2020 Honda CR-V โฉมไมเนอร์เชนจ์เปิดตัวแบบเงียบ ๆ พร้อมโชว์ตัวที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2020 โดยได้รับการยกระดับฟังก์ชั่นใหม่หลายส่วน หวังกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ยอดขายในกลุ่มนี้กลับคืนจาก MG HS

ลูกค้าที่กำลังมองหารถเอสยูวีขนาดคอมแพ็กต์และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแรงบิดสูง ๆ สักคันย่อมต้องนำ 2020 CR-V ใหม่รุ่นท็อปไปเปรียบเทียบกับ 2019 Mazda CX-5 รุ่นดีเซลตัวรองท็อปซึ่งมีราคาห่างกันหลักไม่กี่หมื่นบาทเท่านั้น เราจึงขอนำสเปกของรถทั้งสองรุ่นมาเปรียบเทียบกันชัด ๆ ว่ามีดีมีเด่นอะไรบ้าง

มิติตัวถัง

มิติตัวถังมีขนาดใกล้เคียงกันอย่างมาก ทั้งความยาว ความกว้างและความสูงแตกต่างกันไม่กี่มิลลิเมตร แต่จุดสังเกตคือระยะห่างจากพื้นของ CX-5 ที่เตี้ยกว่าและยังมีระยะฐานล้อยาวกว่า CR-V ซึ่งสะท้อนออกมาเป็นรูปทรงของรถเอสยูวี Mazda ที่ดูสปอร์ตปราดเปรียวกว่าตามสไตล์ KODO

ระบบขับเคลื่อน

ถึงแม้จะใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ เทอร์โบเหมือนกัน แต่ขุมพลังของ CX-5 มีความจุมากกว่า จึงไม่น่าแปลกใจที่ตัวเลขแรงม้าและแรงบิดจะสูงกว่า CR-V พอสมควร ขณะเดียวกัน CX-5 ขึ้นชื่ออยู่แล้วในด้านอัตราเร่งและสมรรถนะการขับขี่ที่สนุกสนานเร้าใจตามแบบฉบับของรถยนต์ Mazda

รูปลักษณ์และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
หน้าตาภายนอกของ 2020 CR-V ได้รับการปรับดีไซน์เพิ่มความทันสมัย ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED มีไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential ไฟเดย์ไลท์ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวและพับเก็บอัตโนมัติควบคุมด้วยรีโมท ่บนหลังคามีซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา บั้นท้ายติดตั้งสปอยเลอร์หลัง เสาอากาศแบบครีบฉลาม ส่วนล้ออัลลอยใช้ขนาด 18 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีดำ ชุดตกแต่งภายในมีลายไม้และสีดำเปียโนแบล็ก วัสดุหุ้มเบาะและพวงมาลัยเป็นหนังแท้และสังเคราะห์ รุ่นท็อปรองรับผู้โดยสารด้วยเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง

ฟาก CX-5 ซึ่งได้รับการปรับโฉมเมื่อปีที่แล้วมาพร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED ไฟเดย์ไลท์แบบ LED Signature ไฟตัดหมอกและไฟท้าย LED วัสดุตกแต่งเสาประตูด้านนอกเป็นสีดำเปียโนแบล็ก มีสปอยเลอร์หลังและเสาอากาศแบบครีบฉลาม ท่อไอเสียคู่แบบสปอร์ตและปลายท่อโครเมียม และล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว

ภายในตกแต่งเบาะหนังสีดำ ด้ายสีน้ำตาล  พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนังสีดำ ส่วนเพดานเป็นสีเทาอ่อน โครงสร้างเบาะเป็นแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง

ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกเด่น ๆ ของ Honda CR-V รุ่น DT-EL มีดังนี้

- ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรี

- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ และระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ

- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวา

- ช่องปรับอากาศตอนหลัง และสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 3

- อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)

- เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลัง 4 ทิศทาง และระบบบันทึกตำแหน่งเบาะ

- เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง

- ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับแอปเปิล คาร์เพลย์ พร้อมระบบนำทางเนวิเกเตอร์

- รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth)   

- ช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 4 ตำแหน่ง

- ระบบเชื่อมต่อ Honda Connect

- ลำโพง 4 + 4 (ทวิตเตอร์)

ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกเด่น ๆ ของ Mazda CX-5 รุ่น Skyactiv-D XDL มีดังนี้

- ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า

- หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกหน้า

- มาตรวัดความเร็วดิจิทัล พร้อมจอแสดงผล 7 นิ้ว

- เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะ

- เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง

- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติดูอัลโซน พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

- ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะและสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ

- ช่อง USB สำหรับชาร์จไฟ 2 ช่อง

- ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V 3 ตำแหน่ง

- หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับแอปเปิล คาร์เพลย์

- ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ช่องและช่อง AUX 2 ช่อง

- ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth และระบบสั่งการด้วยเสียง

- ระบบเครื่องเสียง Bose ลำโพง 10 ตำแหน่ง

ระบบความปลอดภัย
ระบบความปลอดภัยเด่น ๆ ของ Honda CR-V รุ่น DT-EL มีดังนี้

- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่งประกอบด้วยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านนิรภัย

- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)   

- ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS)      

- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKAS)   

- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (RDM with LDW)   

- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)        

- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (ACC with LSF)

- ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor) 

- ระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย (MA-EPS)        

- ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)     

- ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ (Agile Handling Assist)   

– ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)

- กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ    

ระบบความปลอดภัยเด่น ๆ ของ Mazda CX-5 รุ่น Skyactiv-D XDL มีดังนี้

- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่งประกอบด้วยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านนิรภัย

- ระบบแสดงภาพ 360 องศารอบทิศทาง

- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM)

- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)

- ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ (MRCC)

- ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (SBS)

- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance

- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง (SCBS-R)

- ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (LDWS)

- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LAS)

- ระบบช่วยเตือนผู้ขับเหนื่อยล้า (DAA)

- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HLA)

สำหรับระบบความปลอดภัยอื่น ๆ ทั้งสองรุ่นมีครบครัน ทั้งระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ระบบเสริมแรงเบรก และกระจายแรงเบรก ตลอดจนระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวและป้องกันการลื่นไถล หากเปรียบเทียบกันแล้วถือว่าระบบเซฟตี้ใกล้เคียงกันมาก ด้าน CR-V จัดเต็มด้วยระบบ Honda Sensing เป็นครั้งแรก ขณะที่ CX-5 มีระบบแสดงภาพ 360 องศารอบทิศทางและระบบหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลังเป็นไฮไลท์ชูโรง

ราคาจำหน่าย
Honda CR-V รุ่น DT-EL ราคา 1,759,000 บาท

Mazda CX-5 รุ่น Skyactiv-D XDL ราคา 1,790,000 บาท

สรุป
2020 Honda CR-V มีราคาจำหน่ายย่อมเยากว่า 2019 Mazda CX-5 อยู่ประมาณ 3 หมื่นบาทเท่านั้น ซึ่งไม่ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญเมื่อเทียบกับค่าตัวรถที่เฉียดใกล้หลัก 1.8 ล้านบาท ดังนั้น คุณสมบัติตัวรถ รูปลักษณ์ และแบรนด์จะกลายเป็นเครื่องชี้วัดว่าผู้บริโภคจะเลือกจับจองรุ่นใด

CR-V เป็นแชมป์เก่าเจ้าตลาดเอสยูวีคอมแพ็กต์ในปี 2019 และคาดว่าการปรับไมเนอร์เชนจ์ล่าสุดนี้จะสามารถดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มครอบครัวคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์จากแบรนด์ชั้นนำหรือคนที่ต้องการเป็นเจ้าของรถยนต์แบบ “เพลย์เซฟ” ขับขี่ง่าย-ขายต่อสะดวก และแน่นอนว่า CR-V คงไม่พลาดที่จะรักษาตำแหน่งผู้นำเซกเมนท์ไว้ได้อีกครั้ง

ขณะที่ CX-5 คือตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการความแตกต่าง รูปลักษณ์สวยงามที่สามารถพูดได้ว่ามีความโฉบเฉี่ยว เรียบหรูและหล่อเหลาที่สุดรุ่นหนึ่งในระดับเดียวกัน ขณะเดียวกัน สมรรถนะการขับขี่ก็ให้อารมณ์สปอร์ตมากกว่าด้วยขุมพลังที่แรงเหนือชั้นที่สุดในกลุ่มนี้