จากที่ก่อนหน้านี้ AutoFun Thailand เคยนำเสนอถึงการแก้ไขปัญญาเซมิคอนดัคเตอร์ขาดตลาดทั่วโลกของ Volkswagen (โฟล์กสวาเกน) ด้วยการถอดหน้าจอระบบอินโฟเทนเมนต์ออกไปเสียจากรถรุ่นใหม่ที่ทำตลาด ทำให้เกิดคำถามว่าควรหรือไม่นั้น

ล่าสุด ดูเหมือนว่าแนวทางดังกล่าวจะเริ่มได้รับการพิจารณาจากค่ายรถรายใหญ่หลาย ๆ รายเช่นกัน เพื่อที่จะสามารถผ่านพ้นสถานการณ์เหล่านี้ไปได้ เนื่องจากเริ่มมีรายงานว่ารถยนต์ที่ผลิตออกมาใหม่ ต้องจอดทิ้งไว้เฉย ๆ นับหมื่นคันจากปัญหาที่เกิดขึ้น

Ford (ฟอร์ด) และ Volvo (วอลโว่) เป็นผู้ผลิตรถยนต์ 2 รายล่าสุดที่พิจารณาในการออกรุ่นย่อยใหม่ที่มีฟังชั่นส์ที่ลดลง หรือมีกรปรับลดฟีเจอร์บางส่วนลง ซึ่งแม้จะเป็นการเริ่มต้นในยุโรป แต่หากทำแล้วได้ผล ก็อาจจะเห็นการแพร่ออกไปทั่วโลกในอนาคต

อ่านเพิ่มเติม: แบบนี้ก็ได้หรอ? Volkswagen ตัดหน้าจอแก้ปัญหาชิปขาด หวังว่า Toyota-Honda คงไม่ทำตาม

Ford ปรับลดระบบใน Puma

Ford Puma (ฟอร์ด พูม่า) ครอสโอเวอร์ขนาดกลางของค่าย ได้ทำการปรับลดชิ้นส่วนเซมิตอนดัคเตอร์ในรุ่นเริ่มต้นใหม่ และทำให้มีฟังชั่นส์บางอย่างที่ขาดหายไปจากปกติ โดยเฉพาะในเรื่องของฟีเจอร์ความปลอดภัยมากมายที่เคยติดตั้งมาในรถก่อนหน้านี้

ระบบที่หายไปนั้น ประกอไปด้วย ระบบเปิดไฟสูงอัตโนมัติ เซนเซอร์ถอยจอด ระบบรักษาตัวรถให้อยู่ในเลน ระบบเตือนเมื่อรถออกจากเลน ระบบเตือนการชนด้านหน้า พร้อมระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ รวมไปถึงระบบตรวจจับยานพาหนะและคนเดินถนน

การปรับลดฟังชั่นส์ในครั้งนี้ ส่งผลให้ราคาจำหน่ายของรถนั้นถูกลงไปกว่ารุ่นล่างสุดเดิมถึง 900 ปอนด์ (มากกว่า 4 หมื่นบาท) และทำยังทำให้ลูกค้านั้น สามารถรับรถได้เร็วขึ้นจากเดิม โดยระบุว่าจะใช้เวลารอราว 1-2 เดือนเท่านั้น ที่สามารถรับรถได้ทันที

Volvo ก็ลดอุปกรณ์ใน XC60 เหมือนกัน

Volvo XC60 (วอลโว่ เอ็กซ์ซี60) ก็เป็นรถอีกรุ่นที่ได้รับการยืนยันว่าจะมีการปรับลดอุปกรณ์บางส่วนลงไปเช่นกัน โดยส่วนที่หายไปจะประกอบด้วย ระบบเตือนรถยนต์ในจุดอับสายตา พร้อมระบบช่วยคุมพวงมาลัย ระบบเตือนรถตัดหน้าพร้อมช่วยเบรก

รวมไปถึงระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ด้านหลังขณะถอย ซึ่งเป็นฟังชั่นส์ระดับสูงที่่ติดตั้งมาให้ ขณะที่ฟังชั่นส์ความปลอดภัยพื้นฐานอื่น ๆ จะไม่ได้รับผลกระทบจากแผนงานครั้งนี้ และยืนยันว่า การลดฟีเจอร์บางส่วนจะไม่ส่งผลกับมาตรฐานความปลอดภัย

วอลโว่ยืนยันว่าระบบพื้นฐานที่ติดตั้งในตัวรถนั้นเพียงพอและทำให้ยังผ่านการทดสอบการชนที่เรตติ้งเดิม โดยพวกเขาจะทำการติดต่อลูกค้าว่าต้องการรับรถที่มีฟังชั่นส์น้อยลง หรือจะรออุปกรณ์ทุกอย่างให้ครบ แต่ไม่แน่ใจว่าจะต้องรอนานขนาดไหน

ผลกระทบที่มีต่อผู้บริโภค

แน่นอนว่าแม้จะเป็นเพียงการตัดสินใจเพื่อแก้ไขสถานการณ์และปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า แต่ก็ต้องยอมรับว่า ในตลาดที่มีมารตรฐานด้านความปลอดภัยอันเข้มงวดนั้น หลาย ๆ องค์กรก็ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับมาตรฐานของผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่นี้

ยกตัวอย่างเช่น ฟอร์ด พูม่า ที่เคยเต็มเปี่ยมไปด้วยอุปกรณ์หลากหลายด้านความปลอดภัยนั้น พวกเขาเคยคว้า 5 ดาวเต็มมาแล้วจากการทดสอบการชนของยุโรป ซึ่งยังไม่มีการระบุว่า เมื่อมีการถอดอุปกรณ์ทั้งหลายออกไปแล้ว คะแนนที่ว่านั้นเหลืออยู่เท่าใด

ฟอร์ดนั้นระบุชัดเจนในการซื้อขายรถรุ่นนี้ออกไลน์ว่า รถยนต์รุ่นพิเศษนี้ไม่มีอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยที่จะทำให้พวกเขาผ่านการทดสอบการชนระดับ 5 ดาว อย่างไรก็ตาม แผนงานนี้คงใช้ได้ไม่นาน เพราะบางระบบจะกลายเป็นอุปกรณ์บังคับในปี 2565

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มของการที่ค่ายรถจะต้องเร่งปรับตัวอย่างต่อเนื่องนั้นจะมีให้เห็นอย่างแน่นอน เพราะดูจากรายงานการผลิตรถยนต์ทั่วโลกก็เริ่มได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากการขาดแคลนชิปในครั้งนี้ ไม่ว่าจะรายเล็กหรือรายใหญ่ก็ไม่รอด

นอกจากนี้ เริ่มมีรายงานว่ารถยนต์ที่ผลิตในส่วนอื่น ๆ เสร็จเรียบร้อยก็ไม่สามารถออกจากสายการผลิตได้ ทำให้เชื่อว่าค่ายรถเองก็ต้องหาทางออก และผลกระทบดังกล่าวที่มีอยู่ทั่วโลก จะทำให้ตลาดรถยนต์ทั่วโลกมีแนวโน้มและทิศทางที่ไม่แตกต่างกัน