มาดูกันที่รูปลักษณ์ภายนอกกันก่อน C-HR ใหม่มีลุคที่ดูทันสมัยและเตะตามากขึ้นด้วยการใช้สีฮีโร่ สีน้ำเงิน Nebula Blue ตัดกับหลังคาสีเงิน นอกจากนี้ยังมีสีดำ Attitude Black Mica กับหลังคาสีเงินให้ลูกค้าได้เลือกสรรกันอีกด้วย นับเป็นครั้งแรกที่ Toyota นำเสนอสีหลังคาเงิน silver ในรถรุ่นนี้
หากคุณผู้อ่านที่สนใจการตกแต่งภายนอกทูโทนแบบหลังคาสีดำก็ยังมีให้เลือกด้วยเช่นกัน โดยตัวถังจะมีทั้งสีขาวมุกใหม่ Platinum White Pearl สีแดง Premium Red และสีเงิน Metal Stream Metallic ตัดกับหลังคาสีดำ
ภายในห้องโดยสารยังคงครบครันอุปกรณ์อำนวยความสะดวก หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB / Bluetooth ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ (Auto Brake Hold) โหมดการขับขี่ 3 แบบ EV Mode ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในความเร็วต่ำ / Sport Mode เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ / Eco Mode ปรับการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสาร nanoe ช่วยขจัดกลิ่นและยับยั้งเชื้อโรค
ขณะที่ระบบความปลอดภัยมีฟังก์ชั่นสุดล้ำเพิ่มเติมเข้ามา อย่างระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ All-Speed Dynamic Radar Cruise Control with Lane Tracing Assist สามารถปรับลดความเร็วจนถึงจุดหยุดนิ่งตามรถยนต์คันหน้า และจะเร่งความเร็วกลับสู่ระดับที่ตั้งไว้เมื่อไม่มีรถขวางหน้า พร้อมระบบ Lane Tracing Assist ที่ช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน
นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยก่อนการชน Pre-Collision System ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน Lane Departure Alert with Steering Assist พร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ ตลอดจนระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High Beams
C-HR ยังมีระบบเชื่อมต่อ T-Connect by TOYOTA สามารถใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่นมือถือ มีทั้งฟังก์ชั่น Find My Car ระบบติดตามการโจรกรรม (TheftTrack) ระบบช่วยเหลือฉุกเฉิน (SOS) ระบบกำหนดขอบเขตปลอดภัย (Geo-fencing) รวมถึงการแจ้งเตือนการบำรุงรักษา พร้อมแสดงข้อมูลรถและการขับขี่ และ บริการผู้ช่วยส่วนตัว