สเปคคร่าว ๆ ของ BYD e6
BYD e6 ถูกใช้เป็นแท็กซี่ทั่วโลก
แท็กซี่จีนจะมีประตูเปิดอัตโนมัติแบบญี่ปุ่นได้อย่างไร
ระยะทางที่วิ่งได้เพียงพอกับการเป็นแท็กซี่
มีการทดสอบแล้วว่าเป็นแท็กซี่ที่ดี
อนาคตจะมีแท็กซี่จีนวิ่งบนถนนญี่ปุ่นมากขึ้นแน่
ค่ายรถจากจีนหลายค่ายได้รุกตลาดญี่ปุ่นเข้ามาเรื่อย ๆ ตั้งแต่รถนั่งธรรมดา จนถึงรถเพื่อการพาณิชย์ ครั้งนี้เป็นคราวที่ BYD (บีวายดี) ค่ายรถที่ได้รับความนิยมมากในจีนและตลาดโลก ได้เข้ามารุกตลาดญี่ปุ่น
โดยการนำ BYD e6 เข้ามาจำหน่ายในรูปแบบของรถเพื่อการพาณิชย์ และใช้เป็นแท็กซี่ในแดนอาทิตย์อุทัย ซึ่งจะมีอะไรที่ต่างจาก e6 ที่จำหน่ายในเมืองไทย หรือไม่
BYD e6 เจเนอเรชั่นที่ 2
บริษัทแท็กซี่จากเมืองเกียวโตอย่าง Miyako Taxi ได้นำ BYD e6 เข้ามาเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้วเคยนำอีวีทรงมินิแวนอย่าง BYD M3e มาทำเป็นแท็กซี่มาก่อนแล้ว ซึ่งอาจยังไม่ตอบโจทย์ในการเป็นแท็กซี่ในบางจุด
BYD คือ
BYD คือผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน ที่มีชื่อเสียงเทคโนโลยีของรถยนต์ไฟฟ้า เช่น แบตเตอรี่ รถบัสไฟฟ้า รวมถึงอีวีแท็กซี่ที่จะถูกนำมาใช้ในหลายประเทศในโลก (รวมถึงไทยด้วย)
ผู้ผลิตรถจากจีนรายนี้เกิดขึ้นที่เมืองเซินเจิ้นในปี 1995 ด้วยการเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ และเติบโตขึ้นเป็นบริษัทเอกชนชั้นนำของจีนในฐานะผู้ผลิตแบตเตอรี่สำหรับเก็บพลังงาน เซมิคอนดักเตอร์ และรถยนต์ไฟฟ้า
BYD ได้ตั้งแผนกย่อยอย่าง BYD Auto สำหรับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์โดยเฉพาะในปี 2003 โดยซื้อกิจการจากผู้ผลิตรถขนาดเล็ก ซึ่งตั้งอยู่ที่มณฑลส่านซี แม้บีวายดีจะมีประวัติไม่ถึง 20 ปีในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ แต่ก็มียอดขายที่เติบโตอย่างมากโดยเฉพาะในตลาดจีนที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ทำให้ BYD มีมูลค่าในตลาดเป็นอันดับ 3 ของโลก ในปี 2021
BYD ในญี่ปุ่น
ส่วนในญี่ปุ่นตั้งแต่กุมภาพันธ์ปี 2015 มีการนำรถจีนเข้ามาครั้งแรกโดยบริษัท PrincessLine คือรถบัสไฟฟ้ารุ่น K9 โดยเข้ามาเดินรถบริเวณเมืองในเกียวโต และเริ่มพัฒนาธุรกิจด้วยอีวีอย่างเต็มระบบตั้งแต่ตอนนั้น
ในปีเดียวกัน BYD ก็ได้เปิดตัวรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่แบบ LFP เป็นครั้งแรกของโลก และเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้ให้บริการรถประจำทางในญี่ปุ่นตัดสินใจที่จะใช้บัสไฟฟ้าจาก BYD และในเดือนเมษายน 2022 นี้ จะมีการนำรถบัสกว่า 60 คันเข้ามาและส่งมอบต่อผู้ให้บริการทั้ง 24 ราย
BYD e6 ที่เตรียมวิ่งจริงในญี่ปุ่น
สเปคของ BYD e6
BYD e6 ถูกเปิดตัวในญี่ปุ่นเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาและจะนำไปจำหน่ายเพื่อเป็นแท็กซี่ไฟฟ้าในเมืองต่าง ๆ
e6 ใช้พื้นฐานแพลทฟอร์มมาจาก BYD Song MAX ที่จำหน่ายในจีนตั้งแต่ปี 2017 และถูกขยายฐานล้อให้ยาวขึ้นอีก 15 มม. เพื่อรองรับอุปกรณ์ได้ง่ายขึ้น กลายเป็นอีวีครอสโอเวอร์ที่มีขนาดตัวถังยาว 4,695 มม. กว้าง 1,810 มม. สูง 1,670 มม. และระยะฐานล้อ 2,800 มม.
