การซื้อรถมือสองนั้น แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่หลายคนกลัว แต่ผู้คนอีกจำนวนมากก็นิยมชมชอบเนื่องจากความคุ้มค่า รถยนต์มือสองหลังจากออกจากโชว์รูมเพียงแค่วินาทีเดียว มูลค่าตลาดก็จะหายไปหลายสิบเปอร์เซ็น นั่นทำให้ผู้ที่งบประมาณจำกัดแต่อยากได้รถที่ดีมีคุณภาพ ก็ตัดสินใจเลือกรถมือสองแทนการซื้อรถยนต์ใหม่
บทความนี้เราจะไม่พูดถึงการเลือกซื้อรถยนต์มือสอง เนื่องจากนั่นคือสิ่งที่ต้องใช้ประสบการณ์ส่วนตัว ถ้าหากท่านไม่มั่นใจ เราแนะนำให้หาผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ หรือเคยมีประสบการณ์ในการดูรถมือสองมาก่อน
สิ่งที่บทความนี้จะเจาะจงลงไป คือสิ่งที่มีความเป็นสากลมากกว่า และเป็นสิ่งที่หลายคนมักจะมองข้าม หลังจากรับรถมือสองสุดสวยกลับมาที่บ้านแล้ว เราควรจะทำอะไรกับมันดี?
แรกสุด โอนรถเป็นชื่อของเราเองก่อนเลย
การซื้อรถมือสองที่ถูกต้อง เราจะได้รับ "ใบคู่มือจดทะเบียน" หรือเล่มฟ้า (เล่มเขียวสำหรับมอเตอร์ไซค์) ซึ่งในหน้าของเจ้าของรถคนล่าสุดจะต้องมีลายเซ็นเจ้าของรถกำกับไว้ พร้อมกับแบบคำขอการโอนรถที่เจ้าของเซ็นชื่อกำกับไว้เรียบร้อย รวมถึงสำเนาบัตรประชาชนและ ใบมอบอำนาจกรณีที่เจ้าของรถไม่ไปด้วย
ทั้งหมดนี้เรียกโดยรวมว่า "ชุดโอน" ให้เราขับรถเข้าไปยังจุดตรวจสภาพของสำนักงานขนส่งในเขตที่เจ้าของรถนั้นมีทะเบียนบ้านอยู่ (ในกรณีรถโอนข้ามจังหวัด สามารถทำที่ปลายทางได้ แต่จะต้องจดเปลี่ยนเลขทะเบียนใหม่เป็นจังหวัดปลายทาง) ก่อนที่จะดำเนินการโอนรถต่อไป เราแนะนำให้ทำสิ่งนี้เป็นสิ่งแรก ไม่ถือชุดโอนลอยเอาไว้ เนื่องจากบัตรประชาชนของเจ้าของรถที่ขายให้อาจจะหมดได้ถ้าเราเผลอลืมนานไป
ลำดับที่สอง ซื้อประกันภัยคุ้มครองถ้าหากยังไม่มี
คุณอาจจะคิดว่า รถยนต์ทุกคันต้องมีประกันคุ้มครองอุบัติเหตุอยู่แล้ว แต่อย่าชะล่าใจ เราสามารถโทรศัพท์ตรวจสอบการคุ้มครองประกันภัยภาคบังคับ หรือที่เรียกว่า "พรบ." และประกันภัยภาคสมัครใจ ได้กับทางบริษัทประกันภัยทุกแห่ง และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
ถ้าหากรถคันนี้ไม่มีประกันภัยภาคบังคับ เราก็สามารถติดต่อซื้อประกันภัยได้ทางโทรศัพท์ หรือจะไปที่สภาพตรวจสภาพรถยนต์เอกชน (ตรอ.) ก็จะมีประกันภัยของบริษัทต่าง ๆ ขายอยู่แทบทุกที่ เมื่อมีไว้ก็อุ่นใจขณะขับขี่มากกว่า
ลำดับที่สาม เป็นเจ้าของแล้ว มีประกันแล้ว ก็ซ่อมแซมตำหนิทุกจุด
รถมือสองนั้น ยิ่งอายุมากไปเท่าใด และเลขกิโลเมตรมากขึ้นเท่าใด ปัญหาตำหนิต่าง ๆ ก็จะมากขึ้นตามตัว ปัญหาเล็กน้อยเราอาจจะละเว้นไว้ได้ แต่ถ้าหากมีปัญหาเช่น ของเหลวรั่ว หรือลูกหมากช่วงล่างหลวม เราก็ควรที่จะแก้ไขในทันที (เราเดาว่าท่านตรวจสอบปัญหาต่าง ๆ ในขั้นตอนการดูรถไปแล้ว และต่อราคาตามสมควร)
การซื้อรถมือสองเราจึงควรที่จะจัดเตรียมงบประมาณในการซ่อมบำรุงเอาไว้ แต่เมื่อเราทำเสร็จครบถ้วนทุกสิ่งแล้ว รถคันนี้ก็จะสามารถใช้งานได้อย่างสบายใจไม่มีอะไรต้องกังวล ไม่ต่างจากรถใหม่เลยครับ
ลำดับที่สี่ เปลี่ยนของเหลว และอะไหล้สิ้นเปลือง ทุกอย่าง!
