![รถยนต์ไฟฟ้าขายดีในรัสเซียตะวันออก มีราคา Nissan Leaf มือสองแค่ 1.5 แสนบาท แล้วไทยล่ะ? 01]()
รถยนต์ไฟฟ้า มักถูกมองว่าเป็นของเล่นคนรวย เพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่ มีราคาแพง และต้องอยู่ใกล้แหล่งชุมชนที่มีตู้ชาร์จไฟ ซึ่งมักอยู่ตามเมืองใหญ่ ใครที่ครอบครองรถประเภทนี้ก็แสดงถึงความศิวิไลซ์ของชีวิตคนเมืองได้ แต่ค่านิยมนี้ใช้ไม่ได้ในประเทศรัสเซีย ไปดูกันว่าเขาใช้ EV กันแบบไหน
รัสเซียฝั่งกันดาร ใช้รถไฟฟ้าเยอะกว่า
อ้างอิงผลสำรวจจาก Bloomberg พบว่าในประเทศดังกล่าวที่ฝั่งตะวันออก มีรถยนต์ไฟฟ้าขายได้ 20% ของจำนวนรถใหม่ทั้งหมด ส่วนประเทศรัสเซียฝั่งตะวันตก กลับขาย EV ได้เพียง 14% เท่านั้น
![รถยนต์ไฟฟ้าขายดีในรัสเซียตะวันออก มีราคา Nissan Leaf มือสองแค่ 1.5 แสนบาท แล้วไทยล่ะ? 01]()
ประเทศรัสเซียฝั่งตะวันตกนั้น เป็นพื้นที่ที่เจริญน้อยกว่าฝั่งตะวันตก เพราะความทุรกันดารของภูมิประเทศและสภาพอากาศที่ไม่เหมาะกับการสร้างที่อยู่ เพาะปลูก หรืออุตสาหกรรม เมืองใหญ่ในฝั่งนี้อยู่ได้ด้วยการเป็นทางผ่านของการขนส่งสินค้า มีท่าเรือน้ำลึก มีระบบรางเข้าถึง และมีการประมงที่สมบูรณ์
แม้เศรษฐกิจในฝั่งตะวันออกนี้ จะไม่เฟื่องฟูเท่าฝั่งตะวันตกที่คบค้าสมาคมกับยุโรป แต่ประชากรย่านนี้ก็มีรายได้เพียงพอที่จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า
รถญี่ปุ่นได้รับความนิยมกว่ารถชาติเดียวกัน
รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีในประเทศรัสเซียโซตะวันออกนี้ ไม่ใช่รถยนต์ที่ผลิตในประเทศ หรือรถยนต์จากยุโรป แต่กลับเป็นรถยนต์ญี่ปุ่น เพราะว่ามีท่าเรือน้ำลึก 2 แห่งในย่านนี้ เปิดรับสินค้าจากญี่ปุ่นอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกาะซาฮาลิน ที่มีชายฝั่งใกล้กับเกาะฮอกไกโดเป็นพิเศษ จนแทบจะมีแต่สินค้าญี่ปุ่นใช้กันทั้งหมด
![รถยนต์ไฟฟ้าขายดีในรัสเซียตะวันออก มีราคา Nissan Leaf มือสองแค่ 1.5 แสนบาท แล้วไทยล่ะ? 02]()
คนฐานะปานกลางพอที่จะซื้อรถยนต์ได้ หลายคนไม่เลือกซื้อรถใหม่รุ่นเล็ก แต่กลับซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามือสอง โดยรุ่นยอดนิยมคือ Nissan Leaf (นิสสัน ลีฟ) ซึ่งมีราคาขายต่อแปลงเป็นเงินไทยได้เพียง 150,000 บาท ในขณะที่เงินจำนวนเท่ากันนี้ คุณซื้อรถใหม่ได้เพียง Lada Granta ขนาดเล็กรุ่นประหยัดเท่านั้น นั่นเป็นสาเหตุหลักที่คนในประเทศฝั่งนี้ ถึงนิยมใช้รถญี่ปุ่น มากกว่ารถที่ผลิตจากชาติตัวเอง
![รถยนต์ไฟฟ้าขายดีในรัสเซียตะวันออก มีราคา Nissan Leaf มือสองแค่ 1.5 แสนบาท แล้วไทยล่ะ? 03]()
