Honda (ฮอนด้า) ประเทศไทย ประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2564 ว่าสามารถครองอันดับ 1 ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลได้

ซึ่งหลายรุ่นทำยอดขายได้อย่างน่าพอใจ แม้ว่าบางรุ่นจะเริ่มอายุเยอะแล้ว แต่ก็ยังพอขายอยู่ได้บ้าง

ขายได้เกือบ 90,000 คัน

Honda มียอดสะสมรวมในปี 2564 ถึง 88,692 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 27.9% และครองอันดับ 1 ต่อเนื่องอีกปี

อีกทั้งเป็นผู้นำใน 4 เซกเมนต์หลัก พร้อมให้บริการลูกค้าด้วยโชว์รูมและศูนย์บริการ 229 แห่งทั่วประเทศ

โดยฮอนด้าสามารถครองอันดับ 1 ใน 4 เซกเมนต์หลัก ได้แก่

1. กลุ่มรถยนต์ B และ B-Eco Sedan ยอดจำหน่ายสะสม 23,490 คัน คิดเป็น 28.2%

• Honda City Turbo ยอดจำหน่ายสะสม 21,221 คัน
• Honda City e:HEV ยอดจำหน่ายสะสม 2,269 คัน

2. กลุ่มรถยนต์ B และ B-Eco Sedan และ Hatchback ยอดจำหน่ายสะสม 47,962 คัน คิดเป็น 29.8%

• Honda City ยอดจำหน่ายสะสม 47,962 คัน

3. กลุ่มรถยนต์ C-segment ยอดจำหน่ายสะสม 16,092 คัน คิดเป็น 65.9% 

• Honda Civic ยอดจำหน่ายสะสม 14,755 คัน
• Honda Civic Hatchback ยอดจำหน่ายสะสม 1,337 คัน

4. กลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ SUV ยอดจำหน่ายสะสม 4,938 คัน คิดเป็น 45.7% 

• Honda CR-V ยอดจำหน่ายสะสม 4,938 คัน

Honda Civic Hatchback ยังขายได้

แม้ว่าในไลน์อัพการขายปัจจุบัน Honda Civic Hatchback (ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ค) จะมีอายุค่อนข้างมาก เนื่องจากเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2017 แล้ว 

รวมถึงมีข่าวน่าเศร้าว่าเจน 11 ที่เปิดตัวไปทั่วโลกแล้วจะไม่มีการมาขายไทยแต่อย่างใด

รวมทั้งในปัจจุบัน เริ่มมีการออกแคมเปญดอกเบี้ย 0% ประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี 1 ปี ซึ่งอาจจะเป็นการเริ่มระบายของออกก็เป็นได้

ซึ่งก็ต้องคอยดูต่อไปว่า จะเป็นการเลิกขายจริงหรือไม่ เพราะเชื่อว่าชาวไทยบางส่วนชอบในการออกแบบมากกว่า รวมถึงความกว้างขวางช่วงท้าย เพื่อใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่

อ่านเพิ่มเติม รถใหม่ 3 รุ่นดัง อาจจะเลิกขายในปี 2022 เผยรายชื่อ พร้อมสาเหตุ