ตลาดรถปลั๊กอินไฮบริดในบ้านเราคึกคักขึ้นมาทันตาเมื่อมีรถใหม่เปิดตัวในเวลาไล่เลี่ยกัน เริ่มจาก 2020 MG HS PHEV (เอ็มจี เอชเอส พีเอชอีวี) ตามมาด้วย 2020 Mitsubishi Outlander PHEV (มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี)
รถอเนกประสงค์ทั้ง 2 โมเดลจัดอยู่ในกลุ่มคอมแพ็กต์หรือเอสยูวี-ซี มีคู่แข่งอีกหลายรุ่นในเซกเมนท์นี้ ไม่ว่าจะเป็น Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์-วี) และ Mazda CX-5 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-5) แต่ยังไม่มีการนำเสนอเวอร์ชั่นปลั๊กอินไฮบริด
ดังนั้น HS PHEV และ Outlander PHEV จึงกลายเป็นคู่ต่อกรกันโดยตรง ถึงแม้ราคาจะห่างกันพอสมควรแต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องจับมาวัดสเปกให้เห็นกันชัด ๆ
|
|
2020 Mitsubishi Outlander PHEV |
2020 MG HS PHEV |
ความยาว (มม.) |
4,695 |
4,574 |
ความกว้าง (มม.) |
1,800 |
1,876 |
ความสูง (มม.) |
1,710 |
1,664
|
ระยะฐานล้อ (มม.) |
2,670 |
2,720 |
รูปลักษณ์ภายนอกของ Outlander PHEV มาพร้อมไฟส่องสว่าง LED ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหน้าโปรเจคเตอร์คู่ ไฟเดย์ไลท์ ไฟตัดหมอก และไฟท้าย พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กระจังหน้าโครเมียมรมดำ สปอยเลอร์หลัง พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ราวหลังคาสีเงิน กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ เสาอากาศครีบฉลาม ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว หุ้มด้วยยาง 255/55 R18
ด้าน HS PHEV มาพร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ เปิด-ปิดอัตโนมัติ ไฟเดย์ไลท์ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ไฟเลี้ยวแบบซีเควนเชีนล ไฟตัดหมอกหน้า-หลัง ไฟท้าย LED ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ไฟ welcome light หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา สปอยเลอร์หลัง ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้า ราวหลังคา ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว หุ้มยาง 235/50R18
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายใน
ห้องโดยสารของ Outlander PHEV รุ่นท็อปตกแต่งด้วยสีเงินและลายกราฟฟิกสีดำ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบดูอัลโซน ช่องลมแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ระบบชะลอความเร็วพร้อมชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมระบบแฮนด์ฟรีสั่งงานด้วยเสียง กระจกมองหลังปรับแสงสะท้อนอัตโนมัติ ช่องจ่ายกระแสไฟ DC 12 โวลต์ ช่องจ่ายกระแสไฟ AC 1,500 วัตต์ ช่องต่ออุปกรณ์ USB สำหรับชาร์จไฟบนคอนโซลกลางและสำหรับเชื่อมต่อความบันเทิงที่ด้านหน้า
สำหรับเบาะนั่งคู่หน้าปรับระบบไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชั่นดันหลังด้านคนขับ เบาะแถวที่ 2 แยกพับ 60:40 กุญแจอัจฉรินะ ปุ่มสตาร์ทเพาเวอร์ เครื่องเสียงบนหน้าจอระบบสัมผัส 8 นิ้วรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Apple CarPlay และ Android Auto มีระบบบลูทูธ ลำโพง 6 ตำแหน่ง และระบบสั่งการทำงานผ่านสมาร์ทโฟนด้วยสัญญาณ Wi-Fi
ในส่วนของ HS PHEV ตกแต่งสีภายในแบบทูโทน 2 สไตล์คือ ขาว-น้ำเงินหรือดำล้วน มีไฟแอมเบียนท์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบดูอัลโซน ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ระบบกรองอากาศ PM2.5 ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ท
นอกจากนี้ยังมีแป้นเหยียบแบบสปอร์ต เบาะหนังสังเคราะห์แบบสปอร์ต เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ฝั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เบาะนั่งด้านหลังพับได้ 60:40 หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ 12 นิ้ว กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
ระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริด
|
|
2020 Mitsubishi Outlander PHEV |
MG HS PHEV |
เครื่องยนต์ |
เบนซิน 4 สูบ MIVEC |
เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบ DOHC TGI |
ขนาด |
2.4 ลิตร หรือ 2,359 ซีซี |
1.5 ลิตร หรือ 1,490 ซีซี |
มอเตอร์ไฟฟ้า |
2 ตัว - ขับเคลื่อน 4 ล้อ |
1 ตัว - ขับเคลื่อน 2 ล้อ |
ระบบส่งกำลัง |
เกียร์ซิงเกิลสปีด |
เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด |
พละกำลัง |
305 แรงม้า |
284 แรงม้า |
แรงบิด |
531 นิวตันเมตร |
480 นิวตันเมตร |
แบตเตอรี่ |
ลิเธียม-ไอออน 13.8 กิโลวัตต์ |
ลิเธียม-ไอออน 16.6 กิโลวัตต์ |
ระยะเวลาชาร์จไฟเต็ม 100% |
ประมาณ 4 ชั่วโมง |
ประมาณ 5 ชั่วโมง |
ระยะทางสิ่งด้วยไฟฟ้าสูงสุด |
65 กม. |
67 กม. |
อัตราบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง |
52.6 กม.ต่อลิตร |
65 กม.ต่อลิตร |
Outlander PHEV เหนือกว่าอย่างชัดเจนในแง่ของพละกำลังและสมรรถนะการขับขี่ โดยเฉพาะระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวีลล์คอนโทรล (S-AWC) ที่ถ่ายทอดจากสนามแข่งแรลลี่ ประสานการทำงานระหว่างระบบเบรกป้องกันล้อล็อก Anti-Lock Braking (ABS) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Active Stability Control (ASC) และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและการเบรกระหว่างล้อซ้ายและล้อขวา Anti-Yaw Control (AYC) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ติดตั้งที่เพลาหน้า-หลัง ควบคุมแบบอิสระทั้ง 4 ล้อ
ระบบซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล ยังทำงานร่วมกับโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ ประกอบด้วย โหมดล็อค (มอบสมรรถนะเต็มรูปแบบของระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ โหมดสโนว์ (ให้การควบคุม การยึดเกาะ และการควบคุมที่ดีเยี่ยม เมื่อขับขี่บนพื้นผิวถนนที่เปียกลื่น) โหมดนอร์มอล (ควบคุมแรงบิดของแต่ละล้อให้เหมาะกับสภาพการขับขี่ ) และ โหมดสปอร์ต (เพิ่มความแม่นยำของคันเร่ง การควบคุม และการตอบสนองของเครื่องยนต์ให้ดีมากขึ้น) ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการยึดเกาะและลุยผ่านทุกสภาพถนน พร้อมช่วยรักษาเสถียรภาพ และเพิ่มสมรรถนะในการควบคุมให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ทีมงาน AutoFun ได้มีโอกาสทดลองขับรถทั้งสองรุ่นแล้ว คลิกชม Outlander PHEV และ HS PHEV
ระบบความปลอดภัย
|
|
2020 Mitsubishi Outlander PHEV |
MG HS PHEV |
ถุงลมนิรภัย |
7 ตำแหน่ง |
6 ตำแหน่ง |
ระบบเบรก ABS / EBD / BA |
มี |
มี |
ระบบเบรกมือไฟฟ้าและ Auto Hold |
มี |
มี |
ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง |
- |
มี |
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวและป้องกันการลื่นไถล |
มี |
มี |
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน |
มี |
มี |
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน |
มี |
มี |
ระบบไฟสูงต่ำอัตโนมัติ |
มี |
มี |
ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมชะลอความเร็ว |
มี |
มี |
ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว |
มี |
- |
ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา พร้อมระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน |
มี |
มี |
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน |
- |
มี |
ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด |
มี |
มี |
กล้องมองภาพรอบคัน |
มี |
มี |
สัญญาณกะระยะจอด |
มี |
มี |
จุดยึดเบาะ ISOFIX |
มี |
มี |
ราคาจำหน่าย
|
Mitsubishi Outlander PHEV รุ่น GT
|
1,640,000 บาท |
Mitsubishi Outlander PHEV รุ่น GT-Premium |
1,749,000 บาท |
MG HS PHEV |
1,359,000 บาท |
การรับประกัน
MG HS PHEV มาพร้อม MG Passion Service ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี รับประกันนาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร รับประกันชุดแบตเตอรี่นาน 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง แถม MG Home Charger ที่ชาร์จไฟติดตั้งภายในบ้าน ราคา 45,000 บาท สำหรับคนที่ซื้อและรับรถก่อน 31 ธันวาคมนี้ นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง Call Centre 24 ชั่วโมง Courtesy Car บริการรถใช้ระหว่างซ่อม ในกรณีเข้าศูนย์บริการเกิน 4 วัน กับโมบายเซอร์วิส บริการตรวจเช็ครถถึงบ้าน
Mitsubishi Outlander PHEV มาพร้อมแพ็กเกจ วอรี่ ฟรี (worry-free) ประกอบด้วยฟรีรับประกันแบตเตอรี่ 10 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร ฟรีมิตซูบิชิ เซอร์วิส แพ็กเกจ 5 ปี ฟรีช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม. นาน 5 ปี ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี ฟรีรับประกันคุณภาพพร้อมค่าแรงเช็คระยะ 5 ปี และค่าสนับสนุนการติดตั้งที่ชาร์จไฟฟ้าที่บ้านสูงสุด 20,000 บาท
สรุป
ด้วยราคาจำหน่ายที่ต่างกันถึง 281,000 บาท MG HS PHEV ได้เปรียบในเรื่องค่าตัวที่ลูกค้าที่มีหัวใจรักสิ่งแวดล้อมเข้าถึงได้ง่ายกว่า อีกทั้งยังมีระบบความปลอดภัยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครันและถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน
อย่างไรก็ตาม Mitsubishi Outlander PHEV มีชื่อชั้นที่แข็งแกร่ง ความสำเร็จในการทำตลาดรถอเนกประสงค์ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาทั้ง Xpander และ Pajero Sport บ่งบอกว่าพวกเขามีความเชี่ยวชาญในตลาดนี้อย่างมาก
ขณะเดียวกัน การติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ S-AWC ครั้งแรกในรถยนต์ Mitsubishi ที่จำหน่ายในประเทศไทยน่าจะดึงดูดลูกค้าที่ต้องการสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น เมื่อบวกกับพละกำลังที่แรงทะลุ 300 แรงม้า นี่คือจุดเด่นของ Outlander PHEV ที่เหนือกว่าคู่แข่งอย่างแน่นอน