2020 MG HS PHEV (เอ็มจี เอชเอส ปลั๊กอินไฮบริด) เปิดตัวแล้ววันนี้ด้วยราคา 1,359,000 บาท เป็นรถเอสยูวีพื้นฐานจากรุ่น HS นำมาปรับปรุงใหม่ ด้วยการเปลี่ยนหัวใจหลักเป็นระบบไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก นอกจากนี้ยังปรับหน้าตาและการตกแต่งทั้งหมดให้สมกับราคาที่เพิ่มขึ้นด้วย มาดูความแตกต่างทั้งหมดกันว่ามีอะไรเพิ่มตรงไหนบ้าง โดยจับรุ่นท็อปของเบนซิน 1.5X มาเทียบให้ดูข้างกันชัดๆ

ภายนอก เปลี่ยนล้อใหม่

หน้าตารถภายนอกเหมือนกันแทบทุกอย่าง ยกเว้นตรงล้อแม็กซ์ลาย 5 ก้านทรงกิ่งไม้ ชื่อ Thunder Wing Blade แบบปัดเงาสีทูโทน ที่เป็นจุดสังเกตเห็นได้ชัด นอกจากนั้นก็มีรายละเอียดเล็กน้อยตรงจุดเสียบปลั๊กชาร์จไฟฟ้าบนซุ้มล้อหลังฝั่งขวามือ กับตราอักษร PHEV ติดฝาท้ายเท่านั้นที่เป็นความแตกต่างอย่างที่ตามองเห็นได้ ส่วนรายละเอียดโครงสร้างนั้นมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยดังนี้

ภายใน เพิ่มโทนสีใหม่

เบาะหนังสีขาว-น้ำเงิน คือจุดแตกต่างที่ชัดเจน ซึ่งมีให้เฉพาะในตัวถังสีขาวเท่านั้น ส่วนรถ MG HS PHEV สีอื่นๆ จะได้เบาะสีดำล้วนแทน เปลี่ยนด้ามเกียร์ใหม่มีกลไกการเลือกโหมดแบบกระดิกขึ้น-ลง เปลี่ยนตำแหน่ง P เป็นปุ่มกดบนหัวเกียร์ เพิ่มปุ่ม EV ใช้ขับแบบไฟฟ้าล้วน พร้อมเครื่องเกรดพรีเมี่ยม ที่มีเครื่องเสียง, ลำโพง และซับวูฟเฟอร์จาก Bose ให้มาด้วย

เครื่องยนต์ผสมไฟฟ้า 284 แรงม้า

ขุมพลังของทั้งคู่ยังใช้พื้นฐานจากเครื่องเบนซิน 1.5 ลิตรเทอร์โบ แต่รุ่นไฮบริดปรับแต่งเครื่องยนต์นี้ให้มีกำลังอัดสูงขึ้นเล็กน้อย ทำให้ได้พลังเท่าเดิม แต่มาในรอบต่ำลงนิดหน่อย มาพ่วงกับมอเตอร์ไฟฟ้า ทำกำลังรวมทั้งระบบได้ 284 แรงม้า โดยสามารถวิ่งแบบไฟฟ้าล้วนได้ 67 กม. ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยเกียร์ลูกใหม่ EDU II (Electric Drive Unit II) 10 สปีด ที่มีอัตราทดเฟืองท้ายค่อนข้างต่ำ ช่วยทดในความเร็วสูง ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ภายใน 7.5 วินาที มีอัตราการใช้เชื้อเพลิงสูงสุดได้ถึง 65 กม./ลิตร

ระบบความปลอดภัย

ระบบช่วยชีวิตมีมาให้ครบเหมือนกันทั้งคู่ ตั้งแต่ระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบเตือนและควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ระบบเตือนจุดบอดด้านข้างและด้านหลัง ฯลฯ ยังมีถุงลมนิรภัยครบ 6 จุดเหมือนเดิม ต่างกันตรงที่รุ่น PHEV ใช้ชุดซ่อมยางแทนที่ล้ออะไหล่เดิมที่มีอยู่ในรุ่น 1.5 X

2020 MG HS PHEV รับประกันคุณภาพแบตเตอรี่ 8 ปีไม่จำกัดระยะทาง เพิ่มมาจากรุ่นเบนซินที่รับประกัน 4 ปีหรือ 120,000 กม. เปิดตัวแล้ววันนี้ พร้อมให้เป็นเจ้าของด้วยราคา 1,359,000 บาท เพิ่มเงินต่างจากเดิม 240,000 บาท ส่งมอบได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป