกสูบ |
1,991 |
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที) |
204/5,800-6,100 |
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร/รอบต่อนาที) |
300/1,600-4,000 |
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (วินาที) |
7.2 |
ความเร็วสูงสุด (กิโลเมตรต่อชั่วโมง) |
245 |
ระบบส่งกำลัง |
เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ |
ระบบบังคับเลี้ยว |
พาวเวอร์ปรับระดับด้วยไฟฟ้า |
ล้ออัลลอย (นิ้ว) |
19 |
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) |
66 |
การออกแบบภายนอกที่สปอร์ตสะดุดตา
การเป็นรถยนต์คูเป้ 2 ประตู ที่มาพร้อมชุดแต่งเอเอ็มจี ไดนามิกนั้น ภาพลักษณ์ความสปอร์ตของรถจะต้องเด่นชัดที่สุด ความโดดเด่นของรถเริ่มตั้งแต่โคมไฟหน้าแบบมัลติบีม แอลอีดี ที่มาพร้อมระบบปรับโคมไฟหน้าตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ระบบเพิ่มความสว่างขณะเลี้ยว และระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ
ไฟเดย์ไทม์สำหรัลการขับขี่กลางวันแบบแอลอีดี ไฟเบอร์ออพติค ไฟเที่ยวที่กระจกมองข้าง พร้อมด้วยไฟเบรกดวงที่ 3 แบบแอลอีดี หลังคาพาโนรามิก ซันรูฟ เปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า ระบบเปิดปิดฝากระโปรงด้านหลังแบบไม่ต้องใช้มือ และควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า
กระจังหน้าแบบไดมอนต์กริลล์สีเงิน พร้อมโลโก้ตราดาวขนาดใหญ่ ล้ออัลลอยลายเอเอ็มจีแบบ 5 ก้านคู่ขนาด 19 นิ้วตกแต่งด้วยสีดำ มาพร้อมยางรถยนต์แบบรันแฟลต ขณะที่กันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้างดีไซน์สปอร์ตจากเอเอ็มจี บอดี้สไตล์ลิ่ง
ห้องโดยสารภายในหรูหราสะดวกสบาย
การออกแบบห้องโดยสารภายในก็ได้รับอิทธิพลของการเป็นรถสปอร์ต แต่ไม่ทิ้งแนวทางความหรูหราของแบรนด์ เปิดประตูเข้ามาจะพบบเบาะที่นั่งหุ้มหนังแบบสปอร์ต ที่สามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยความจำที่เบาะที่นั่งคู่หน้า กาบบันไดข้างสแตนเลสพร้อมโลโก้แบบเรืองแสง
พวงมาลัยมัลติฟังชั่นส์แบบสปอร์ตท้ายตัด ที่มาพร้อมปุ่มควบคุมระบบต่าง ๆ ภายในตัวรถแบบทัช คอนโทรล โดยสามารถปรับระดับด้วยไฟฟ้าและปรับน้ำหนักอัตโนมัติตามความเร็วรถ กุญแจแบบคีย์เลส-โก พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ตติดตั้งมาพร้อม
ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารปรับได้ 64 เฉดสี ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแบบ 2 โซน มาตรวัดความเร็วและรอบเครื่องยนต์แบบดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว มาพร้อมชุดมัลติมีเดียหน้าจอ 10.25 นิ้ว เครื่องเสียงของ Burmester พร้อมฟังชั่นส์การเชื่อมต่อมากมาย
เครื่องยนต์รุ่นใหม่แรงและสะอาดกว่าเดิม
แม้จะเป็นรหัส 200 เหมือนเดิม แต่ทีมงานตราดาวเลือกปรับเครื่องยนต์ใหม่ ด้วยการใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ แถวเรียง เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ มาติดตั้งในรถคันนี้ โดยเครื่องยนต์ 1,991 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้าที่ 5,800-6,100 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตรที่ 1,600-4,000 รอบต่อนาที
การส่งกำลังเป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ (9G-Tronic) ที่มาพร้อมแพดเดิลชิฟท์ที่พวงมาลัย ส่งรถวิ่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 7.2 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุด 245 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดาสำหรับสมรรถนะจากเครื่องยนต์ไซส์นี้
นอกจากเรื่องของสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมแล้ว เมอร์เซเดส-เบนซ์ระบุว่าเครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้จะสามารถช่วยประหยัดน้ำมันลงได้อีก 6.5% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์รุ่นเดิม และยังเต็มไปด้วยระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งมาเพื่อช่วยเหลือด้านการขับขี่ในรถคันนี้
ระบบและอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยเพียบพร้อม
แม้จะเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็ก แต่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี200 คูเป้ กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยครบครัน ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตำแหน่ง ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง ม่านถุงลมนิรภัย 4 ตำแหน่ง พร้อมถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่าสำหรับผู้ขับขี่ รวมเป็นทั้งหมด 9 จุด
เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดสำหรับผู้โดยสาร 5 ที่นั่ง มาพร้อมโปรแกรมช่วยเหลือการขับขี่ โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ระบบป้องกันล้อล็อค ระบบเบรกแบบแปรผัน พร้อมระบบช่วยออกตัวบนทางชัน ไฟเบรกกระพริบแบบฉุกเฉิน พร้อมด้วยระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ
รถมาพร้อมระบบรักษาความเร็วและระบบจำกัดความเร็ว ระบบเตือนแรงดันลมยาง ระบบเตือนเพื่อช่วยนำรถเข้าศูนย์บริการและระบบเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ กล้องแสดงภาพด้านหลัง และเพิ่มความง่ายดายด้วยระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติและเซนเซอร์ช่วยการนำรถเข้าจอด
รายละเอียดของรถยนต์ที่น่าหลงใหล
หากไปดูในรายละเอียดการออกแบบของรถคันนี้ จะพบว่ามีหลายสิ่งที่น่าสนใจและทำให้รถดูมีคุณค่ามากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น กรอบโคมไฟหน้าแบบแอลอีดีที่มาพร้อมหลอดไฟแอลอีดีมากถึง 84 หลอดที่ปรับความสว่างแยกกันอย่างเป็นอิสระ และหลอดไฟน้าที่ส่องสว่างได้ไกลถึง 650 เมตร
และแม้จะทำรถออกมาสปอร์ตเพียงใด ทีมงานก็ยังไม่ลืมการออกแบบความหรูหราของรถคันนี้ ด้วยการเลือกใช้วัสดุที่สลับกันลงตัวอย่างสวยงาม สมกับค่าตัวระดับ 3.45 ล้านบาทที่ต้องควักกระเป๋าจ่ายเสียจริง