ตลาดรถอเนกประสงค์ 11 ที่นั่งอาจมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็มีการแข่งขันกันอย่างน่าติดตาม นำโดย2019 Hyundai H1 (2019 ฮุนได เอช1) รถอเนกประสงค์รุ่นยอดนิยมที่คอรถยนต์ชาวไทยรู้จักกันดี
การกำหนดราคาที่ค่อนข้างย่อมเยาของ H1 รถอเนกประสงค์จากแดนโสมขาวทำให้พ่อบ้านที่สนใจรถครอบครัวขนาดใหญ่เทใจให้อย่างล้นหลาม ก่อนที่ Toyota จะเปิดตัว 2019 Toyota Majesty (2019 โตโยต้า มาเจสตี้) ด้วยระดับราคาเหลื่อมสูงกว่าเล็กน้อย กลายเป็นอีกทางเลือกในเซกเมนท์นี้
H1 มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1.329 ล้านบาทไปจนถึงรุ่นท็อป 1.729 ล้านบาท ซึ่งรุ่นสูงสุดนี้เองที่ไปทับซ้อนกับตัวล่างสุดของ Majesty รุ่น Standard เคาะอยู่ที่ 1.709 ล้านบาท เราจึงขอนำสเปกของทั้งสองรุ่นมาเปรียบเทียบกันว่าใครมีดีมีเด่นน่าจับจองเป็นเจ้าของ
มิติตัวถัง
|
Hyundai H1 |
Toyota Majesty |
ความยาว |
5,169 มม. |
5,265 มม. |
ความกว้าง |
1,920 มม. |
1,950 มม. |
ความสูง |
1,925 มม. |
1,990 มม. |
ระยะฐานล้อ |
3,200 มม. |
3,210 มม. |
ระยะต่ำสุดจากพื้น |
190 มม. |
ไม่ระบุ |
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด |
5.6 เมตร |
5.5 เมตร |
ขนาดตัวถังของ Majesty มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยในทุกมิติ ทั้งความยาว ความกว้าง และความสูง ขณะที่ระยะฐานล้อก็ยาวกว่าด้วย แต่ในขณะเดียวกัน รัศมีวงเลี้ยวของรถอเนกประสงค์สัญชาติญี่ปุ่นกลับแคบกว่า
ระบบขับเคลื่อน
|
Hyundai H1 |
Toyota Majesty |
เครื่องยนต์ |
ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผัน |
ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผัน |
ความจุ |
2.5 ลิตร / 2,497 ซีซี |
2.8 ลิตร / 2,755 ซีซี |
พละกำลัง |
175 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที |
163 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที |
แรงบิด |
441 นิวตันเมตรที่ 2,000 – 2,250 รอบต่อนาที |
420 นิวตันเมตรที่ 1,600 – 2,200 รอบต่อนาที |
ระบบส่งกำลัง |
เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมซีเควนเชียล ชิฟท์ |
เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมซีเควนเชียล ชิฟท์ |
ระบบขับเคลื่อน |
ขับเคลื่อนล้อหน้า |
ขับเคลื่อนล้อหน้า |
ความจุถังน้ำมัน |
75 ลิตร |
70 ลิตร |
หัวใจขับเคลื่อนของรถอเนกประสงค์ทั้งสองรุ่นใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ พ่วงเทอร์โบแปรผันเหมือนกัน แต่แตกต่างกันที่ความจุ โดย H1 มีขนาดเล็กกว่าแต่รีดพละกำลังทั้งแรงม้าและแรงบิดได้มากกว่า ส่วนขุมพลังของ Majesty เป็นบล็อกเดียวกับที่ใช้อยู่ในรถกระบะ Revo มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีดที่ล้ำสมัยกว่า H1 เล็กน้อย
ระบบกันสะเทือนหน้าของ H1 เป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังเป็นแบบ 5 ลิงค์พร้อมคอยล์สปริง ส่วน Majesty ด้านหน้าเป็นแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบบ 4 ลิงค์ คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง รถอเนกประสงค์ทั้ง 2 รุ่นใช้ดิสก์เบรก 4 ล้อ
รูปลักษณ์และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
H1 รุ่นสูงสุด Deluxe มาพร้อมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ มีเดย์ไลท์ LED ไฟตัดหมอก ไฟท้ายแบบ LED กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว LED กระจังหน้าโครเมียมสลับดำ เสาอากาศแบบสั้น คิ้วป้ายทะเบียนหลังโครเมียม มีสปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ประตูสไลด์ไฟฟ้าสองข้าง พร้อมรีโมท มีไฟส่องพื้นที่กระจกมองข้าง ล้อขนาด 16 นิ้ว หุ้มยาง 215/70 R16
ภายในห้องโดยสาร เบาะหุ้มหนัง โดยเบาะแถวที่ 2 ปรับหมุน 180 องศา ตกแต่งด้วยลายไม้ กระจกแบบ flush glass ที่ประตูสไลด์ พนักพิงศีรษะแบบปีกผีเสื้อ มีระบบเบาะอุ่น/เย็นสำหรับคนขับ พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
ทางด้าน Majesty รุ่นล่าง Standard มาพร้อมการตกแต่งด้วยโครเมียมทั้งกระจังหน้า กระจกมองข้าง และมือจับเปิดประตู กันชนหน้าสีเดียวกับตัวรถพร้อมตกแต่งด้วยโครเมียม มีสเกิร์ตรอบคัน สปอยเลอร์หลัง คิ้วกันกระแทกด้านข้าง ไฟหน้าและไฟท้าย LED กระจกมองข้างปรับและพับเก็บด้วยไฟฟ้า มีกลไกช่วยปิดประตูสำหรับประตูบานสไลด์ซ้าย-ขวา และประตูท้าย ส่วนล้อมีขนาด 17 นิ้ว หุ้มยาง 235/60R17
ภายในห้องโดยสาร พวงมาลัยหุ้มหนังสังเคราะห์ มาตรวัดเรืองแสง จอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID เบาะนั่งหุ้มหนังและหนังสังเคราะห์ และกระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน
ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกเด่น ๆ ของ Hyundai H1 รุ่น Deluxe มีดังนี้
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมปุ่มควบคุมแยกสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
- ช่องเสียงไฟ 12V จำนวน 2 ตำแหน่ง
- ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
- ช่องจ่ายไฟ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
- ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
- เครื่องเสียง DVD หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับแอปเปิล คาร์เพลย์
- ช่องเสียบ USB / AUX / HDMI และการเชื่อมต่อ Bluetooth
- ระบบนำทาง GPS
- ระบบ WiFi เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
- จอภาพ LCD ติดเพดานพับไฟฟ้าแบบ Full HD 13.3 นิ้ว พร้อมช่องต่อ USB, HDMI และ Mirror Link
- ลำโพง 6 ตำแหน่ง
ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกเด่น ๆ ของ Toyota Majesty รุ่น Standard มีดังนี้
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ 2 ตอน
- ช่องจ่ายกระแสไฟฟ้า 12 โวลต์ 2 ตำแหน่ง
- ช่องต่ออุปกรณ์เสริม USB 7 ตำแหน่ง
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
- ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ (Push Start)
- ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Smart Entry)
- ระบบ T-connect TELEMATICS
- เครื่องเล่น DVD/CD จอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ Bluetooth
- ลำโพง 6 ตำแหน่ง
ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกพื้นฐานอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน แต่ H1 ดูจะตอบโจทย์การใช้งานสำหรับพ่อบ้านมากกว่าด้วยการติดตั้งจอภาพ LCD ติดเพดานพับไฟฟ้าแบบ Full HD 13.3 นิ้วมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานซึ่งเหมาะสำหรับการสร้างความบันเทิงให้สมาชิกในครอบครัวบนเบาะแถวที่ 2, 3 และ 4 นอกจากนี้ยังมี WiFi เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตมาให้ด้วย
ระบบความปลอดภัย
ระบบความปลอดภัยเด่น ๆ ของ Hyundai H1 รุ่น Deluxe มีดังนี้
- ถุงลมนิรภัย 4 ตำแหน่ง ได้แก่ คู่หน้า และด้านข้างตอนหน้า
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS
- สัญญาณเตือนกะระยะถอยหลัง
- ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทางอัจฉริยะ
- ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESP
ระบบความปลอดภัยเด่น ๆ ของ Toyota Majesty รุ่น Standard มีดังนี้
- ถุงลมนิรภัย 9 ตำแหน่ง ได้แก่ คู่หน้า, หัวเข่าคนขับ, ด้านข้างในห้องผู้โดยสารด้านหน้า, บริเวณม่านในห้องผู้โดยสารด้านหน้าและหลัง
- ระบบเบรก ABS และเสริมแรงเบรก BA
- ระบบควบคุมการทรงตัว VSC และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (BSM)
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA
- กล้องมองภาพขณะถอยหลัง (Back Camera)
- กล้องวีดิโอบันทึกภาพติดรถยนต์ (DVR)
ถึงแม้จะเป็นรุ่นเริ่มต้น แต่ระบบความปลอดภัยใน Toyota Majesty รุ่น Standard จัดมาให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเชิงป้องกันอย่างระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ ระบบแจ้งเตือนต่าง ๆ ไปจนถึงเชิงปกป้องที่มีถุงลมนิรภัย 9 ตำแหน่งสำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง ขณะที่ H1 มีเฉพาะระบบความปลอดภัยมาตรฐาน สิ่งหนึ่งที่รถทั้งสองรุ่นมีเหมือนกันคือกล้องมองภาพขณะถอยหลังที่มีความจำเป็นอย่างมากสำหรับรถครอบครัวขนาดใหญ่เช่นนี้
ราคาจำหน่าย
Hyundai H1 รุ่น Deluxe ราคา 1,729,000 บาท
Toyota Majesty รุ่น Standard ราคา 1,709,000 บาท
สรุป
Hyundai H1 มีค่าตัวสูงกว่าเล็กน้อย แต่จำนวนเงินที่แตกต่างกัน 2 หมื่นบาทอาจไม่ใช่ปัจจัยหลักที่นำไปสู่การเลือกใช้รถอเนกประสงค์ 11 ที่นั่งสักคัน หากเป็น “แบรนด์” ที่อาจเป็นตัวแปรสำคัญ เนื่องจากผู้ที่นิยมรถกระแสหลักและแบรนด์เจ้าตลาดส่วนใหญ่อาจหันไปหา Toyota Majesty ที่อุ่นใจได้มากกว่าในด้านบริการหลังการขาย โดยเฉพาะเมื่อหมดระยะประกัน 3 ปีไปแล้ว
อีกหนึ่งกุญแจที่จะนำไปสู่การตัดสินใจเลือกซื้อก็คือระบบความปลอดภัยซึ่งพ่อบ้านหรือหัวหน้าครอบครัวทั้งหลายย่อมให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ เพื่อความอุ่นใจในการเดินทางของครอบครัว และ Majesty ก็ตอบโจทย์ได้มากกว่าชัดเจน
กระนั้น H1 ก็ยังคงเป็นรถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยมไม่สร่างซา โดยเฉพาะเมื่อรุ่นเริ่มต้นที่มีราคาจำหน่ายย่อมเยากว่าและถือว่าถูกที่สุดในเวลานี้ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกอาจลดหลั่นลงไปแต่ก็ให้ความสะดวกสบายได้ไม่แพ้กัน