ยอมขับรถพวงมาลัยผิดฝั่ง
รถยนต์ไฟฟ้า Nissan Leaf ที่นำเข้าจากญี่ปุ่นนี้ เป็นสเปคพวงมาลัยขวาทั้งสิ้น เพราะโรงงานผลิตรุ่นนี้ ไม่มีมีแผนส่งออกตั้งแรก จึงไม่ได้เผื่อสเปคต่างชาติเอาไว้ ทำให้ชาวรัสเซียที่ขับรถพวงมาลัยซ้าย ก็ต้องยอมย้ายตำแหน่งมานั่งด้านขวาแบบญี่ปุ่น แต่ขับออกไปในการจราจรชิดขวาแบบรัสเซีย
![รถยนต์ไฟฟ้าขายดีในรัสเซียตะวันออก มีราคา Nissan Leaf มือสองแค่ 1.5 แสนบาท แล้วไทยล่ะ? 04]()
เพราะค่าน้ำมันแพง
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าฮิตมากในฝั่งตะวันออกนี้ เกิดจากราคาน้ำมันในแถบนี้ มีราคาสูงกว่าพื้นที่อื่น ๆ ในรัสเซีย โดยบวกขึ้นไป 6% จากราคากลาง เพราะมีต้นทุนการขนส่งน้ำมันในสภาพอากาศหนาวเย็น และมีระยะทางไกลโพ้น ในทางกลับกัน ราคาไฟฟ้าไม่ได้สูงตามสภาพอากาศ ทำให้ค่าไฟมีราคาถูกกว่าในระยะทางเท่ากัน
ระยะเดินทางไม่ไกล
สถานีชาร์จในรัสเซียตะวันออก ไม่มีระหว่างทาง มีแค่ในเมืองใหญ่สุด 2 แห่งเท่านั้น ซึ่งบังเอิญว่า 2 เมืองนี้มีระยะทางห่างกันประมาณ 90 กม. ซึ่งอยู่ในระยะทางที่รถ Nissan Leaf วิ่งได้อยู่ 120-130 กม.พอดี
ด้วยปัจจัยเอื้อประโยชน์มากขนาดนี้ จึงไม่แปลกใจที่รถ nissan Leaf มือสองรุ่นนี้ได้แจ้งเกิด เพราะเป็นยานพาหนะที่ราคาถูกที่สุด ที่สามารถเดินทางระหว่าง 2 เมืองใหญ่ได้อย่างคุ้มค่าพลังงานที่สุด
![รถยนต์ไฟฟ้าขายดีในรัสเซียตะวันออก มีราคา Nissan Leaf มือสองแค่ 1.5 แสนบาท แล้วไทยล่ะ? 05]()
นอกจากประหยัดค่าเชื้อเพลิงแล้ว แถมยังมีค่าดูแลรักษาต่ำกว่ารถเครื่องยนต์อีกด้วย โดยเมื่อเทียบกับรถ Lada ผลิตที่รัสเซียในราคาเท่ากัน พบว่า Nissan Leaf ยังมีค่าบำรุงรักษาต่ำกว่าปีละประมาณ 20,000 บาทอีกด้วย
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า รถไฟฟ้าไม่ใช่ของเล่นคนรวยราคาแพง อย่างที่ขายกันอยู่ในตลาดเมืองไทย แต่หากมีปัจจัยเอื้อให้ราคาถูกลง และน้ำมันแพงจนไม่คุ้มค่า เมื่อนั้นคนก็จะเปลี่ยนใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทน
![รถยนต์ไฟฟ้าขายดีในรัสเซียตะวันออก มีราคา Nissan Leaf มือสองแค่ 1.5 แสนบาท แล้วไทยล่ะ? 06]()
ประเทศไทยนำเข้าจากจีน
ในตลาดรถยนต์บ้านเรา มีรถใช้ไฟฟ้าที่ราคาถูกสุดคือ Wuling MINI EV (หวู่หลิง มินิ อีวี) เป็นรถทรงกล่อง นั่งได้ 2 คน มีความยาวเพียง 2,917 มม. ในราคาเริ่มต้น 369,000 บาท นับเป็น EV ที่เอื้อมถึงได้ง่ายที่สุดแล้วในตอนนี้ ซึงแลกกมาด้วยการขับรถพวงมาลัยซ้าย บนการจราจรชิดซ้าย เหมือนกับชาวรัสเซียที่ยอมขับรถพวงมาลัยผิดข้าง ที่แลกกับความสะดวกสบายของรถยนต์ไฟฟ้า