หลาย ๆ คนอาจจะบอกว่ามันก็ทำไม่ได้ยากนี่ สำหรับการเป็นรถยนต์นำเข้าแบบสำเร็จรูปทั้งคันที่จะเข้ามาทำตลาดเพื่อแข่งขันกับคู่แข่ง แต่สิ่งที่อาวดี้เหนือไปอีกขั้นก็คือการทำราคาจำหน่ายรถยนต์นำเข้าหลายรุ่นให้เทียบเคียงกับคู่แข่งแบบไม่เป็นรอง
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการสนับสนุนจากอาวดี้ เอจี เองที่ดูเหมือนว่ายังพอมีเรี่ยวแรงในการให้กับซัพพอร์ตทางด้านราคาจำหน่าย และทำให้ราคาของ Audi RS4 Avant (อาวดี้ อาร์เอส4 อวานต์) ตัวแรงสุดเฉี่ยวคันนี้ สามารถยืนราคาเอาไว้ได้ที่ 5.899 ล้านบาท
แน่นอนว่าถ้าเทียบกับคู่แข่งที่ประกอบในประเทศ ราคาพวกเขาอาจจะแพงกว่า แต่ความโดดเด่นของรถ สมรรถนะที่ได้มาและของเล่นที่มาเแบบเหนือ ๆ ก็อาจจะทำให้ลูกค้าที่ไม่ได้มองเรื่องราคาเป็นหลัก ปวดหัวเอาเรื่องเหมือนกันเวลาตัดสินใจ
ไฮไลท์สำหรับ Audi A4 Avant
- เครื่องยนต์สมรรถนะสูง 450 แรงม้า 600 นิวตันเมตร
- อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 4.1 วินาที
- การตกแต่งภายนอกรอบคันด้วยชุดแต่ง RS
- ห้องโดยสารตกแต่งพิเศษ อุปกรณ์ครบครัน
- ระบบช่วยเหลือด้านการขับและความปลอดภัยพอตัว
ที่ดีที่สุดคือการขับขี่ที่สนุกสนานและปลอดภัย
จุดขายในการทำตลาดรถยนต์กลุ่มสมรรถนะสูงของอาวดี้่มาโดยตลอด ก็คือการผสานงานของเครื่องยนต์สมรรถนะสูง ระบบส่งกำลังที่ยอดเยี่ยม ช่วงล่างแบบขับเคลื่อนสี่ล้ออันลือชื่อ ที่หากอยู่กับผู้ขับที่คุมรถคันนี้ได้ ก็เป็นการผสานงานที่สมบูรณ์แบบ
อาวดี้ เอ4 อวานต์ มาพร้อมรูปทรงตัวถังแบบวากอน 5 ประตู ซึ่งไม่มีคู่แข่งรุ่นใดในตลาดที่นำเสนอรูปทรงของรถแบบดังกล่าว ซึ่งเอาจริง ๆ นอกเหนือจากอรรถประโยชน์ด้านการบรรทุกสัมภาระเพิ่มแล้ว ยังเป็นรถที่ให้การกระจายน้ำหนักที่ค่อนข้างดี
เครื่องยนต์นั้นเหนือชั้นด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม การออกตัว การเร่งแซงนั้นทำได้ด้วยการกดคันเร่งตามความต้องการ เว้นแต่ต้องการการควบคุมแบบไร้ที่ติ ก็สามารถเลือกโหมดขับขี่และใช้แพดเดิลชิฟท์ช่วยในการควบคุมรถคันนี้ได้ในทุกสถานการณ์
ช่วงล่างเซตอัพมาแบบรถสปอร์ตที่ให้อาการตึงตังเล็กน้อย ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของพื้นผิวถนนที่ค่อนข้างไวและเก็บอาการของรถได้ค่อนข้างดี สามารถใช้งานในเมืองได้ดี ออกเดินทางไกลได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงความเตี้ยของรถเท่าไรนัก
เสียงของเครื่องยนต์นั้นครางกระหึ่มกึกก้องตั้งแต่กดปุ่มสตาร์ท เรียกได้ว่าเป็นรถที่กระตุ้นอะดรีนาลีนในการขับขี่ได้เป็นอย่างดี และการตอบสนองตั้งแต่กดคันเร่งไปถึงย่านความเร็วสูงนั้นทำได้อย่างเร้าใจ และรู้สึกได้ถึงความปลอดภัยตลอดทั้งคัน
ภายนอกเน้นอรรถประโยชน์แบบพ่อบ้านขาซิ่ง
การออกแบบห้องโดยสารภายนอกนั้นพัฒนามาบนโครงสร้างตัวถังของอาวดี้ เอ4 อวานต์ ที่เน้นในเรื่องของอรรถประโยชน์พื้นฐานแบบรถวากอน ที่ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับคู่แข่งในเซกเมนต์ใกล้เคียงที่เป็นรถยนต์ซีดานหรือคูเป้ไปเลย
