Honda (ฮอนด้า) ประกาศว่าพวกเขาสามารถยืนหยัดรักษาความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในประเทศไทย ประจำปี 2563 เอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ด้วยยอดจำหน่ายสะสมรวม 93,041 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 27.5%
นอกจากนี้ พวกเขายังครองอันดับ 1 ใน 4 เซกเมนต์หลัก ได้แก่ กลุ่มซับคอมแพคท์และอีโค ซับคอมแพคท์ กลุ่มคอมแพคท์ กลุ่มซีดานขนาดกลาง และกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ซึ่งทำยอดขายเหนือกว่าคู่แข่งแบบเหนือชั้นในบางเซกเมนต์
พิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าแม้ผลกระทบจากโควิด-19 จะทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อ แต่ฮอดนด้ายังได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้า ทำให้มีการเติบโตที่ดีกว่าภาพรวมของตลาด
"เราสามารถครองอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รวมกับตลาดรถยนต์เอนกประสงค์ ด้วยสัดส่วนถึง 27.5% ซึ่งมากกว่าสัดส่วนทางการตลาดของฮอนด้าในปี 2562 และฮอนด้าได้เปิดตัว Honda City Hatchback (ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก) และ Honda City e:HEV (ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี) ก็ได้รับการตอบรับที่ดี"
ทั้งนี้ ฮอนด้าระบุว่ายอดจองรถยนต์ที่เปิดตัวใหม่ทั้ง 2 รุ่นนั้น สูงถึงกว่า 5,000 คัน ในระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือนครึ่งนับจากการเปิดตัว โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ จะขยายฐานตลาดของกลุ่มผู้บริโภคให้กว้างขึ้น ที่จะมามาพร้อมกับความคุ้มค่าที่เกินรถในเซกเมนต์นี้
ยึดอันดับหนึ่งเหนียวแน่นใน 4 เซกเมนต์หลัก
ไม่ได้แค่ทำยอดจำหน่ายยอดเยี่ยม แต่หากไล่ลงไปในแต่ละผลิตภัณฑ์แล้ว ฮอนด้าถือว่าทำตลาดได้อย่างเหนือชั้น โดยในกลุ่มรถยนต์ซับคอมแพคท์และอีโค ซับคอมแพคท์ มียอดจำหน่ายสะสมรวม 51,375 คัน คิดเป็น 31.1% ครองอันดับหนึ่งแบบรวดเดียวจบ
Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ด้วยยอดจำหน่ายสะสม 35,807 คัน ขณะที่ Honda Jazz (ฮอนด้า แจ๊ซ) ยังคงเป็นแฮทช์แบ็กที่ได้รับความนิยม ด้วยยอดจำหน่ายสะสม 15,568 คัน แม้จะมีการทำตลาดมาอย่างต่อเนื่องหลายปีแล้วก็ตาม
กลุ่มรถยนต์คอมแพคท์ มียอดจำหน่ายสะสม 20,009 คัน คิดเป็น 62.1% โดย Honda Civic (ฮอนด้า ซีวิค) ครองความเป็นผู้นำ ด้วยยอดจำหน่ายสะสม 18,249 คัน และ Honda Civic Hatchback (ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก) มียอดจำหน่ายสะสม 1,760 คัน
กลุ่มรถยนต์ซีดานขนาดกลาง ที่นำทีมโดย Honda Accord (ฮอนด้า แอคคอร์ด) และ Honda Accord Hybrid (ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด) ยอดจำหน่ายสะสม 5,265 คัน คิดเป็น 49.7% และกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์-วี) มียอดจำหน่ายสะสม 5,374 คัน คิดเป็น 51.2%
“ฮอนด้า ต้องขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์และการบริการของฮอนด้ามาอย่างต่อเนื่อง และเราจะมุ่งมั่นสร้างสรรค์และพัฒนายนตรกรรมล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีการขับเคลื่อนและความปลอดภัยแห่งอนาคตที่พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าสูงสุด”
ลุ้น HR-V แและ CIVIC ใหม่เปิดตัวในปี 2564
แม้จะมียอดจำหน่ายที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่ในหลาย ๆ เซกเมนต์ฮอนด้าก็มียอดจำหน่ายที่ตามคู่แข่งอยู่มากพอสมควร ด้วยอายุของสินค้าที่ใกล้จะเปิดตัวรุ่นใหม่เข้ามาเต็มที่ แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึงตลาดครอสโอเวอร์อย่าง Honda HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์-วี) นั่นเอง
และหากไม่มีอะไรผิดพลาด ในปีนี้ลูกค้าชาวไทยก็จะได้สัมผัสกับเจ้ารถรุ่นใหม่คันนี้แบบเป็น ๆ เพราะการเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นน่าจะไม่เกินเดือนเมษายนนี้ จากนั้นคิวของประเทศไทยก็น่าจะเป็นช่วงกลาง ๆ ครึ่งปีหลัง เพื่อเปิดทางให้กับรถใหม่อีกหนึ่งรุ่นของปีนี้
นั่นก็ได้แก่เจ้า Honda Civic (ฮอนด้า ซีวิค) ที่มีการเผยโฉมรุ่นโปรโตไทป์ไปก่อนหน้านี้ และมีแผนที่จะเปิดตัวในฐานะรถยนต์ที่ทำตลาดทั่วโลกกันในช่วงกลางปีนี้ และแน่นอนว่าเมื่อเป็นสินค้าที่ขายดีไม่ยอมหยุดหย่อนเสียที ฮอนด้าก็น่าจะอยากเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษายอดขายไว้ให้ได้
ไม่ใช่เพียงแค่ 2 โมเดลนี้เท่านั้น แต่รถที่ต้องจับตาดูว่าจะยกเลิกการทำตลาดหรือไม่อย่าง Honda Jazz (ฮอนด้า แจ๊ซ) Honda Brio (ฮอนด้า บริโอ้) และ Honda Brio Amaze (ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ) ก็น่าจะมีความชัดเจนถึงแผนงานที่จะเกิดขึ้นกับแต่ละโมเดลกันในปี 2564 นี้ล่ะ
ขณะที่กลุ่มมินิ เอ็มพีวี 7 ที่นั่ง ที่เคยทำตลาดทั้ง Honda Mobilio (ฮอนด้า โมบิลิโอ) และ Honda BR-V (ฮอนด้า บีอาร์-วี) ก็ยื้อในการทำตลาดมานานพอสมควร แต่ก็ยังไม่มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวใดใดออกมาในตลาดหลักอย่างอินโดนีเซีย ทำให้ทุกคนก็ต้องรอคอบกันต่อไป