หลายท่านอาจเคยได้ยินเรื่องของการเติมลมยางไนโตรเจน ว่ามีดีกว่าลมยางธรรมดา ทั้งการที่จะรั่วซึมน้อยกว่า แตกยากกว่า หรืออื่น ๆ อีกมากมาย
แต่ก็จะมีค่าบริการในการเติม เทียบกับลมยางตามปั๊มธรรมดาจะดีจริงหรือ
หลายท่านอาจเคยได้ยินเรื่องของการเติมลมยางไนโตรเจน ว่ามีดีกว่าลมยางธรรมดา ทั้งการที่จะรั่วซึมน้อยกว่า แตกยากกว่า หรืออื่น ๆ อีกมากมาย
แต่ก็จะมีค่าบริการในการเติม เทียบกับลมยางตามปั๊มธรรมดาจะดีจริงหรือ
จริง ๆ แล้ว ลมยางไนโตรเจน คือการใช่ก๊าซที่มีความบริสุทธื์ 93% ในการเติม ไม่มีส่วนปะกอบอื่น ทำให้คงตัวเป็นก๊าซตลอดเวลา จะแตกต่างจากลมยางธรรมดาที่มีส่วนผสมของไนโตรเจน 73% ออกซิเจน 21% และก๊าซอื่น ๆ
สำหรับข้อดีที่เคลมไว้คือ จะมีการรั่วไหลของอากาศน้อยกว่าลมยางธรรมดา ลดแรงเสียดทาน อีกทั้งยังลดความเสี่ยงในการระเบิด เพิ่มความปลอดภัยได้อีกด้วย
ไนโตรเจนคือก๊าซสมบูรณ์ ไม่มีสารอื่นประกอบ คงสภาวะเป็นก๊าซอยู่ตลอดเวลา โมเลกุลของลมยางไนโตรเจนควบแน่น และมีขนาดใหญ่กว่าลมยางธรรมดา อุณหภูมิของยางเมื่อต้องเสียดสีกับพื้นถนนน้อย ทำให้การรั่วซึมภายในยางเกิดขึ้นได้น้อยกว่าลมยางทั่วไปถึง 5 เท่า ทำให้ล้อระเบิดยากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อที่ควรจะระวัง ก่อนนำยางไปเติมลมไนโตรเจน ก็คือในขั้นตอนการเติม จำเป็นต้องมีการนำก๊าซอื่น ๆ ที่มีอยู่ในยางออกมาก่อน เพื่อใส่ก๊าซไนโตรเจนที่มีความบริสุทธ์มากกว่าเข้าไป โดยปกติแล้วจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ล้อละ 50 บาท หรือรวมเป็น 200 บาทสำหรับ 4 ล้อ
นอกจากนี้ หลังจากเติมลมไนโตรเจนแล้ว ควรจะนำไปเติมที่เดิม เพื่อให้มั่นใจว่าได้ก๊าซชนิดเดิม ไม่มีสิ่งอื่น ๆ มาผสม
และหากนำไปเติมลมธรรมดาตามปั๊มน้ำมันเข้า ก็จะกลายเป็นลมยางธรรมดา ๆ เนื่องจากมีก๊าซอื่นเข้าไปผสมแล้ว
ได้มีการทำการวิจัยจาก NHTSA หรือกระทรวงคมนาคมของสหรัฐ ได้ทำทดลองเรื่องนี้ในยางหลายรุ่น แบ่งเติมฝั่งไนโตรเจนและลมธรรมดาให้แก่รถ โดยใช้มาตรฐานแรงดันที่ 30 psi
โดยผลที่ออกมาคือ หลังจากผ่านไป 1 ปี หรือ 25,749 กม. (16,000 ไมล์) มีผลเฉลี่ยคือ ลมยางธรรมดาจะเสียแรงดัน 3.5 psi ส่วนไนโตรเจนจะเสียแรงดัน 2.2 psi ต่างกันเพียง 1.3 psi เท่านั้น
อย่างไรก็ตามหากมีการเติมลมไนโตรเจนแล้ว ก็ควรที่จะเช็คแรงดันของยางอย่างน้อยเดือนละครั้งเพื่อความมั่นใจ โยใช้ที่วัดที่สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาด
อาจมีบางท่านเคยได้ยินว่า การเติมลมไนโตรเจนนั้นช่วยประหยัดน้ำมันได้ ซึ่งถือเป็นเท็จ เนื่องจากสิ่งที่ส่งผลต่อความประหยัดน้ำมันนั้นมีหลายประการ เช่น ดอกยาง ส่วนประกอบ และแรงดันลม
หากลมยางมีต่ำไป ก็จะทำให้หน้ายางสัมผัสกับพื้นมากขึ้น เป็นการเพิ่มแรงเสียดทาน รถจะสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้นประมาณ 0.3% ดังนั้นจึงควรหมั่นเช็คและเติมโรงยางตามค่ามาตรฐานโรงงานจะดีกว่า
เดิมทีแล้วการเติมลมยางไนโตรเจน จะใช้ในรถ F1 เนื่องจากต้องควบคุมอุณหภูมิภายในยางอย่างละเอียด เพราะรถใช้ความเร็วสูงมาก และวิ่งติดต่อกันนาน นอกจากนั้นไนโตรเจนยังใช้เป็นลมยางของเครื่องบินอีกด้วย
สำหรับทั่วไปก็สามารถเติมได้ เนื่องจากมีความเสถียร ความดันเปลี่ยนแปลงน้อย ผู้ที่ขับรถเร็วต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน เช่น เดินทางข้ามจังหวัด หรือรถบรรทุก และรถกระบะที่ต้องบรรทุกหนัก ก็นิยมหันมาเติมกันมากขึ้น
หากจะลองนำมาเปรียบเทียบกันดูแล้ว ข้อดีของลมยางไนโตรเจนก็มีอยู่มาก แต่ก็แลกมาด้วยค่าบริการอีก 200 บาท และความยากในการหาร้านเติม แต่จะจำเป็น และคุ้มหรือไม่เมื่อเทียบกับลมยางธรรมดาตามปั๊มน้ำมัน ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ และการใช้งานล้วน ๆ ครับ