การตกแต่งภายนอกเน้นการเล่นสีดำมันตัดกับสีของตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นที่ตำแหน่งของโลโก้ด้านหน้า-หลัง กระจังหน้า ชุดกระจกมองข้าง กาบกันชนและชายกาบประตูทั้งหมด พร้อมติดตั้งโลโก้ RS4 ที่กระจังหน้าและฝากระโปรงท้ายอย่างชัดเจน
ล้ออัลลอยลายสปอร์ตแบบ 5 ก้าน ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางรันแฟลต ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ทำการเปลี่ยนคาลิปเปอร์เบรกเป็นสีแดงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และทำให้ตัวรถมีรูปลักษณ์ที่มีขนาดเตี้ยลงจากรุ่นมาตรฐานและดูดุดันมากขึ้น
หลังคาพาโนรามิกซันรูปขนาดใหญ่ ที่เปิดกว้างได้ถึงตำแหน่งกึ่งกลางห้องโดยสาร ติดตั้งแร็คหลังคาสีเทา พร้อมด้วยเสาอากาศแบบครีบฉลาม มาพร้อมสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ พร้อมตำแหน่งของไฟเบรกดวงที่ 3 ที่ส่องสว่างในทุกสภาพอากาศ
โดยรวมแล้ว แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงภายนอกไม่มากนัก ตามที่หลาย ๆ คนอาจจะบอกว่าไม่แตกต่างกันกับเอ4 อวานซ์ธรรมดา แต่หัวใจของการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงอยู่ที่เครื่องยนต์ที่ได้รับการติดตั้งมา เพื่อเอาชนะรถทุกคันบนท้องถนนต่างหาก
มิติตัวถัง Audi RS4 Avant |
กว้าง |
1,866 มิลลิเมตร |
ยาว |
4,782 มิลลิเมตร |
สูง |
1,414 มิลลิเมตร |
ระยะฐานล้อ |
2,826 มิลลิเมตร |
ปริมาตรที่เก็บสัมภาระ |
495-1,495 ลิตร |
เครื่องยนต์ดุดัน ตอบสนองทันใจ
อาวดี้เลือกใช้เครื่องยนต์ทีเอฟเอสไอมาติดตั้งให้กับรถคันนี้ เพื่อให้ได้สมรรถนะที่เหนือชั้นกว่ารถยนต์ของคู่แข่งในคลาส ด้วยขนาดของเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่า รีดแรงม้าและแรงบิดได้เหนือกว่า ทำให้ส่งกำลังไปยังล้อทั้งสี่อย่างราบรื่นบนท้องถนน
เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ ขนาด 2,894 ซีซี. มาพร้อมเทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 450 แรงม้าที่ 5,700–6,700 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตรที่ 1,900–5,000 รอบต่อนาที ซึ่งทั้งแรงม้าและแรงบิด เหนือกว่ารถยนต์ของคู่แข่งพอสมควร
การส่งกำลังเป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติทิปทรอนิก 8 จังหวะ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อควอตโตรอันลือชื่อ ถังน้ำมันที่ติดตั้งมามีความจุ 58 ลิตร ตามสเปกระบุว่าเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 4.1 วินาที และล็อคความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
โหมดการขับขี่ที่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน เอาจริง ๆ ช่วงที่ผมนำมาทดสอบก็จะวน ๆ อยู่แถว ๆ โหมด Auto มีแอบแวบไป Sport บ้างบางที โดยตัวรถนั้นติดตั้งมาตรวัดสำหรับการทดสอบเข้ามาให้หลายโหมดให้ลองเลือกใช้งานกันได้
