2019 Honda BR-V (2019 ฮอนด้า บีอาร์-วี) รถยนต์มินิ เอ็มพีวี จากค่ายฮอนด้า (Honda) ทำการปรับโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกหลังจากเปิดตัวในประเทศไทย ด้วยการปรับโฉมหน้าของรถไปอย่างมาก จนทำให้รถมีความสปอร์ตดุดันขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดในโฉมล่าสุด
การทำตลาดแข่งขันในกลุ่มรถยนต์ระดับราคา 7-8 แสนบาท แน่นอนว่าพวกเขาต้องเจอกับคู่แข่งมากหน้าหลายตา ตั้งแต่รถยนต์กลุ่มอีโคคาร์ บี-เซกเมนต์ หรือแม้แต่กลุ่มมินิ เอ็มพีวี ด้วยกันเอง ที่มีทางเลือกที่หลากหลาย และพร้อมแย่งชิงลูกค้าไปได้ทุกเมื่อเชื่อวัน
อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของเรานั้น รถคันนี้ก็ยังพอเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอยู่บ้างสำหรับลูกค้าบางกลุ่ม ที่ไม่ได้ต้องการความคล่องแคล่วว่องไวแบบปรู๊ดปร๊าด แต่เน้นการขับขี่ใช้งานในชีวิตประจำวันที่ต้องการรองรับความหลากหลายในการใช้งาน มาดู 5 เหตุผลที่อาจทำให้คุณสนใจรถคันนี้กันเถอะ
1.ทางเลือกที่หลากหลายกว่าคู่แข่ง
ฮอนด้า บีอาร์-วี คือรถยนต์ในกลุ่มมินิ เอ็มพีวี ที่มาพร้อมออพชั่นของห้องโดยสาร 2 แบบ ทั้งแบบ 5 ที่นั่งและแบบ 7 ที่นั่ง ขณะที่คู่แข่งในเซกเมนต์เดียวกันนั้น จะมาพร้อมทางเลือกของห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่งเท่านั้น ซึ่งทำให้บีอาร์-วี สามารถลงไปแข่งกับตลาดอื่นได้ง่ายขึ้น
ตัวรถรุ่น 5 ที่นั่งมีความสูงและความกว้างขวางของห้องเก็บสัมภาระเหนือกว่ารถในเซกเมนต์อื่น ๆ ในระดับราคาเดียวกัน แถมน้ำหนักตัวรถของรุ่น 5 ประตูนั้น ก็เบากว่ารุ่น 7 ที่นั่งกว่า 30 กิโลกรัมเลยทีเดียว เรียกว่าถ้าไม่จำเป็นต้องขนคน 7 คน ก็สามารถเลือกรุ่น 5 ที่นั่งได้เลย
2.ความเอนกประสงค์ของห้องโดยสาร
ด้วยการออกแบบเพื่อให้เป็นรถยนต์ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้อย่างหลากหลาย ฮอนด้าได้ทำการพัฒนาห้องโดยสารของบีอาร์-วีให้ปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งานจริง โดยเบาะที่นั่งแถวหน้าสามารถปรับด้วยมือได้ 6 ทิศทางที่ฝั่งคนขับและ 4 ทิศทางที่ฝั่งผู้โดยสาร
เบาะที่นั่งแถว 2 นั้น สามารถเลื่อนหน้า-หลังได้ เพิ่มพื้นที่วางขาตรงกลางรถได้ ขณะที่เบาะแถว 3 นั้น สามารถพับแยกได้แบบ 50:50 ปรับเอนเพื่อเพิ่มความสบายในการโดยสารได้ อีกทั้งยังสามารถพับเก็บแนบกับเบาะที่นั่งแถว 2 เพื่อให้สามารถบรรทุกสัมภาระได้อย่างเต็มพิกัด
3.รูปลักษณ์ภายนอกสำหรับขาลุย
บีอาร์-วี โฉมใหม่ มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอกอย่างมาก เพื่อให้ตัวรถมีความสปอร์ตแบบขาลุยมากขึ้น ด้วยระยะต่ำสุดจากพื้นรถที่มีมาถึง 201 มิลลิเมตร ฮอนด้าได้ปรับเปลี่ยนกันชนหน้าและกันชนหลังเป็นดีไซน์ใหม่ พร้อมชายกันชนล่าง และเปลี่ยนกระจังหน้าแบบใหม่สีเงินขนาดใหญ่เตะตา
มาพร้อมกับไฟส่องสว่างเวลาวิ่งกลางวัน ไฟตัดหมอกคู่หน้าออกแบบมาใหม่ เสาอากาศเปลี่ยนเป็นแบบครีบฉลาม มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วลายใหม่ สีทูโทน ด้านข้างรถโดดเด่นด้วยกาบข้างตัวรถพร้อมแถบโครเมียมม พร้อมโครเมียมครอบไฟท้าย โดยมีสีใหม่ให้เลือก ได้แก่ สีแดงมุกและสีขาวมุก
4.ห้องโดยสารภายในแนวสปอร์ต
การออกแบบห้องโดยสารภายในของรถคันนี้นั้น เน้นความสปอร์ต โดดเด่น เพือเอาใจวัยรุ่นมาตั้งแต่แรก และในเวอร์ชั่นปรับโฉม พวกเขาก็ทำการยกระดับไปอีกขั้น ด้วยการปรับเปลี่ยนโทนสีของห้องโดยสาร จากเดิมที่ใช้สีดำล้วน มาเป็นสีทูโทน ดำสลับแดง ที่เห็นได้ชัดจากเบาะหุ้มหนังสีใหม่
นอกจากนี้ ยังได้ปรับระบบเอนเตอร์เทนในห้องโดยสารด้วยการเพิ่มจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วมาให้ มีระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติและระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลังติดตั้งมาเรียบร้อย ในรุ่น 5 ที่นั่งจะได้กล่องเก็บของใต้เบาะแถวที่ 2 มาเพิ่ม ซึ่งทำให้ห้องโดยสารแนวสปอร์ตของพวกเขาใช้งานได้จริง
5.ความปลอดภัยระดับ 5 ดาว
แม้หลาย ๆ คนจะบอกว่ารถคันนี้มีอุปกรณ์และระบบด้านความปลอดภัยไม่โดดเด่น โดยหากไม่นับถุงลมนิรภัย 2 ใบคู่หน้าแล้ว พวกเขาก็มีระบบช่วยเหลือการขับขี่เพียงแค่ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ระบบกระจายแรงเบรก ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันเพียงเท่านั้น
แต่จริง ๆ แล้ว รถคันนี้ได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากการทดสอบการชนของอาเซียน เอ็นแคป ในระดับ 5 ดาว ซึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาโครงสร้างตัวถังแบบจี-คอน ที่กระจายแรงกระแทกไปทั่วคัน แถมยังมีอุปกรณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ พวกระบบเตือนให้ขาดเข็มขัดนิรภัยคู่หน้า ซึ่งถือว่าปลอดภัยอยู่