แม้จะปิดสายการผลิตและยุติการทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงกลางปีที่ผ่านมา แต่ Chevrolet (เชฟโรเลต) ได้ออกมาประกาศความคืบหน้าในการดูแลลูกค้าในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าของพวกเขาจะมีสถานที่ดูแลรถยนต์คันโปรดต่อไปในอนาคต
โดยแถลงการณ์ล่าสุดของเชฟโรเลตระบุว่า พวกเขาเตรียมปรับศูนย์ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศเป็นศูนย์บริการมาตรฐาน เพื่อทำหน้าที่ในการดูแลและให้บริการหลังการขายให้กับลูกค้าในประเทศไทยต่อไป โดยจะเริ่มโครงการนี้กันในช่วงปี 2564 ตามแผนงานที่วางเอาไว้อย่างต่อเนื่องในประเทศ
ทั้งนี้ การปรับตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศเป็นศูนย์บริการมาตรฐานนั้น เชฟโรเลตไม่ได้ระบุว่ามีจำนวนตัวแทนจำหน่ายเข้าร่วมโครงการนี้ทั้งหมดหรือไม่ แต่เป็นไปตามนโยบายการดูแลลูกค้าในด้านการให้บริการหลังการขายอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ตามที่บริษัทได้ระบุไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม
เปลี่ยนตัวแทนจำหน่ายเป็นศูนย์บริการ
เฮกเตอร์ บีจาเรียล ประธานกรรมการ จีเอ็ม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่าผู้จัดจำหน่ายในปัจจุบันทั้งหมดจะปรับเปลี่ยนเป็นศูนย์บริการมาตรฐานที่ได้รับการแต่งตั้งจากเชฟโรเลต ครอบคลุมพื้นที่ทั่วไทยสามารถดูแลลูกค้าอย่างทั่วถึง ทั้งการซ่อมบำรุงและการรับประกันรถยนต์ด้วยอะไหล่แท้ของจีเอ็มและเอซีเดลโก้
เขาระบุว่า นี่เป็นก้าวสำคัญของคำมั่นที่จะดูแลลูกค้าคนสำคัญของจีเอ็มต่อไป แม้จะยุติการจำหน่ายรถยนต์ในสิ้นปีนี้ โดยผู้จัดจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลตในปัจจุบันทั้งหมด จะปรับเปลี่ยนเป็นศูนย์บริการมาตรฐานที่ได้รับการแต่งตั้งจากเชฟโรเลตในสิ้นปีนี้ และยังคงมอบการบริการเต็มรูปแบบ
ในส่วนของรายละเอียดการให้บริการนั้น ศูนย์บริการเชฟโรเลตจะยังคงให้บริการซ่อมบำรุง บริการอะไหล่แท้ การรับประกันคุณภาพ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินจากศูนย์บริการมาตรฐานที่ได้รับการแต่งตั้งที่อยู่ในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ให้ลูกค้าสามารถอุ่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงเช่นเดิม
เดินหน้าการให้บริการเต็มรูปแบบ
ในรายละเอียดของการให้บริการนั้น เชฟโรเลตจะยังคงให้บริการหลังการขายและศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ เพื่อคอยดูแลและให้บริการต่าง ๆ แก่ลูกค้าเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นการรับประกัน 3 ปี หรือ 1 แสนกิโลเมตร หรืออย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน ครอบคลุมค่าแรงช่างซ่อม อะไหล่แท้มาตรฐานเชฟโรเลต และการรับประกันคุณภาพรถยนต์
นอกจากนี้ ก็จะมีบริการตรวจและซ่อมบำรุงโดยช่างเทคนิคผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรองจากเชฟโรเลต บริการจัดหาอะไหล่แท้มาตรฐานและสินค้าที่ได้รับการรับประกันคุณภาพ เช่น น้ำมันหล่อลื่นประสิทธิภาพสูงของจีเอ็มและผลิตภัณฑ์คุณภาพของเอซีเดลโก้ เพื่อความสบายใจในการใช้งานรถของผู้บริโภค
รวมไปถึง บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง โดยช่างผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการตรวจเช็คและให้คำปรึกษาทุกปัญหาเรื่องรถ โดยลูกค้าสามารถติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์เชฟโรเลต โทร 1734 ให้บริการในวันจันทร์ - วันเสาร์ ระหว่างเวลา 09:00 – 18:00 น. ได้ตลอดเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ย้อนอดีตเชฟโรเลต ประเทศไทย
ก่อนหน้าที่จะเดินทางมาถึงปลายทางในปี 2563 จุดเริ่มต้นของจีเอ็ม ประเทศไทยและเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย เริ่มต้นก่อนหน้านั้นนาน 20 ปี เมื่อพวกเขาเริ่มต้นดำเนินธุรกิจอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในปี 2543 ด้วยการทุ่มเงินลงทุนกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท ก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ในอำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง
ด้วยยอดจำหน่ายที่เติบโตขึ้น โดยเฉพาะการเปิดตัวรถปิกอัพอย่าง Chevrolet Colorado ทำให้มีการต่อยอดออกไปเป็นโรงงานผลิตเครื่องยนต์ ส่งเสริมให้เครือข่ายการผลิตในประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคนี้ มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการผลิตทั้งรถยนต์และเครื่องยนต์จำหน่ายในประเทศและส่งออกไปทั่วโลก
จีเอ็ม ประเทศไทย มาสู่ยุครุ่งเรืองสูงสุดในปี 2555 ด้วยตัวเลขมหาศาลเป็นประวัติการณ์ถึง 75,461 คัน เพิ่มขึ้นเกินกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าซึ่งทำได้ 31,595 คัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากที่บริษัทแม่ที่สหรัฐอเมริกาประสบปัญหาอย่างหนัก และนั่นคือจุดสูงสุดของค่ายรถอเมริกันแบรนด์นี้ในประเทศไทย
ยอดขายของเชฟโรเลตในประเทศไทยลดลงเหลือระดับประมาณ 1.5 หมื่นคันในปี 2562 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการยกเลิกการทำตลาดรถหลายรุ่นโดยไม่มีสินค้ามาทดแทน อีกส่วนเป็นเพราะปัญหาด้านคุณภาพของรถและคุณภาพของงานบริการหลังการขาย ที่มีการฟ้องร้องกันหลายครั้งหลายประเด็นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
การประกาศยุติการทำตลาดในประเทศไทยในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมประกาศขายโรงงานให้กับ Great Wall Motor คือฟางเส้นสุดท้ายของจีเอ็มในประเทศไทย ซึ่งต้องมาดูว่าพวกเขาจะสามารถรักษาคำมั่นสัญญาในการดูแลลูกค้าต่อไปอย่างยั่งยืนและยาวนานได้หรือไม่ในอนาคต