ในการทดลองขับขี่จริงนั้น เราสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 2.74 วินาที พร้อมทั้งทำ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 4.80 วินาที ซึ่งอาจจะมากกว่าที่อาวดี้เคลมมาเล็กน้อย ซึ่งขึ้นกับสถานที่ของการทดสอบที่แตกต่างกันไป
รายละเอียดทางเทคนิค |
เครื่องยนต์ |
เบนซิน 6 สูบ TFSI |
ความจุ |
2,894 ซีซี. |
กำลังสูงสุด |
450 แรงม้า |
แรงบิดสูงสุด |
600 นิวตันเมตร |
ระบบส่งกำลัง |
อัตโนมัติ 8 สปีด |
ช่วงล่าง |
ขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro |
0-100 กม./ชม. |
4.1 วินาที |
ห้องโดยสารน่าใช้งาน หรูหรา-เปี่ยมฟังชันส์
แม้จะเป็นรถยนต์กลุ่มสปอร์ตสมรรถนะสูง แต่อาวดี้ก็พยายามติดตั้งอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นในการใช้งานมาอย่างครบครัน ฝาประตูบานท้ายเปิดด้วยไฟฟ้าได้ด้วยการสอดเท้าเข้าใต้กันชนหลัง ห้องเก็บสัมภาระขนาดใหญ่และยังพับเบาะหลังเพิ่มพื้นที่ได้
ห้องเก็บสัมภาระปกตินั้นมีความจุถึง 495 ลิตร ซึ่งใหญ่กว่าคนอื่นอยู่แล้ว แต่หากพับเบาะตอนหลังลงทั้งหมด ปริมาตรห้องเก็บสัมภาระจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,495 ลิตร และสามารถเลือกพับเบาะหลังแบบ 40:20:40 เพื่อใช้งานได้หลากหลายรูปแบบต่างหาก
การออกแบบที่เน้นรายละเอียดของรถที่เหนือกว่าเวอร์ชั่นธรรมดา ยังรวมไปถึงการติดตั้งโลโก้ RS ที่ด้านหลังกุญแจรีโมต ทำให้ดูแพงขึ้นมาอีกนิด ห้องโดยสารตอนหลังมาพร้อมช่องแอร์แบบปรับอุณหภูมิรวมได้ และที่ชาร์จไฟแบบช่องจุดบุหรี่ทั่วไป
ที่วางแขนพร้อมที่วางแก้วติดตั้งมาสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เบาะที่นั่งลายรังผึ้งเดินด้วยด้ายสีแดง และเข็มขัดนิรภัยที่ติดตั้งแถบสีแดงมาเพื่อแสดงความสปอร์ตในทุกตำแหน่งของรถ ตำแหน่งของเพลากลางถือว่าสูงอยู่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรถเตี้ยลง
ม่านบังแดดติดตั้งมาที่กระจกบานหลังทั้ง 2 บาน เครื่องเสียงที่ติดตั้งมาในรถเป็นของ Bang & Olufsen ที่ให้เสียงกระหึ่มชัดเจนดี ตำแหน่งการนั่งของเบาะนั้นถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานของอาวดี้ ที่รองรับทั้งตำแหน่งหัวเข่าและแผ่นหลังได้ดีทีเดียว
ห้องโดยสารตอนหน้ามาพร้อมอุปกรณ์ที่ปรับเพิ่มมาจากรุ่นมาตรฐาน ด้วยการนำอัลคันทารามาติดตั้งที่ตำแหน่งของหัวเกียร์และพวงมาลัยท้ายตัด ซึ่งนอกจากจะมีความสวยงามมากกว่าหนังธรรมดา ยังช่วยในเรื่องของความโอบกระชับจับมั่นอีกด้วย
พวงมาลัยปรับแบบแมนวลได้ 4 ทิศทาง เบาะคู่หน้ามาพร้อมโลโก้ RS ที่พนักพิง ตำแหน่งของหมอนรองศีรษะเป็นแบบยึดกับตัวเบาะ มีจอแสดงผลแบบเฮดอัพดิสเพลย์ที่ฉายไปบนกระจกหน้ามาให้ และมีระบบนวดติตตั้งมาให้ผู้ขับขี่เป็นที่เรียบร้อย
หน้าจอกลางขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto เป็นที่เรียบร้อย รวมถึงการเชื่อมต่อของ Audi เองก็เช่นกัน พร้อมทั้งมีการนำลวดลายเคฟลาร์มาติดตั้งในตำแหน่งต่าง ๆ ของรถ เพิ่มความสวยงามและความรู้สึกสปอร์ตเพิ่มเติม
