หากพูดถึงรถยนต์จีน หรือของจากประเทศจีนโดยรวมแล้ว เชื่อว่าหลายคนอาจเบือนหน้าหนี ด้วยภาพลักษณ์ที่ไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นในด้านคุณภาพ หรือการออกแบบ
แต่ในปัจจุบัน ต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมรถยนต์จีนเติบโตไปได้มากขึ้น ทั้งการร่วมมือกับต่างประเทศ หรือการพัฒนาเองก็ตาม
รถยนต์จีนก็สามารถทำรถยนต์ทางเลือกให้คนในประเทศได้ใช้ โดยเฉพาะรถหรูหราที่มีมากขึ้น เราจึงเลือกมาให้ดูกัน 5 คันที่น่าสนใจ สำหรับคนที่อยากดูดีแต่ไม่อยากกระเป๋าแบน
อ่านเพิ่มเติม ความท้าทายของผู้ผลิตรถยนต์จีนในการเปิดตลาดส่งออก
1. Zeekr 001
เดิมที Geely มีแบรนด์ Lynk & Co ไว้ทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอยู่แล้ว แต่ในเดือนที่ผ่านมามีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ พร้อมเปิดตัวรถยนต์รุ่นแรกในชื่อ Zeekr 001 โดยงานออกแบบทั้งหมดนั้นยกมาจากรถยนต์ต้นแบบ Lynk & Co ZERO Concept ที่เปิดตัวในปี 2020
ยกงานออกแบบทั้งหมดของ Lynk & Co ZERO Concept เอามาไว้ในคันนี้ ใช้เป็นไฟหน้าสองชั้น, ช่องลมหน้าและไฟท้ายยาวเชื่อมต่อกันตลอดแนว ส่วนความโดดเด่นคือตัวถัง Shooting Brake พร้อมประตูแบบไร้กรอบกระจก
โดยหากดูดี ๆ จะมีต้นแบบคือ Porsche Panamera Sport Turismo (ปอร์เช่ พานาเมร่า สปอร์ต ทัวริสโม่) ที่มีรูปร่างคล้ายกัน แตกต่างกันที่ Zeekr 001 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า แต่ปอร์เช่มีแค่เครื่องยนต์ธรรมดาและไฮบริดเท่านั้น
Zeekr 001 มีแบตเตอรี่ความจุ 110 kWh และมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 536 แรงม้า ขับเคลื่อนสี่ล้อ ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 4 วินาที ขับขี่เป็นระยะทางสูงสุดได้มากกว่า 700 กิโลเมตร มีอายุการใช้งานมากกว่า 2,000,000 กิโลเมตร
สำหรับราคาในประเทศจีน อยู่ที่ 281,000 RMB ตีเป็นเงินไทย 1,400,000 บาท ส่วน Porsche Panamera ไทย หากเป็นตัวถังเดียวกันตัวเริ่มต้นเป็น 4 E-Hybrid Sport Turismo มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 7,500,000 บาท
2. WEY Tank300
นอกจาก Haval (ฮาวาล) และ Ora (ออร่า) แล้ว ทาง Great Wall Motor (เกรท วอลล์ มอเตอร์) ยังมีแบรนด์ย่อยที่ทำออกมาเน้นความสมรรถนะการออฟโร้ด นั่นคือ WEY Tank300
นั่นจึงทำให้ Tank300 เป็น Land Rover แห่งจีนไปได้เลย เนื่องจากมีรูปทรงที่ย้อนยุค แต่ยังคงความบึกบึนและความหรูหราภายในไว้
สำหรับราคา Land Rover Defender มีราคารุ่นเริ่มต้นอยู่ที่ 6,300,000 บาท แต่ Tank300 รุ่นแพงที่สุดมีราคาเพียง 2,570,000 บาท
3. Hongqi H9
Hongqi H9 (2021 ฮองคี เอช9) นับเป็นรถระดับซูเปอร์พรีเมียมรุ่นแรกของจีนที่จะทำตลาดแดนอาทิตย์อุทัย
โดยกล่าวว่าจะนำมาแข่งขันกับยนตรกรรมจากยุโรปไม่ว่าจะเป็น Mercedes-Benz, BMW หรือแม้กระทั่ง Rolls-Royces กันเลยทีเดียว
