จากที่เราได้รายงานข่าวคราวความเคลื่อนไหวของ 2021 Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) ว่าเตรียมที่จะเปิดตัวในสหรัฐอเมริกา หลังจากที่พวกเขาปล่อยทีเซอร์ให้เห็น และยังมีการนำรถออกมาวิ่งทดสอบจนโดนถ่ายสปายชอตได้ในช่วงก่อนหน้านี้
และล่าสุด แม้จะยังไม่ประกาศราคาจำหน่ายและเวลาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่ Toyota (โตโยต้า) สหรัฐอเมริกา ก็นำรถรุ่นใหม่ล่าสุดของพวกเขาออกมาแสดงอย่างเป็นทางการ โดยที่ภาพลักษณ์ภายนอกและภายในของรถนั้น ไม่ได้แตกต่างจากที่ขายในไทยนัก
แต่รายละเอียดทางด้านเทคนิคถือว่าแตกต่างกันมาก ทั้งการใช้เครื่องยนต์ที่สมรรถนะสูงกว่า แต่ยังไม่มีออพชั่นไฮบริด ตัวรถมาพร้อม 3 รุ่นย่อยที่มีอุปกรณ์แตกต่างกันออกไป และแน่นอนว่า มีการจัดเต็มอุปกรณ์ความปลอดภัยและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมาแบบครบครัน
อ่านเพิ่มเติม: All-New 2020 Toyota Corolla Cross เปิดตัวในไทย 4 รุ่นย่อย เคาะราคาเริ่มต้น 9.89 แสนบาท
Highlight Toyota Corolla Cross US version
- เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร
- กำลังสูงสุด 169 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 203 นิวตันเมตร
- มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือก
- ถุงลมนิรภัยมากถึง 9 ตำแหน่ง
- เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถด้านหลังขณะถอย
- ระบบเบรกมือไฟฟ้าและ Auto Hold
เลือกใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรที่แรงกว่าในไทย
โตโยต้า ยูเอสเอระบุว่าเครื่องยนต์ที่พวกเขาเลือกมาทำตลาดในการเปิดตัวครั้งแรกจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ปิดโอกาสในการทำตลาดเครื่องยนต์อื่น ๆ ที่จะตามมาในปี 2656 ซึ่งก็มีการคาดการณ์ว่าน่าจะหนีไม่พ้นเครื่องยนต์ไฮบริดสักรุ่นที่จะเปิดตัวตามมา
เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรของโตโยต้า มาพร้อมกำลังสูงสุด 169 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 203 นิวตันเมตร ซึ่งแรงกว่าเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรและเครื่องยนต์ไฮบริดในประเทศไทยพอสมควร การส่งกำลังเป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติแบบซีวีที ซึ่งเริ่มใช้กันอย่างแพร่หลายในรถหลายรุ่น
สิ่งที่เหนือกว่าในประเทศไทยก็คือการที่โคโรลล่า ครอส ในประเทศสหรัฐอเมริกานั้น มีทางเลือกของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือกใช้งานได้ ซึ่งระบบจะสามารถแบ่งกำลังไปที่ล้อหลังได้สูงสุด 50% ด้วยระบบ Dynamic Torque Control ซึ่งเป็นออพชั่นที่ประเทศในแถบอาเซียนไม่ได้ใช้
รูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้แตกต่างจากในไทย
ตัวรถถูกพัฒนาบนโครงสร้างตัวถัง TNGA เหมือนในประเทศไทย มาพร้อมขนาดของตัวถังที่เท่ากัน โดยมีความกว้าง 1,825 มิลลิเมตร ยาว 4,460 มิลลิเมตร สูง 1,646 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,640 มิลลิเมตร โดยทำตลาดระหว่าง Toyota C-HR (โตโยต้า ซี-เอชอาร์) และ Toyota RAV4
การเล่นสีของตัวถังในตำแหน่งต่าง ๆ ของรถนั้นไม่ได้มีอะไรแตกต่างกับเวอร์ชั่นจำหน่ายในประเทศไทย รุ่นสแตนดาร์ดอย่างรุ่น L จะมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และหากเป็น 2 รุ่นท็อปอย่าง LE และ XLE จะได้รองเท้าเบอร์ใหญ่ขึ้นเป็น 18 นิ้วมาประจำการ
ห้องโดยสารที่อุปกรณ์แตกต่างไปตามเลเวล
ในห้องโดยสารยังเน้นการเล่นสีครีมสลับกับสีเทาเข้ม แต่มีการใช้งานอุปกรณ์ที่แตกต่างกันออกไป รุ่นเริ่มต้นจะมาพร้อมระบบปรับอากาศแบบธรรมดา หน้าจอแสดงผลด้านหน้าขนาด 4.2 นิ้ว พร้อมพหน้าจอกลางขนาด 7 นิ้ว ที่รองรับแอปเปิล คาร์เพลย์ แอนดรอยด์ ออโต้ และอเมซอน อเลกซ่า
รุ่นกลางได้ปรับเพิ่มเป็นพวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง เพิ่มความหรูหราขึ้นมาอีกนิด พร้อมติดตั้งระบบชาร์จโทสศัพท์มือถือแบบไร้สาย ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ และหน้าจอแสดงผลตรงกลางคอนโซลที่มาพร้อมขนาดที่ใหญ่ขึ้นเป็น 8 นิ้ว เพิ่มความสะดวกสบายให้กับเจ้าของรถได้ใช้งาน
แต่หากยังหรูหราไม่พอ รุ่นท็อปจะมาพร้อมเบาะซอฟเท็กซ์ ที่มาพร้อมระบบอุ่นเบาะ พร้อมตำแหน่งที่นั่งคนขับที่ปรับด้วยไฟฟ้าได้ 10 ทิศทาง ระบบปรับอากาศแบบดูอัลโซน พร้อมด้วยกระจกมองหลังแบบตัดแสง และเห็นทุกข้อมูลที่ชัดเจนเพิ่มขึ้นด้วยจอแสดงผลด้านหน้าคนขับ 7 นิ้ว
ระบบครบครันเหนือชั้นกว่ารุ่นที่ขายในไทย
แม้ว่า Toyota Corolla Cross ที่ขายอยู่ในประเทศไทย จะเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ให้ระบบความปลอดภัยสูงที่สุดคันหนึ่งในคลาส ด้วยถุงลมนิรภัย 7 ลูก ระบบช่วยเหลือด้านการขับขี่มากมายที่ทำให้รถปลอดภัยที่สุด รวมไปถึงระบบ Toyota Safety Sense ที่ค่ายรถเบอร์หนึ่งของโลกแสนจะภูมิใจ
เวอร์ชั่นอเมริกันนั้นเหมือนการอัพเกรดระบบเหล่านี้ไปอีกขั้น ระบบอุปกรณ์มาตรฐานของรถประกอบไปด้วย ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบเรดาร์ในทุกย่านความเร็ว ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน รวมถึงระบบเตือนก่อนการชน ซึ่งทำให้รถนั้นมีความปลอดภัยในระดับที่เหนือชั้นอยู่แล้ว
ใน 2 รุ่นล่าง ยังมาพร้อมระบบเตือนรถยนต์ในจุดบอดและระบบเตือนรถยนต์ด้านหลังเมื่อทำการถอย แต่หากใจถึงเล่นตัวท็อปไปเลย ก็จะได้ระบบช่วยจอดที่ด้านหน้าและด้านท้าย รวมถึงระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ และที่สำคัญ เวอร์ชั่นอเมริกันมาพร้อมเบรกมือไฟฟ้าและระบบ Auto Hold ด้วยนะ