All-new 2020 Suzuki XL7 เปิดตัวออกมาพร้อมกับแนวคิด “THINK XL คิดได้เกินคาด ไปได้เกินใคร” เคาะราคาจำหน่าย (ช่วงแนะนำ) ที่สั่นสะเทือนไปถึงคู่แข่งอย่าง Mitsubishi Xpander Cross
XL7 มาพร้อมตัวถังสไตล์รถครอสโอเวอร์สายลุย ภายในมีเบาะนั่ง 3 แถว รองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง รูปลักษณ์เน้นความทันสมัย มีฟังก์ชั่นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์หลากหลายรูปแบบ ทั้งการใช้งานในเมืองในชีวิตประจำวันและการขับขี่ออกไปต่างจังหวัดเพื่อทำกิจกรรมเอาท์ดอร์-แอดเวนเจอร์
แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่ทำเอาผู้ที่ติดตามวงการยานยนต์ต้องสูดปากก็คือการตั้งราคาจำหน่ายเพียง 7.79 แสนบาท ถูกกว่าคู่แข่งอย่าง Xpander Cross ถึง 1.1 แสนบาทเลยทีเดียว แต่ลำพังเพียงปัจจัยด้านราคาจะทำให้ XL7 ประสบความสำเร็จหรือไม่ เรามาชมจุดเด่น-จุดด้อยของรถยนต์รุ่นนี้กัน
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
จุดเด่น
1. รูปลักษณ์สวยงามลงตัว
ถึงแม้จะถูกพัฒนาต่อยอดจาก Ertiga แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า XL7 มีความโดดเด่นมากกว่า มีส่วนผสมลงตัวระหว่างความโมเดิร์น บึกบึน เฉียบคม และแฝงด้วยความสปอร์ตพรีเมียม ไฟหน้า LED มีเดย์ไลท์ ไฟตัดหมอกหน้า และไฟท้าย LED ซุ้มล้อติดตั้งสีดำเน้นความดุดัน ล้ออลูมิเนียมอัลลอยสีทูโทนขนาด 16 นิ้ว และมีราวหลังคาสำหรับบรรทุกสัมภาระเพิ่มเติมติดตั้งมาให้ด้วย
ภายในห้องโดยสารมีการออกแบบที่ทันสมัยเช่นกัน เส้นสายโค้งมนรับกับสันเหลี่ยมอย่างลงตัว พวงมาลัย 3 ก้านแบบขอบล่างตัดตรงให้อารมณ์สปอร์ต แถมยังมีการตกแต่งด้วยโครเมียมและคาร์บอนไฟเบอร์ ถือว่าสวยงามและน่าใช้มากทีเดียว ถูกใจพ่อบ้านคนรุ่นใหม่อย่างแน่นอน
2. ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกครบครัน
เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องโดยสารจะสะดุดตากับหน้าจอทัชสกรีนขนาด 10 นิ้วเป็นอันดับแรก นอกจากนี้ยังมีจอ LCD แสดงข้อมูลการขับขี่บนมาตรวัด ส่วนฟังก์ชั่นอื่น ๆ ก็เพียงพอต่อการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นระบบเชื่อมต่อบลูทูธ การเชื่อมต่อแอปเปิล คาร์เพลย์ และแอนดรอยด์ ออโต้ ปุ่มสตาร์ท คีย์เลส ช่องแอร์บนหลังคาสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง แผ่นกรองอากาศ และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น
3. ราคาจำหน่ายเอื้อมถึงได้ ทำให้ดูคุ้มค่า
ตามที่เรียนไว้ตั้งแต่ต้นว่า XL7 เคาะค่าตัวช่วงแนะนำไว้ที่ 7.79 แสนบาท อาจไม่ถูกมากนักถ้าเทียบกับรถที่ใช้พื้นฐานเดียวกันอย่าง Ertiga ที่มีค่าตัวเริ่มต้นหลัก 6 แสนบาทกลาง ๆ แต่เมื่อเทียบกับคู่แข่งโดยตรงอย่าง Xpander Cross แล้ว ทำให้ XL7 มีความคุ้มค่าขึ้นมาทันที ต้องรอชมกันต่อไปยาว ๆ ว่ากลยุทธ์การตั้งราคาแบบเชือดเฉือนเช่นนี้จะทำให้รถครอสโอเวอร์ของ Suzuki ประสบความสำเร็จหรือไม่
จุดด้อย
1. ขนาดตัวถังที่เล็กกว่าคู่แข่ง
มิติตัวถังของ XL7 มีขนาดเล็กกว่า Xpander Cross ทั้งในด้านความยาว ความกว้าง และความสูง รวมถึงระยะห่างจากพื้นด้วยซึ่ง XL7 อยู่ที่ 200 มม. ส่วน Xpander Cross มีมากถึง 225 มม. ซึ่งรุ่นหลังรองรับการขับขี่บนเส้นทางสมบุกสมบันมากกว่าแน่นอน นอกจากนี้ รูปลักษณ์ภายนอกของ XL7 ยังดูก้ำกึ่ง เหมือนไปไม่สุดทางระหว่างความสปอร์ตและความบึกบึน ต่างจาก Xpander Cross ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความแข็งแกร่งสมบุกสมบันอย่างเห็นได้ชัด
2. ระบบความปลอดภัยน้อยไปหน่อย
ระบบความปลอดภัยใน XL7 มีเพียงถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบเบรก ABS พร้อมระบบ EBD เสริมด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว กล้องมองภาพด้านหลังพร้อมเซ็นเซอร์เท่านั้น รถครอบครัวอย่าง XL7 ควรจะเสริมความปลอดภัยมากกว่านี้อย่างม่านถุงลมปกป้องผู้โดยสารตอนหลัง ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
2. มีรุ่นย่อยเดียว และราคาช่วงแนะนำต้องรีบตัดสินใจ
XL7 เปิดตัวออกมาเพียงรุ่นเดียว ไม่มีรุ่นย่อยอื่น ๆ ให้ลูกค้าได้พิจารณาเป็นทางเลือก ดังนั้น ลูกค้าก็อาจเปรียบเทียบกับ Ertiga หรือข้ามฟากไปที่คู่แข่งอย่าง Xpander Cross ขณะที่ราคาค่าตัวช่วงแนะนำอาจขยับขึ้นไปอีกหลักหมื่นบาทถ้าไม่รีบตัดสินใจ
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });