2019 Hyundai IONIQ (2019 ฮุนได ไอโอนิค) รถพลังงานไฟฟ้า 100% เปิดตัวครั้งแรกในช่วงต้นปี 2561 พร้อมกับเสียงยกย่องชมเชยที่มีต่อค่ายรถจากแดนโสม
เสียงยกย่องเกิดขึ้นเพราะความกล้าหาญในการรุกตลาดรถพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในเมืองไทย การเปิดราคาจำหน่ายที่ 1,749,000 บาทอาจจะสูงเกินเอื้อมสำหรับหลายคน แต่หากพิจารณาถึงความล้ำสมัยของระบบขับเคลื่อน การเป็นรถนำเข้าทั้งคัน (CBU) และอ็อปชั่นอำนวยความสะดวกที่เพียบพร้อม IONIQ ถือเป็นรถพลังงานทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
แต่แน่นอนว่าการเป็นรถพลังงานไฟฟ้า 100% ซึ่งผู้บริโภคในบ้านเรายังไม่ยอมรับเท่าไหร่นัก ผลลัพธ์ที่ได้คือยอดขายที่น้อยมาก โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ส่งผลให้ IONIQ ไม่มียอดจองเลยแม้แต่คันเดียว
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
แต่กระนั้น Hyundai ก็ยังไม่ยอมแพ้ที่จะเดินหน้าทำตลาดรถพลังงานไฟฟ้าต่อไป เราไปชมกันว่า 2019 Hyundai IONIQ มีจุดเด่นและจุดด้อยอะไรบ้าง
จุดเด่น
1. รูปลักษณ์ที่แตกต่าง
มิติตัวถังของ IONIQ จัดอยู่ในกลุ่มคอมแพ็กต์ซีเซกเมนท์ รูปร่างหน้าตาถูกออกแบบให้มีความโค้งมนเพื่อความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ กระจังหน้าเป็นแบบปิดทึบ ไม่มีช่องลมซึ่งช่วยลดแรงต้านอากาศ ขณะเดียวกัน รอบคันยังตกแต่งด้วยเส้นสายสีทองแดงซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Hyundai ที่บ่งชี้ว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแท้ 100%
2. ฟังก์ชั่นความสะดวก-ความปลอดภัยครบครัน
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกใน IONIQ ประกอบด้วยเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง หน้าปัดแบบดิจิทัลพร้อมจอ LCD ขนาด 7 นิ้ว ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง ปุ่มเปิดฝาประโปรงท้ายที่กุญแจรีโมท เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Hold Function เครื่องเสียงวิทยุ AM/FM พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 5 นิ้ว ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth และช่อง USB/AUX ตลอดจนที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย (Qi)
ขณะที่ระบบความปลอดภัยอัดแน่นเต็มคัน เริ่มจากถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ประกอบด้วยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านนิรภัย และหัวเข่าผู้ขับขี่ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS เสริมแรงเบรกBA และกระจายแรงเบรก EBD ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESP และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB ระบบเตือนเมื่อมีความเสี่ยงในการเกิดการชนด้านหน้า FCW ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา BSD ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA ระบบเตือนเมื่อมีรถขับสวนขณะถอยหลัง RCTA ตลอดจนกล้องมองหลังและสัญญาณเตือนกะระยะถอยหลัง
3. สมรรถนะการขับขี่คล่องแคล่วแบบไร้มลพิษ
IONIQ สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. ได้ภายในเวลา 9.9 วินาทีในโหมด Sport โดยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor มีกำลัง 120 แรงม้า และมีแรงบิดค่อนข้างสูงที่ 295 นิวตันเมตร รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.3 เมตร มอบความคล่องตัวอย่างมาก
ขณะเดียวกัน การเป็นรถพลังงานไฟฟ้าหมายความว่า IONIQ เดินทางสู่ทุกจุดหมายโดยปราศจากการปล่อยมลพิษคาร์บอนไดออกไซด์อย่างสิ้นเชิง
จุดด้อย
1. ระยะทางขับขี่ที่สั้น
ระยะทางขับขี่ของ IONIQ ตามที่ Hyundai เคลมไว้คือประมาณ 280 กม. แต่การใช้งานจริงจะอยู่ที่ประมาณ 200 กม. เศษเท่านั้น ระยะทางดังกล่าวเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันในเมือง แต่ถ้าจะขับขี่ออกนอกเมืองไปต่างจังหวัดก็อาจจะต้องคิดหนักและวางแผนเส้นทางให้ดีว่าจะจอดพักชาร์จกระแสไฟฟ้าที่ใดได้บ้าง
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });