จากข้อมูลล่าสุดพบว่า 2021 Mercedes-Benz C-Class (เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส) ได้มีการเผยโฉมให้เห็น โดยมีรายงานว่าอาจมีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งแบบเบนซิน ดีเซล และ Plug-in Hybrid การออกแบบภายนอกดูมีกลิ่นอายจากรุ่น S-Class หลังจากที่ C-Class ไม่ได้ออกรุ่นใหม่ถึง 7 ปี ก็เป็นไปได้ว่ารุ่นใหม่นี้จะเปิดตัวปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า
สำหรับ 2021 Mercedes-Benz C-Class รุ่นใหม่ที่จะมาถึงนี้ จะมีความสามารถพอที่จะท้าทายคู่แข่งอย่าง BMW 3 Series ในกลุ่มรถยนต์ระดับพรีเมียมได้หรือไม่ก็ต้องรอดูกันต่อไป แต่ก่อนจะไปวิเคราะห์ AutoFun จะพาไปรู้ว่ากว่าจะมาเป็น Mercedes-Benz C-Class รุ่นใหม่นี้มีการเปลี่ยนแปลงยังไงบ้าง
1993 Mercedes-Benz C-Class
Mercedes-Benz C-Class เป็นรถยนต์นั่งระดับหรู ที่เปิดตัวรุ่นแรกในปี 1993 เป็นรุ่นรหัส W202 โฉมนี้มีตัวถังให้เลือกทั้ง 4 ประตูและ 5 ประตู มีระบบเกียร์ให้เลือกคือเกียร์ธรรมดา 5 สปีด 4 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ดีไซน์และอุปกรณ์ตกแต่งมีให้เลือกถึง 4 แบบ คือ CLASSIC, ESPRIT, ELEGANCE และ AVANTGARDE โดยออกแบบให้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากที่สุด
ภายนอกของ Mercedes-Benz C-Class รุ่นแรกนี้ภายนอกมีขนาดใหญ่ เพื่อให้มีพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง อุปกรณ์ต่างๆก็มีให้ตามมาตรฐาน ต่อมาในปี 1997 ก็ได้มีการปรับโฉมเปลี่ยนกันชนหน้าหลัง เช่น ถุงลมนิรภัยสำหรับผู้ขับขี่ การป้องกันการปะทะทางด้านข้าง พวงมาลัยพาวเวอร์ ระบบเบรก (ABS) และระบบเซ็นทรัลล็อก เป็นต้น
2000 Mercedes-Benz C-Class
Mercedes-Benz C-Class รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 2 มีการออกแบบไฟหน้าแบบ four-eye ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นเอกลักษณ์ของรุ่น C-Class โฉมนี้เป็นรุ่น W203 ที่มีให้เลือกทั้งระบบเกียร์ 5 สปีดธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด Mercedes-Benz C-Class เจนเนอร์เรชั่นนี้ดีไซน์ปราดเปรียวคล่องแคล่วในสไตล์รถสปอร์ตคาร์ อุปกรณ์มาตรฐานก็เต็มไปด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีมากมาย ช่วงล่างด้านหน้าแบบ 3-ลิงค์รุ่นใหม่พร้อมแม็กเฟอร์สันสตรัทที่ช่วยให้การขับขี่มั่นใจยิ่งขึ้น มีหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิกที่เสริมความหรูหรา ต่อมาในปี 2004 ก็มีการปรับโฉมสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่ง Mercedes-Benz C-Class ในรุ่นนี้ถือเป็นรถที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก สามารถทำยอดขายได้กว่า 2 ล้านคัน
2007 Mercedes-Benz C-Class
Mercedes-Benz C-Class ในรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกของค่ายที่ติดอันดับรถยนต์ขายดีในอังกฤษเมื่อปี 2012 โฉมของ Mercedes-Benz C-Class รุ่นนี้มีให้เลือกทั้งแบบ 2 ประตู 4 ประตู และ 5 ประตู เป็นรุ่นรหัส W204 มีระบบเกียร์ ได้แก่เกียร์ธรรมดา 6 สปีด 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด
2014 Mercedes-Benz C-Class
โฉมนี้เป็นรุ่นปัจจุบัน รุ่นรหัส 205 ที่มีความโดดเด่นและสมรรถนะเทียบเท่ากับรถในตระกูล S-Class โดย Mercedes-Benz C-Class รุ่นนี้มีให้เลือกทั้งรุ่น Sport Sedan และรุ่น Coupe การออกแบบภายในก็กว้างขวางสะดวกสบาย ด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยก็จัดเต็ม อีกทั้งยังมีผู้ช่วยขับขี่แบบกึ่งอัตโนมัติ ที่ทำให้ผู้ขับขี่มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยมีให้เลือก 5 รุ่นย่อย ได้แก่ C 220 d Avatgarde ราคา 2.479 ล้านบาท C 300 e Avantgared ราคา 2.599 ล้านบาท C 220 d AMG Dynamic ราคา 2.990 ล้านบาท C 300 e AMG Dynamic ราคา 2.990 ล้านบาท และ C 200 Coupe AMG Dynamic ราคา 3.450 ล้านบาท
