ตลาดรถเอสยูวี-บีกำลังจะทะลุจุดเดือด เมื่อ 2022 Haval Jolion (2022 ฮาวาล โจเลียน) จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้
Jolion จะเป็นผลิตภัณฑ์ลำดับที่ 3 ของ Great Wall Motor (เกรท วอลล์ มอเตอร์) ต่อจาก Haval H6 (ฮาวาล เอช6) และ ORA Good Cat (โอร่า กู๊ดแคท) ถือเป็นการรุกตลาดอย่างหนักหน่วงภายในช่วงเวลาไม่กี่เดือนของค่ายรถจากเมืองจีน
อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มว่า Jolion จะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงที่สุดเพราะมีคู่แข่งระดับพระกาฬจากญี่ปุ่นขวางทางอยู่ ไม่ว่าจะเป็นผู้นำตลาดอย่าง Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) และ 2022 Honda HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์-วี) ใหม่ที่เพิ่งเผยโฉมในบ้านเรา
เปิดฟีเจอร์น่าสนใจใน 2022 Haval Jolion
มิติตัวถังของ Jolion มีขนาดใหญ่ที่สุดในระดับเดียวกัน ขนาดความยาวอยู่ที่ 4,472 มม. กว้าง 1,841 มม. สูง 1,619 มม. ระยะฐานล้อ 2,700 มม.
เทียบกับเจ้าตลาดอย่าง Corolla Cross ที่เคยเป็นอันดับหนึ่งในด้านมิติตัวถัง มีขนาดยาว 4,460 มม. กว้าง 1,825 มม. และสูง 1,620 มม. ส่วนระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,640 มม. ส่วน HR-V ใหม่มีความยาว 4,385 มม. กว้าง 1,790 มม. สูง 1,590 มม. ระยะฐานล้อ 2,610 มม.
ขนาดตัวถังที่ใหญ่และระยะฐานล้อที่ยาวหมายถึงพื้นที่ในห้องโดยสารที่กว้างขวางมากขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งยังช่วยสร้างความรู้สึก “คุ้มค่า” ให้แก่คอรถยนต์บางคนที่ต้องการความใหญ่โตและภูมิฐานของรถอเนกประสงค์ในเซกเมนท์นี้
มาดูกันต่อที่ขุมพลังขับเคลื่อน แม้จะยังไม่เปิดเผยข้อมูลทางเทคนิคฉบับเต็ม แต่ Haval ยืนยันในเบื้องต้นว่า Jolion จะมาพร้อมหัวใจไฮบริด เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตรทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 1 ตัว
ที่น่าสนใจก็คือพละกำลังรวมที่มีมากถึง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์แบบ DHT ที่เหนือชั้นกว่าคู่แข่งระดับเดียวกัน
Corolla Cross รุ่นท็อปและตัวรองมาพร้อมระบบไฮบริดเช่นกัน เครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร มีพละกำลัง 98 แรงม้า แรงบิด 142 นิวตันเมตร มอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลัง 53 กิโลวัตต์ แรงบิด 163 นิวตันเมตร รวมแล้วมีพละกำลังอยู่ที่ 122 แรงม้า
ขณะที่ HR-V ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร กำลัง 105 แรงม้า แรงบิด 127 นิวตันเมตร มอเตอร์ไฟฟ้า 131 แรงม้า แรงบิด 253 นิวตันเมตร
ฟังก์ชั่นครบครันในราคาน่าลุ้น
Jolion ยังมาพร้อมการตกแต่งและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เริ่มจากไฟหน้าฟูล LED พร้อมเดย์ไลท์ ไฟท้ายและไฟตัดหมอกหลัง LED หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคู่แข่ง
ภายในห้องโดยสารมีหน้าจอแสดงผลมาตรวัดขนาด 7 นิ้ว พร้อมเฮดอัพดิสเพลย์ จอแสดงผลตรงกลางมีขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และระบบนำทางเนวิเกเตอร์ นอกจากนี้ยังมีระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้ายขวา มีระบบชาร์จอุปกรณ์ไร้สาย เบาะผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า และช่องแอร์ตอนหลัง แต่น่าเสียดายที่รถเอสยูวีจากแดนมังกรไม่มีประตูท้ายไฟฟ้าติดตั้งมาให้ด้วย
สำหรับระบบความปลอดภัยคาดว่าจะครบครันไม่แพ้ H6 ด้วยการเป็นรถเอสยูวีที่มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 2 มีฟังก์ชั่นช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่เพียงพอต่อการใช้งานทางใกล้และทางไกล
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่งคือราคาจำหน่าย มีความเป็นไปได้สูงว่า Jolion จะมีราคาย่อมเยากว่าคู่แข่งจากญี่ปุ่นนับแสนบาท ตัวเริ่มต้นจะต่ำกว่า 1 ล้านบาท ส่วนตัวท็อปอาจเคาะทะลุหลัก 1 ล้านบาทไปไม่กี่หมื่นเพื่อไม่ให้ทับตำแหน่งกับรุ่นพี่อย่าง H6
คำถามก็คือ รถเอสยูวีสัญชาติจีนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนแบบนี้ แถมราคายังน่ารักน่าลุ้น แต่ชื่อชั้นแบรนด์ในเมืองไทยและการบริการยังไม่แข็งแกร่งเท่าใดนักจะทำให้คุณผู้อ่านลืมรถสัญชาติญี่ปุ่นได้หรือไม่?