หน้าจอแสดงผลด้านหน้ามาพร้อม Virtual Cockpit ปุ่มควบคุมบนพวงมาลัยมีการเพิ่มปุ่มสำหรับเข้าโหมดการขับขี่ที่เรียกว่า RS Mode ซึ่งเอาไว้สำหรับการทดลองขับในคอร์สปิด ขณะที่โหมดการขับขี่หลักจะเหลือแค่ 3 โหมด Comfort, Auto, Sport เท่านั้น
ระบบความปลอดภัยไม่มากแต่ครบครัน
อาวดี้นั้นอาจจะไม่ได้เน้นเรื่องออพชั่นมากมายสำหรับรถคันนี้ แต่พวกเขาก็ให้ของมามากพอที่จะทำให้เพียงพอต่อการใช้งานรถคันนี้ในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง พร้อมด้วยติดตั้งระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
มาพร้อมระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาขณะถอยหลัง เซนเซอร์และกล้องมองภาพขณะถอยจอด ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาเมื่อเปลี่ยนเลน ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาขณะถอยหลัง รวมถึงระบบแจ้งเตือด้านข้างและด้านท้ายรถ เมื่อจะลงจากรถ
ติดตั้งระบบมาตรฐานด้านการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ระบบกระจายแรงเบรกพร้อมระบบเสริมแรงเบรก ระบบควบคุมการทรงตัว และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำงานสอดประสานกันเพื่อเพิ่มความปลอดภัยสูงสุด
ถ้าจะซื้อต้องขับเองและต้องใช้ให้คุ้มค่า
แน่นอนว่าเราคงไม่ได้สนับสนุนให้ทุกคนขับขี่รถกันแบบรวดเร็วท้ากฎหมาย แต่การซื้อ Audi RS4 Avant ที่ราคา 5.899 ล้านบาท มาวิ่งบนนถนนไปทำงาน จ่ายตลาดกลับบ้าน ก็ดูจะเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย หากการใช้งานรถของคุณมีแค่นั้นนะ
เพราะเรากำลังพูดถึงรถที่สมรรถนะสูงกว่าคู่แข่งในระดับที่คุณจะต้องคิดแล้วคิดอีกหากคุณจ่ายไหวแล้วเอามันไปเปรียบเทียบกับรถที่มีแรงม้าและแรงบิดน้อยกว่า ขอบอกว่า 50 แรงม้า 100 นิวตันเมตรนี่ ทำอะไรได้เยอะมากเลยนะในการขับขี่จริง
อย่างที่เราบอกว่าถ้าคุณเป็นพ่อบ้านที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ดูแลครอบครัวบ้าง ขนของเยอะ ๆ ชิ้นใหญ่ ๆ บ้าง มีเวลาแอบไปซิ่งนิดหน่อย หรือว่าง ๆ ก็ลองเอารถไปลงแทร็คยืดเส้นยืดสายบ้าง รถคันนี้คืออีกคันที่สามารถตอบสนองได้ครบทุกรูปแบบ
แต่นั่นก็ต้องแลกกับการที่คุณอาจจะต้องหาเวลาและจัดสรรเวลาในการเข้าศูนย์บริการให้ดี เพราะแบรนด์อาวดี้ก็ยังมีศูนย์บริการที่ไม่มาก เมื่อเทียบกับคู่แข่งค่ายอื่น ๆ ที่เริ่มอิ่มตัวหยุดขยายดีลเลอร์ หันไปขยายแต่ศูนย์บริการเพิ่มเติมกันแล้วตอนนี้
แต่หากคุณซื้อรถคันนี้ก็ไม่ต้องน้อยใจ เพราะตัวแทนจำหน่ายรายปัจจุบันพร้อมดูแลคุณด้วยการมอบรับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 1.5 แสนกิโลเมตร พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงเป็นระยะเวลานาน 5 ปี มีปัญหาแค่โทรหาคอลล์เซนเตอร์
บวกลบคูณหารกันแล้ว ถ้าคิดว่าใช่ ก็ไปขอลองที่โชว์รูมได้เลย...