Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟต์) รถแฮทช์แบคเจเนอเรชั่นที่ 4 เปิดขายในญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2004 และในปี 2008 ถูกนำเข้ามาขายไทยแบบประกอบทั้งคันจากญี่ปุ่น ด้วยราคา 1 ล้านบาทเศษ ทำให้หลายคนไทยถอดใจเพราะเอื้อมไม่ถึง
Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟต์) รถแฮทช์แบคเจเนอเรชั่นที่ 4 เปิดขายในญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2004 และในปี 2008 ถูกนำเข้ามาขายไทยแบบประกอบทั้งคันจากญี่ปุ่น ด้วยราคา 1 ล้านบาทเศษ ทำให้หลายคนไทยถอดใจเพราะเอื้อมไม่ถึง
ต่อมาอยู่ดี ๆ ในปี 2010 ตอนที่รุ่นนี้ถูกประกอบที่อินโดนีเซีย ก็ถูกกลุ่มทุนจากบริษัทสี TOA จับตลาดเข้ามาขายคนไทยด้วยราคา 599,000 และ 649,000 บาท ที่สร้างยอดจองดีจนแจ้งเกิดแบรนด์ซูซูกิอีกครั้ง รุ่นนี้มีอะไรดี ทำไมถึงน่าสนใจขนาดนี้ มาดูเหตุผลกัน
อ่านเพิ่มเติม : รถมือสอง Suzuki Swift 1.2 โฉมอีโค่คาร์ มีปัญหาที่ต้องแก้
ซูซูกิ สวิฟต์ 1.5 จงใจออกแบบรูปทรงแนวกล่อง Cubical Design ที่แปลกแตกต่างจากรถซัพคอมแพ็คค่ายอื่นในขณะนั้น เช่น Honda Jazz, Toyota Yaris, Mazda 2, Ford Fiesta ที่มีเส้นสายฉวัดเฉวียนนูนต่ำ ส่วนรุ่นนี้เขามาแบบเรียบตรง ไม่ซับซ้อน สบายตา ทำให้ดูได้นาน ไม่ตกยุคง่าย อีกทั้งยังมีลูกเล่นการซ่อนเสาหลังคาหน้าสีดำ ให้กลมกลืนกับกระจกหน้า หลอกตาให้ดูกว้างและยาวขึ้น อันเป็นเทรนด์ที่ยังมีใช้จนถึงรุ่นปัจจุบัน
ทั้งที่เป็นรถขนาดเล็กที่ออกมาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว และมีมิติตัวถังยาว 3,755 มม. กว้าง 1,690 มม. แต่มีความสูงตัวถังถึง 1,510 มม. กับหลังคาแนวตรงเรียบ ไม่โค้งหรือปาดลง ทำให้พื้นที่ศีรษะมีมาก รองรับคนตัวสูงได้ ส่วนเบาะที่สั้นนั้นช่วยเพิ่มพื้นทีวางขา แม้ว่าจะมีข้อเสียตรงที่เบาะหลังนั่งนาน ๆ แล้วเมื่อยอยู่บ้าง แต่ก็นับว่าเป็นรถที่ไม่ได้มีข้อเสียเรื่องความอึดอัดจนเกินไป
ในรุ่นท็อปสุด Suzuki Swift 1.5 GL จะได้หลายออพชั่นมากกว่าคู่แข่งในยุคเดียวกัน เช่น ระบบ Keyless start ได้แอร์อัตโนมัติ ให้เครื่องเสียงแบบฝังในคอนโซลสวยงาม พร้อมระบบลำโพงปรับความดังค่อยตามความเร็วของรถ และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ซึ่งในขณะนั้น ไม่มีรถระดับ 6 แสนบาทให้มาครบถ้วนเท่านี้
Suzuki Swift ใช้เครื่อง M15A แบบเบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร กำลัง 100 แรงม้า กับแรงบิด 132 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า ด้วยเกียร์ออโต้ 4 สปีดรางเลื่อนแบบ Gate type ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 14 วินาที ด้วยน้ำหนักรถที่เบาเพียง 1 ตันเท่านั้น ทำให้กำลังแรงม้านี้เพียงพอต่อการฉุดลากสบาย ๆ เพราะเซ็ตอัตราทดจัดจ้านดี
ผ่านไป 11 ปีต่อมาราคามือสองตกลงมาอยู่ที่ประมาณ 180,000 - 250,000 บาท และราคาเริ่มนิ่งไม่ดิ่งไปมากกว่านี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า รุ่นต่อมากลายเป็นอีโค่คาร์เครื่อง 1.2 ลิตร 90 แรงม้า ซึ่งน้อยกว่าเดิม อีกส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะรูปทรงที่ยังดูไม่ตกยุค เพราะรุ่นปัจจุบันก็ยังยึดธีมการออกแบบทรงกล่องนี้อยู่เช่นกัน
หลายคนเริ่มแสวงหารถรุ่นนี้มาเก็บสะสมไว้แล้ว เพราะว่ามันออกจำหน่ายในไทยเพียง 2 ปีเท่านั้น ก่อนจะถูกแทนที่ด้วย Suzuki Swift อีโค่คาร์ในปี 2012 ทำให้ปริมาณรถมีน้อย หายากสุดในบรรดาตระกูลสวิฟต์ด้วยกัน ทำให้ราคาขายต่อภายใน 1-2 ปีนี้ จะไม่ลงแรงมากมาย แต่อะไหล่ก็จะหายากตามจำนวนรถไปด้วย นั่นคือข้อเสียที่ต้องรับให้ได้
ซื้อรถถูกกว่า ขายรถเร็วขึ้น
Suzuki SWIFT GL PLUS Limitless Edition 2022
แลก
เพิ่มรถของคุณ