Hongqi มีเป้าหมายส่ง H9 ออกทำตลาดญี่ปุ่นเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งมาร์เก็ตแชร์กับรถซีดานขนาดกลางสัญชาติยุโรปอย่างเช่น Mercedes-Benz E Class (เมอร์เซเดส เบนซ์ อี คลาส)
มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 รุ่น เริ่มต้นที่เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ พละกำลังสูงสุด 252 แรงม้าและเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบวี ขนาด 3.0 ลิตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ DCT แบบ 7 สปีด
โดยราคา Hongqi H9 อยู่ระหว่าง 6.1 – 10.9 ล้านเยนหรือประมาณ 1.7 – 3.1 ล้านบาทซึ่งใกล้เคียงกับที่ขายอยู่ในเมืองจีน หากเทียบกับ E Class ไทย จะเริ่มต้นที่ 3,190,000 บาท เท่ากับว่าหากซื้อ H9 รุ่นท้อป จะได้เพียง E-Class รุ่นล่างเท่านั้น
อ่านเพิ่มเติม Hongqi H9 ซูเปอร์พรีเมียมจากจีนจ่อลุยตลาดญี่ปุ่น
Xpeng P7
4. Xpeng P7/Nio ET7
จริง ๆ เบอร์ 4 นี้ขอรวม 2 คันไว้ด้วยกัน เนื่องจาก 2 คันนี้มีความคล้ายคลึงกับ Tesla Model S ทั้งคู่ อีกทั้งยังเป็นบริษัทสตาร์ทอัพเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าเหมือนกัน
โดย Tesla Model S ในจีน มีราคาเริ่มต้นที่ 800,000 หยวน หรือประมาณ 4 ล้านบาท แต่ Xpeng P7 มีราคาที่ 410,000 หยวนหรือ 2 ล้านบาทเท่านั้น แม้ว่า P7 มีกำลังเพียง 430 แรงม้าและแรงบิด 655 นิวตันเมตร น้อยกว่า Model S ที่มีมากถึง 825 แรงม้าและแรงบิด 1,300 นิวตันเมตร แต่เคลมว่ามีระยะมากกว่าที่ 706 กิโลเมตร
Tesla Model S
Nio ET7
ในส่วนของ Nio ET7 เองแม้จะเป็นรุ่นที่แพงที่สุดก็ยังมีราคาถูกกว่าที่ 2,600,000 บาท อีกทั้งยังมีระยะทางที่ไกลถึง 1,000 กิโลเมตรต่อการชาร์จ และยังมีสถานีเปลี่ยนแบตที่พร้อมให้บริการแล้วอีกด้วย
5. Beijing BJ80
คันนี้มองครั้งแรกอาจคุ้นหน้ากันทันที เพราะเขามีต้นแบบมาจาก Mercedes-Benz G-Class (เมอร์เซเดส-เบนซ์ จี-คลาส) นั่นเอง ซึ่งอันที่จริงแล้วเมอร์เซเดส เบนซ์ได้มีการจับมือของบริษัทแม่ของ Beijing คือ BAIC เพื่อให้ยืมเครื่องยนต์
แต่นอกจากภายนอกจะเหมือนแล้ว ใส้ในแทยไม่มีอะไรคล้ายเลย เพราะ G-Class นั้นใส่เครื่องยนต์ 4.0 ลิตร V8 เทอร์โบคู่ ให้กำลัง 585 แรงม้าและแรงบิด 850 นิวตันเมตร แต่ BJ80 รุ่นท้อปสุดใช้เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร V6 เทอร์โบ 280 แรงม้า แรงบิด 345 นิวตันเมตรเท่านั้น
โดยนี่เป็นตัวอย่างรถ 5 คันจากประเทศจีนที่ได้รับ "แรงบันดาลใจ" มาจากรถหลาย ๆ แห่ง แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดี
เนื่องจากแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการผลิตและคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ ออกมา รวมถึงบางคันยังทำรถที่ดี และถูกกว่ารถหรูที่ขายอยู่กันหลาย ๆ คันอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ก็เป็นเรื่องของความเชื่อมันในแบรนด์ ว่าถูกใจคันไหน มั่นใจกับสิ่งที่เราซื้อหรือไม่ เพราะอย่างไรก็ตาม เจ้าของเงินก็คือเราอยู่ดี
อ่านเพิ่มเติม เมื่อพี่จีนเล่นปล่อยรถเลียนแบบอย่าง Xianglong JSX500i ตัดหน้ารถต้นแบบ