การออกแบบภายนอก Mercedes-Benz C-Class
Mercedes-Benz C-Class รุ่นนี้มีการปรับโฉมใหม่ ดีไซน์สปอร์ตทันสมัยมากขึ้น ผสานกับเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ทำให้การขับขี่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีความโดดเด่น ในรุ่น C 220 d Avantgarde ใช้กระจังหน้าสีเงินเสริมโครเมี่ยม พร้อมสัญลักษณ์เบนซ์ ด้านล่างเป็นล้ออัลลอยแบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว ในรุ่น C 220 d Exclusive กระจังหน้าเป็นแบบคลาสสิค พร้อมสัญลักษณ์เบนซ์เหนือฝากระโปรงหน้า ด้านล่างเป็นล้ออัลลอย multi-spoke ขนาด 18 นิ้ว ส่วนรุ่น C 220 d AMG Dynamic กระจังหน้าเป็น diamond grille สีเงิน พร้อมสัญลักษณ์เบนซ์ ด้านล่างเป็นล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว กันชนหน้าหลังและสเกิร์ตดีไซน์สปอร์ต AMG Bodystyling
ไฟหน้าในรุ่น C 220 d Avantgarde ใช้ไฟหน้าแบบ LED High Performance ส่วนรุ่น C 220 d Exclusive, C 220 d AMG Dynamic และรุ่น C 200 Coupe ใช้เทคโนโลยีไฟหน้า MULTIBEAM LED ที่มาพร้อมระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeam ที่สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถปรับความเข้มแสงให้สอดคล้องกับสภาพการจราจรได้ นอกจากนี้ในรุ่น C 220 d AMG Dynamic และรุ่น C 200 Coupe ยังมีหลังคาพาโนรามิกซันรูฟเลื่อนเปิดปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้าที่ทำให้รถดูหรูยิ่งขึ้นกว่าเดิม
มิติตัวรถ Mercedes-Benz C-Class
Mercedes-Benz C-Class |
ความกว้าง (มม.) |
1,810 |
ความยาว (มม.) |
4,686-4,702 |
ความสูง (มม.) |
1,408-1,442 |
ระยะฐานล้อ (มม.) |
2,840 |
ความสูงใต้ท้องรถ (มม.) |
118 |
การออกแบบภายใน Mercedes-Benz C-Class
ห้องโดยสารภายในออกแบบให้มีความหรูหราสไตล์สปอร์ต ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีความสวยหรูต่างกันไป C 220 d Avantgarde และ The C 220 d Exclusive ใช้เบาะหนัง ARTICO และ The C 220 d AMG Dynamic ใช้เบาะหนังแบบสปอร์ต เบาะด้านหลังของทุกรุ่นยังสามารถพับลงได้แบบ 1:3 และ 2:3 ในรุ่น C 220 d Avantgarde ติดตั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control ขณะที่รุ่น C 220 d Exclusive และ The C 220 d AMG Dynamic ใช้พวงมาลัยที่มาพร้อมระบบพาวเวอร์ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าและปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ นอกจากนี้ C 220 d AMG Dynamic ยังเพิ่มพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันที่ตกแต่งแบบสปอร์ตท้ายตัด พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control ที่ช่วยให้การขับขี่ง่ายขึ้น
ด้านเทคโนโลยี Mercedes-Benz C-Class ได้นำเทคโนโลยีจากรุ่น S-Class มาใช้ มีหน้าจอมัลติมีเดียบริเวณกลางคอนโซลแบบ MB Audio 20 ขนาด 10.25 นิ้ว ที่ช่วยให้การควบคุมระบบในรถยนต์ง่ายขึ้นเพียงปลายนิ้วสัมผัสด้วยระบบ Touch pad รองรับ Apple CarPlay ส่วนหน้าจอดิจิทัลของ C 200 d AMG Dynamic มีขนาด 12.3 นิ้วมาพร้อมระบบ All-Digital instrument display สามารถแสดงผลได้ 3 รูปแบบ คือ Classic, Progressive และ Sport นอกจากนี้ยังมีระบบปรับอากาศที่ติดตั้งฟังก์ชั่นปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร (AIR BALANCE package) ที่ช่วยฟอกอากาศพร้อมปรับอากาศให้มีกลิ่นหอมด้วยน้ำหอมชนิดเดียวกับรุ่น S-Class ทำให้การเดินทางสบายยิ่งขึ้น
ขุมพลัง Mercedes-Benz C-Class
Mercedes-Benz C-Class มีทั้งขุมพลังดีเซลและเบนซินให้เลือก โดยเครื่องยนต์ดีเซลเป็นแบบแถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 194 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
ในรุ่น Coupe ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ แถวเรียง เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 5,800-6,100 รอบ/นาที แรงบิด 280 นิวตันเมตร ที่ 3,000-4,000 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 7.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 239 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
Mercedes-Benz C-Class |
กำลังสูงสุด (แรงม้า) |
194 |
184 |
แรงบิดนสูงสุด (นิวตันเมตร) |
400 |
280 |
อัตราเร่ง (วินาที) |
6.9 |
7.9 |
ความเร็วสูงสุด (กม./ชม.) |
240 |
239 |
เกียร์ |
อัตโนมัติ 9 สปีด |
อัตโนมัติ 9 สปีด |
ด้านระบบความปลอดภัยก็มาพร้อมผู้ช่วยขับขี่ไม่ว่าจะเป็นระบบการทรงตัวอัตโนมัติ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-Start Assist ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (ABA) ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) ระบบเตือนแรงดันลมยาง ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ เซ็นเซอร์ช่วยเข้าจอด ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดแบบอัตโนมัติ
2021 Mercedes-Benz C-Class
ล่าสุด Mercedes-Benz ได้เตรียมเปิดตัว 2021 Mercedes-Benz C-Class ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะเปิดตัว หลังจากมีภาพหลุดออกมาคาดว่าเป็น Mercedes-Benz C-Class ในรุ่นรหัส W206 กระจังหน้าจะเห็นได้ว่ามีดาวขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง มีคิ้วโครเมี่ยมคาดกลางชั้นเดียว ไฟหน้าดูเรียบง่าย กระจกมองข้างมีการออกแบบใหม่ ส่วนเส้นสายตัวถังและกระจกหน้าต่างหลัง ดูลาดชันกว่ารุ่นก่อน ส่วนห้องโดยสารยังไม่มีข้อมูลออกมา แต่คาดว่าน่าจะได้รับอิทธิพลจาก S-Class ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัย มาตรวัดแสดงข้อมูล หน้าจอสัมผัสที่บริเวณคอนโซล การจัดวางอุปกรณ์ควบคุมระบบต่างๆภายในรถ
ด้านขุมพลังหลายสื่อก็คาดเดาว่า 2021 Mercedes-Benz C-Class มีแนวโน้มให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน ดีเซล และ Plug-in Hybrid แบบ 4 สูบ ส่วนในรุ่น AMG อาจเปลี่ยนไปใช้ขุมพลัง 4 สูบ เทอร์โบ 2.0 ลิตร แบบเดียวกับ AMG A45 ที่เสริมระบบไฟฟ้า แต่ทั้งนี้ท้งนั้นนี่เป็นเพียงข้อมูลที่คาดเดาเท่านั้น ซึ่งก็ต้องรอลุ้นกันต่อไปว่าจะ 2021 Mercedes-Benz C-Class จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร
2021 Mercedes-Benz C-Class จะท้าทายคู่แข่ง BMW 3 Series ได้ไหม?
แม้ว่าตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมของ 2021 Mercedes-Benz C-Class แต่ก็มีความเป็นไปได้มากที่ C-Class จะเปิดตัวปีนี้หรือต้นปีหน้า เพราะเมื่อย้อนดูแล้วจะพบว่า C-Class จะมีการเปิดตัวใหม่ทุกๆ 7 ปี ซึ่งจากรุ่นล่าสุดที่วางจำหน่าย 2014 มาถึงปี 2021 ก็ครบ 7 ปีพอดี อย่างไรก็ตาม BMW 3 Series ก็คาดว่าจะปรับโฉมใหม่ในช่วงปี 2021 ก็คงต้องรอดูกันต่อว่าค่ายไหนจะทำออกมาตอบโจทย์ผู้ขับขี่ได้มากที่สุด