แม้ในรูปจะมีเพียงน้ำมันเครื่อง แต่การเปลี่ยนของเหลวนั้น เราหมายถึง การเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ ไล่น้ำมันเบรก น้ำมันพาวเวอร์ (รถสมัยใหม่อาจจะไม่มีแล้ว) น้ำมันคลัช (รถสมัยใหม่อาจไม่มีสิ่งนี้เช่นกัน) น้ำยาหล่อเย็น และน้ำมันเฟืองท้าย อันจะทำให้รถคันนี้สามารถใช้งานต่อไปได้อย่างไม่มีปัญหา
นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงอะไหล่สิ้นเปลือง อาทิเช่น กรองอากาศเครื่องยนต์ กรองอากาศในห้องโดยสาร หัวเทียน กรองน้ำมันเครื่อง ผ้าเบรก ยาง สายพานไทม์มิ่ง (รถในปัจจุบันไม่มีแล้ว) แล้วแต่รถแต่ละรุ่น
อ่านต่อ: 5 สิ่งที่คุณควรจะเปลี่ยน เมื่อซื้อรถมือสองมาใช้ ก่อนที่มันจะพังแบบไม่รู้ตัว
ลำดับที่ห้า ทำความสะอาดภายในครั้งใหญ่
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจุบันซึ่งภัยของโรค Covid-19 ยังคงอยู่ การทำความสะอาดภายในนั้น ก็แล้วแต่ความต้องการของท่าน อาจจะแค่ดูดฝุ่นพรมพื้น หรือถอดเบาะถอดพร้อมออกมาซักให้หมดกับร้านคาร์แคร์ที่ท่านชอบ
ท่านอาจจะคิดว่า ซื้อรถจากผู้ค้ารถยนต์มือสอง ก็ต้องทำความสะอาดมาแล้ว แต่สำหรับผู้ที่สนใจในเรื่อง Car Detailing ก็จะทราบดีว่า ยังไง ๆ ก็ต้องมาทำเองครับ ถึงจะสะอาดสะใจ ใช้งานได้แบบไม่กังวลใจ
ทำทุกอย่างเสร็จแล้ว ก็ขับได้อย่างสบายใจหมดห่วง
รถยนต์มือสองเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการรถดีราคาประหยัด แต่เราก็ต้องอาจจะมาทำอะไรต่อบ้าง ลิสต์ที่เราไล่เรียงลำดับไปนี้เป็นตัวอย่างง่าย ๆ ที่ทุกท่านสามารถทำตามได้ และควรจะทำเมื่อซื้อรถมือสองมา
การดูแลรถยนต์นั้น จะทำให้แม้ว่ารถของเราอาจจะเก่ากว่า 10 ปีเข้าไปแล้ว แต่ก็จะยังดูดี และใช้งานได้อย่างเป็นเยี่ยม เทียบเท่ากับรถใหม่ได้เลยทีเดียว