2019 Hyundai H1 (2019 ฮุนได เอช1) ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ที่มองหารถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่ให้ความสะดวกสบายและรองรับผู้โดยสารได้หลายคน
Hyundai ส่ง H1 ออกทำตลาดทั้งหมด 3 รุ่นย่อย มาพร้อมราคาจำหน่ายที่ย่อมเยากว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นรถอเนกประสงค์จากบริษัทร่วมเครือเดียวกันอย่าง Kia Carnival และรถอเนกประสงค์ฝั่งญี่ปุ่นอย่าง Toyota Majesty โดยมีค่าตัวดังนี้
H1 Touring ราคา 1,329,000 บาท
H1 Elite ราคา 1,529,000 บาท
H1 Deluxe ราคา 1,729,000 บาท
อะไรที่ทำให้ H1 กลายเป็นตัวเลือกลำดับต้น ๆ ของผู้บริโภคที่ต้องการรถอเนกประสงค์สำหรับใช้งานในครอบครัวหรือสำหรับผู้บริหารระดับสูงทั้งในหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรเอกชน เราไปชมจุดเด่น-จุดด้อยของรถรุ่นนี้กัน
จุดเด่น
1. ราคาจำหน่ายเอื้อมถึงได้ง่าย
ค่ายรถจากแดนโสมขาวเคาะราคาจำหน่าย H1 รุ่นเริ่มต้นที่ 1.329 ล้านบาท ต่ำกว่า Grand Carnival รุ่นเริ่มต้น LX ซึ่งอยู่ที่ 1.397 ล้านบาท มิพักต้องพูดถึง Majesty รุ่นเริ่มต้นที่มีราคากระโดดไปกว่า 1.7 ล้านบาทเลยทีเดียว ทำให้ H1 กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจแม้ตัวล่างสุดจะมีอ็อปชั่นไม่มากนัก แต่ลูกค้าก็จะได้รับความสะดวกสบายในด้านความกว้างขวางและโอ่โถงในห้องโดยสาร เหมาะสำหรับการนั่งโดยสารเดินทางไกลได้อย่างราบรื่น
2. เครื่องยนต์มีสมรรถนะดี
ขุมพลังขับเคลื่อนของ H1 เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว พ่วงเทอร์โบแปรผัน ขนาด 2.5 ลิตร พละกำลัง 175 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิด 441 นิวตันเมตรที่ 2,000 – 2,250 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมซีเควนเชียล ชิฟท์
ทั้งแรงม้าและแรงบิดใน H1 อาจจะสู้ Carnival ไม่ได้ แต่เหนือกว่า Majesty เล็กน้อย เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบของ Hyundai รุ่นนี้มีการตอบสนองที่ดี เมื่อบวกกับการเซ็ทอัพช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังเป็นแบบ 5 ลิงค์พร้อมคอยล์สปริงที่ลงตัวทำให้ H1 มีการขับขี่ที่เหมาะกับทุกการเดินทาง
3. อ็อปชั่นอำนวยความสะดวกสบายค่อนข้างครับ (ในรุ่นท็อป)
H1 รุ่นสูงสุด Deluxe มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ควรจะมีในรถประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็นระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมปุ่มควบคุมแยกสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ประตูสไลด์ไฟฟ้าพร้อมควบคุมได้ด้วยรีโมท ช่องจ่ายไฟ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง 2 ตำแหน่ง ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ระบบนำทาง GPS ระบบ WiFi เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต และจอภาพ LCD ติดเพดานพับไฟฟ้าแบบ Full HD 13.3 นิ้ว พร้อมช่องต่อ USB, HDMI และ Mirror Link
จุดด้อย
1. ระบบความปลอดภัยน้อยไปนิด
ระบบความปลอดภัยใน H1 ค่อนข้างขาดแคลนถึงแม้จะเป็นรุ่นท็อปก็ตาม โดยมีเพียงถุงลมนิรภัย 4 ตำแหน่ง ได้แก่ คู่หน้า และด้านข้างตอนหน้า ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS สัญญาณเตือนกะระยะถอยหลัง ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทางอัจฉริยะ และระบบควบคุมเสถียรภาพ ESP
เมื่อเทียบกับ Majesty ที่มีตัวล่างสุดที่มีถุงลมถึง 9 ตำแหน่งปกป้องผู้โดยสารทุกที่นั่ง พร้อมกับมีระบบช่วยเตือนขณะถอยรถและระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้างที่เหมาะกับการเดินทางไกล
2. ศูนย์บริการมีไม่ถึง 30 แห่ง
จำนวนศูนย์บริการของ Hyundai ทั่วประเทศมีไม่ถึง 30 แห่งซึ่งหมายถึงข้อจำกัดของการเลือกใช้บริการหลังการขาย ขณะที่คุณภาพการบริการและการใช้งานระยะยาวก็ยังไม่อาจสู้แบรนด์ยักษ์ใหญ่เจ้าตลาดอย่าง Toyota ได้
3. รูปลักษณ์อาจไม่ดึงดูดเท่าที่ควร
ถึงแม้รูปลักษณ์และการออกแบบจะเป็นเรื่องต่างจิตต่างใจ แต่เมื่อมองในภาพรวม H1 อาจทำให้คุณดูเหมือนคนขับรถมากกว่าหัวหน้าครอบครัว ขณะที่คู่แข่งอย่าง Carnival และ Majesty มีความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวน่าขับขี่มากกว่า