แม้จะเป็นรถเพื่อการพาณิชย์ซึ่งมีอุปกรณ์ไม่มากมายนัก แต่ก็ให้ความรู้สึกที่หรูหรา ตั้งแต่ล้ออลูมิเนียมขนาด 17 นิ้วเป็นมาตรฐาน สอดคล้องกับดีไซน์ด้านนอกได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม e6 รุ่นนี้เป็นเจเนอเรชั่นที่สองแล้ว โดยในเจเนอเรชั่นแรกเปิดตัวในปี 2009
BYD e6 ถูกใช้เป็นแท็กซี่ทั่วโลก
ตั้งแต่การเปิดตัว BYD e6 เจเนอเรชั่นแรกก็ได้ถูกนำมาใช้เป็นอีวีแท็กซี่ในเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก ตั้งแต่ ฮ่องกง มาเก๊า และสิงคโปร์ รวมถึงเมืองต้นกำเนิดแบรนด์อย่างเซินเจิ้นด้วย (และเห็นในไทยอยู่บ้าง)
e6 เจเนอเรชั่นที่สองก็เช่นเดียวกัน โดยพัฒนาในเรื่องของระยะทางการขับขี่ที่มากขึ้นเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานแบบแท็กซี่
อ่านเพิ่มเติม : 2021 BYD e6 เปิดตัวโฉมโมเดลเชนจ์ สเปคดีกว่าเดิม ขายไทย 1.39 ล้านบาท
ปุ่มเปิดประตูอัตโนมัติที่ติดตั้งพิเศษ
รถแท็กซี่จีนจะมีประตูเปิดอัตโนมัติแบบญี่ปุ่นได้อย่างไร
ในญี่ปุ่น BYD e6 เจเนอเรชั่นที่สองได้รับทะเบียนเพื่ออนุญาตให้ขับขี่บนถนนสาธารณะได้แล้วในเดือนเมษายนนี้
เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของแท็กซี่ญี่ปุ่นนั่นคือประตูอัตโนมัติ แต่รถจากจีนนั้นไม่ได้มีให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน จึงได้มีการสั่งทำ ประตูดังกล่าวให้แก่แท็กซี่ที่มาจากจีนทุกคันที่เข้ามา
รถแท็กซี่หลายคันในญี่ปุ่น ประตูอัตโนมัติที่คนขับเปิดให้นั้นจะเป็นแบบกลไก แต่สำหรับ e6 แล้ว การทำกลไกดังกล่าวอาจจะยากเกินไป ดังนั้นจึงออกแบบให้เป็นประตูไฟฟ้าอัตโนมัติแทน
ผลที่ออกมาจึงเป็นประตูที่สามารถเปิดและปิดได้ด้วยปุ่มเพียงปุ่มเดียว ต่อจากนี้จะเป็นการติดตั้งองค์ประกอบต่าง ๆ ภายนอก (เช่นป้าย “ว่าง” ฯลฯ) และการติดตั้งมิเตอร์ ซึ่งขาดไม่ได้สำหรับธุรกิจแท็กซี่
แม้จะดูว่าเป็นเรื่องยุ่งยากในการติดตั้งประตูอัตโนมัติที่สั่งทำพิเศษที่มีเฉพาะในญี่ปุ่น แต่ BYD มีชื่อเสียงในการรับฟีดแบ็ค ที่มีความรวดเร็วและสุภาพจากผู้ประกอบการต่าง ๆ ในด้านของผลิตภัณฑ์ และปรับปรุงให้ดีขึ้น หากมีความไม่พึงพอใจในการใช้งานจริงคาดว่าจะได้รับการแก้ไขโดยเร็ว
วิ่งได้ถึง 522 กม. เพียงพอกับการเป็นแท็กซี่
BYD e6 สามารถมีระยะทางขับขี่ได้ไกลที่สุดที่ 522 กม. ในมาตรฐาน WLTC มีพื้นที่เก็บสัมภาระอยู่ที่ 580 ลิตร สามารถรับผู้โดยสารรวมคนขับได้ที่ 5 คน ซึ่งในความเป็นจริงระยะทางที่วิ่งได้จะเหลือราว ๆ 350-400 กม.
BYD M3e
ก่อนหน้านี้มีแท็กซี่ไฟฟ้าจากจีนที่ทำตลาดในญี่ปุ่นมาก่อนแล้ว นั่นคือ BYD M3e นำเข้าครั้งแรกโดยบริษัท city taxi ซึ่งเป็นอีวีทรงมินิแวนที่สามารถโดยสารได้ถึง 7 ที่นั่ง (รวมคนขับ) แต่ด้วยระยะทางการขับขี่สูงสุดที่ 250 กม. ทำให้การใช้งานเพื่อเป็นแท็กซี่ไม่ค่อยสะดวกนัก
ราคาของ BYD e6 ในญี่ปุ่นอยู่ที่ 3.85 ล้านเยน (ประมาณ 1 ล้านบาท) ตามข้อมูลของ Next Generation Vehicle Promotion Center และรัฐบาลจะสนับสนุนเพิ่มเติมอีก 8.5 แสนเยน (ประมาณ 2.2 แสนบาท)
ทดสอบแล้วว่าเป็นแท็กซี่ที่ดี
ทางเว็บไซต์ kuruma-news.jp ได้ทำการทดสอบโดยการนั่ง BYD e6 และสัมผัสประสบการณ์การขับขี่เล็กน้อย ผู้ทดสอบกล่าวว่ามีความแตกต่างจากแท็กซี่จากจีนรุ่นก่อนอย่าง M3e อย่างชัดเจน
สัมผัสของภายในได้ถูกปรับปรุงขึ้นมาจากเดิม พื้นที่ภายในมีมากเกินพอ ทำให้การเดินทางไกลไม่ได้ทรมานนัก ส่วนช่วงล่างค่อนข้างแข็งในแง่ของการขับขี่ จุด CG ของรถที่ต่ำกว่าทำให้การขับขี่ที่รู้สึกมั่นคงกว่า M3e
เขาได้ให้คำนิยามว่า M3e คือ “รถยนต์ไฟฟ้าธรรมดาทั่วไป” ในทางที่ดี แต่ e6 คือความรู้สึกที่เรียกว่า “รถยนต์ไฟฟ้าที่คุณภาพสูงกว่า”
อนาคตจะมีแท็กซี่จากจีนวิ่งบนถนนญี่ปุ่นมากขึ้น
น่าแปลกใจที่ประเทศที่มีความชาตินิยมอย่างญี่ปุ่นจะใช้สินค้าที่ผลิตจากต่างประเทศ โดยเฉพาะแท็กซี่ที่มีรูปทรงและฟังก์ชั่นอันเป็นเอกลักษณ์
แต่ด้วยความเป็นญี่ปุ่นอีกเช่นกันที่จะนิยมสินค้าที่มีคุณภาพ BYD e6 นั้นมีคุณสมบัติต่าง ๆ ทั้ง ระยะทางที่วิ่งได้และคุณภาพของการขับขี่ ประโยชน์ใช้สอย ไปจนถึงความสมบูรณ์แบบของตัวรถ ซึ่งทำให้รถคันนี้เป็นรถที่ดีและเราอาจจะเห็นแท็กซี่จากจีนวิ่งบนถนนญี่ปุ่นมากขึ้นในอนาคต
ส่วนประเทศไทย BYD e6 มีการนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ค EVSociety ในราคา 1.39 ล้านบาท โดยยังไม่มีการสนับสนุนจากรัฐบาล บนท้องถนนจะเห็นในการใช้งานเพื่อการพาณิชย์เป็นส่วนใหญ่ เช่น แท็กซี่ หรือรถรับส่งสนามบิน แต่ก็มีเป็นรถส่วนบุคคลบ้างประปราย
อ่านเพิ่มเติม : แท็กซี่เปิดบริการนอนในรถได้ที่ญี่ปุ่น Toyota JPN Taxi ต้องปลอดภัยเบอร์ไหน
(ขอขอบคุณรูปภาพจาก kuruma-news.jp)