จริงหรือ? ที่รถเกียร์ธรรมดา ต้องถ่ายน้ำมันเครื่องเร็วกว่าเกียร์อัตโนมัติ เพราะเครื่องยนต์ทำงานหนักกว่า?

หลายคนอาจมองว่า ในรถยนต์เกียร์ธรรมดา มชเครื่องยนต์นั้นจะมีการทำงานที่หนักกว่ารถยนต์เกียร์อัตโนมัติ

จึงมีความเชื่อกันว่า รถยนต์ที่ใช้เกียร์ธรรมดาต้องถ่ายน้ำมันเครื่องก่อน จริงหรือไม่?

ไม่จริงเลย

ในกรณีของเครื่องยนต์ แม้เกียร์ธรรมดาจะใช้รอบเครื่องที่สูงกว่า แต่เครื่องยนต์รับภาระน้อยกว่าเกียร์อัตโนมัติ น้ำมันเครื่องจึงไม่ได้เสื่อมไวกว่าแต่อย่างใด อีกทั้งน้ำมันเครื่อง รับภาระในเครื่องยนต์ที่มีสภาพแวดล้อมทั้งร้อนและเสียดทานได้นานพอสมควร เปลี่ยนถ่ายตามคู่มือก็ได้

อนึ่ง ขึ้นอยู่กับลักษณะนิสัยของผู้ขับขี่ด้วย ว่าเหยียบกันหนักแค่ไหน ถ้าขับแบบคนปกติใช้งานทั่ว ๆ ไปออกตัว 2,500-3,000 รอบ ไม่ซิ่ง ขับเรื่อย ๆ ไม่ใช้รอบสูง ก็ไม่มีปัญหาครับ เปลี่ยนถ่ายตามระยะปกติได้เลย

แต่กับบางคนที่เท้าหนัก ชอบออกตัวกระชาก ที่ออกตัวต้องถอนคลัชท์แรง ๆ กระทืบคันเร่งไป 5,000 รอบ ให้รถพุ่งแล้วขับแช่รอบสูง ๆ  ขับแบบนี้นอกจากน้ำมันเครื่องจะเสื่อมเร็ว ต้องถ่ายบ่อย แถมต้องข้ามเบอร์ให้หนืดขึ้นด้วย 

แล้วน้ำมันเกียร์ล่ะ?

ในส่วนของน้ำมันเกียร์ ก็ขึ้นอยู่กับคนขับอีกเช่นกัน ว่าขับแรงกันแค่ไหน เพราะอย่างไรก็ตามก็มีระยะการเปลี่ยนถ่ายที่ประมาณ 80,000 กิโลเมตรพอกัน แล้วที่สำคัญ ห้ามใช้สลับกันด้วย 

 แม้น้ำมันเกียร์ทั้งสองชนิดทำหน้าที่เป็นสารหล่อลื่นเหมือนกัน แต่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ให้เหมาะกับการทำงานของเกียร์แต่ละประเภท จึงทำให้น้ำมันเกียร์มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน

ความหนืดของน้ำมัน

น้ำมันเกียร์ธรรมดา: มีความหนืดสูงกว่า รองรับการทำงานของรถเกียร์ธรรมดาที่เป็นระบบคลัทช์และการสับเกียร์ซึ่งทำให้เกิดแรงเสียดสีค่อนข้างมาก จึงต้องใช้น้ำมันเกียร์ที่มีความหนืดสูง เพื่อให้เปลี่ยนเกียร์ได้ลื่นไหลและป้องกันการสึกหรอ โดยส่วนใหญ่จะมีค่าความหนืดอยู่ที่ 75W-85 ขึ้นไป

น้ำมันเกียร์ออโต้: มีความหนืดต่ำกว่า รองรับการทำงานของเกียร์ที่เป็นระบบฟันเฟือง มีชิ้นส่วนเล็ก ๆ มากมายและมีการเคลื่อนไหวมากกว่าเกียร์ธรรมดา จึงต้องใช้น้ำมันเกียร์ที่มีความหนืดต่ำ

มีการไหลที่อิสระให้สามารถแทรกซึมเข้าไปในชิ้นส่วนต่าง ๆ ได้ทั่วถึง พร้อมส่งถ่ายกำลังจากปั๊มไปยังกังหันในทอร์คคอนเวอร์เตอร์ได้ดี โดยส่วนใหญ่จะมีค่าความหนืดอยู่ที่ประมาณ 0W-5 หรือ 5W-10

ความทนทานต่อความร้อน

น้ำมันเกียร์ธรรมดา: ทนต่อความร้อนสูงมาก ๆ ที่เกิดจากแรงเสียดสีขณะใช้เกียร์ ช่วยถ่ายเทความร้อนออกจากกระปุกเกียร์ และมีจุดเดือดสูงเพื่อไม่ให้น้ำมันเกียร์ถึงจุดเดือดเร็วเกินไป

น้ำมันเกียร์ออโต้: ทนต่อความร้อนและช่วยถ่ายเทความร้อนได้ดีเหมือนกัน แต่จะมีจุดเดือดที่ต่ำกว่า โดยน้ำมันเกียร์บางชนิดเติมสารเพิ่มคุณภาพที่ช่วยลดแรงเสียดทานและปกป้องชิ้นส่วนต่าง ๆ เข้าไปด้วย