ช่วงนี้กระแสรถครอบครัวกำลังมาแรงในประเทศไทย หากใครกำลังมองหารถอยู่ แต่ยังไม่อยากซื้อรถใหม่ป้ายแดง หรือต้องการประหยัดเงินไว้ก่อน
เราขอนำเสนอ Ssangyong Stavic (ซันยอง สตาวิค) MPV จากค่ายเกาหลีที่แม้หน้าตาจะไม่สวยหรูเหมือนคนอื่น แต่ภายในนั่งสบายอย่างพระราชา
เจ้าหน้าหนู
SsangYong Stavic เป็นรถครอบครัวขนาดใหญ่ที่มีดีไซน์ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ จนสื่อหลายเจ้าให้การนิยามว่ามันคือรถที่มีดีไซน์แย่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
จนบางคนเรียกว่า "หน้าหนู" หรือ "หนูยักษ์" แม้ผู้ออกแบบจะบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากเรือยอร์ชก็ตาม แต่หากรับเรื่องหน้าตาได้แล้วละก็ มันจะเป็นรถที่มีดีคันหนึ่งได้เลย
เครื่องเบนซ์เลยนะ
ซันยอง สตาวิคทุกรุ่นที่ขายเมืองไทย ติดตั้งเครื่องยนต์จาก Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์)
เป็นเครื่องดีเซลขนาด 2.7 ลิตร 5 สูบ พ่วงเทอร์โบจาก Garret ให้กำลัง 165 แรงม้า แรงบิด 342 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดจาก ZF
เร่งจาก 0-100 กม./ชม.ใน 13 วินาที ความเร็วสูงสุด 175 กม./ชม. ช่วงล่างหน้าดับเบิ้ลวิชโบน ด้านหลังมัลติลิงค์ ดิสก์เบรค 4 ล้อ ตัวรถมีน้ำหนัก 2.05 ตัน
อ่านเพิ่มเติม Ssangyong จะเปลี่ยนป้ายชื่อเป็น KG Mobility ยังผลิตรถเหมือนเดิม
ภายในกว้างเหลือเฟือ
ด้วยความที่เป็น MPV ทำให้จุดเด่นจริง ๆ ของเจ้าหนูยักษ์คือภายในที่มีออพชั่นล้น ๆ ด้วยพวงมาลับมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง Cruise Control เบาะหนังฝั่งคนขับปรับ 8 ทิศทาง แอร์แบบดูอัลโซนควบคุมด้านหลังได้ มีฮีทเตอร์
แต่หน้าปัดแสดงรอบและความเร็วจะไปอยู่กลางคอนโซล จึงอาจจะดูแปลกเล็กน้อย ส่วนด้านหน้าคนขับจะเป็นจอแสดงตำแหน่งเกียร์ และสถานะรถยนต์แทน
ภายในจะมีมาให้มากถึง 11 ที่นั่ง เบาะตรงกลางสามารถพับได้หลายแบบ พับขึ้นเพื่อเป็นทางเดินผ่านไปยังแถว 3-4 หรือเป็นที่วางของและแก้ว
ในส่วนของเบาะแถว 3 จะแคบกว่าแถว 2 เล็กน้อยเนื่องจากติดซุ้มล้อ การออกแบบกระจกด้านหลังจะดูแคบและเล็ก ทำให้วิสัยทัศน์น้อยลง
ข้อเสียที่ควรรับให้ได้
ก็แน่นอนว่า แม้ตัวรถจะมีดีที่ภายใน แต่ก็มีข้อเสียที่ต้องรับให้ได้ อย่างแรกคือเครื่องค่อนข้างอืด แม้ว่าสเปคเครื่องยนต์จะฟังดูดี แต่ในการใช้งานจริงที่ต้องแบกตัวถังขนาด 2 ตัน หากรวมคนขับและผู้โดยสารเข้าไปแล้วก็จะทำให้อืดขึ้นในช่วงต้น คันเร่งหน่วงได้
แถว 3 พอนั่งได้ แถว 4 ให้เด็กนั่งดีกว่า เนื่องจากรถมีการออกแบบในรูปทรง MPV ในเบาะแถวที่สองยังถือว่านั่งสบาย ในแถวสามหากเป็นผู้โดยสารที่ตัวไม่สูงมากก็ยังพอนั่งได้
แต่ในแถวที่สี่อาจจะต้องเป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่ที่ตัวไม่ใหญ่มาก เนื่องจากค่อนข้างแคบ เข่าติด และเบาะชันทำให้เหมือนนั่งยอง ๆ ตลอดเวลา อาจแก้ได้ด้วยการปรับแถวสามขึ้นไปเล็กน้อย
- มาตรวัดบอกความเร็วตัวรถจะดูค่อนข้างยากเนื่องจากวางไว้ตรงกลาง ไม่ได้มีการเอียงมาหาผู้ขับขี่
- ด้วยความที่เป็นรถเกาหลีที่เลิกทำตลาดไปแล้ว แถมตัวรถยังเก่า จึงตามหาอะไหล่ได้ยาก ต้องหาเซียงกงเฉพาะ และช่างที่มีความชำนาญ
- ผู้ใช้งานหลายรายกล่าวว่า หากเซนทรัลล็อคเสีย ต้องหาอู่เฉพาะที่สามารถทำได้เท่านั้น เนื่องจากหากใช้อะไหล่จากญี่ปุ่นหรือจีน จะทำให้กล่องควบคุมไหม้ได้
- การเติมน้ำมันของ SsangYong Stavic ตามสเปคโรงงานกล่าวว่าให้เติมดีเซล B7 ไม่แนะนำตัวอื่น เพราะจะทำให้หัวฉีดพังได้ จากผู้ใช้งานจริง
- หน้าจอด้านบนจะเป็นตัวแสดงข้อมูลเกี่ยวกับ วัน, เวลา, ระยะทาง หากเสียมีราคาซ่อมอยู่ถึง 20,000 บาทโดยเฉลี่ย
ข้อดียังมี
แม้จะดูว่าเป็นรถที่มีข้อเสียเยอะ แต่ข้อดีเขาก็มีเหมือนกัน คือจริง ๆ เป็นรถที่ไม่จุกจิก เครื่องยนต์ทนทาน เพียงแค่ทำเปลี่ยนอะไหล่และของเหลวตามระยะก็สามารถใช้งานได้ยาว ๆ
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ถือว่าปกติถึงรถจะมีขนาดใหญ่ มีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 11-13 กม./ลิตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของเครื่อง และการขับขี่
อ่านเพิ่มเติม SsangYong เผยทีเซอร์ Torres ออฟโร้ด SUV รุ่นใหม่
ราคาไม่แพง
ด้วยราคามือสองที่สามารถหาได้อยู่ที่ประมาณไม่เกิน 200,000 บาทแล้ว สิ่งที่ดีที่สุดคือราคาที่ไม่แพงเลย ขึ้นอยู่กับว่าเป็นขับหลังหรือขับสี่ และความสมบูรณ์ของรถ
หรือหากอยากได้ปีใหม่กว่านี้ ก็ยังหาตัวรถปี 2013 ได้ จะมีราคา 370,000 บาทขึ้นไป ทั้งนี้ทั้งนั้น ราคาขายต่อมือสองก็ถือว่าต่ำ เนื่องจากไม่ใช่รถตลาด
หากอยากหามาใช้งาน ถือว่าเป็นรถที่ดีถ้ามองข้ามเรื่องหน้าตารถได้ ด้วยช่วงล่างที่ค่อนข้างหนึบ เพราะอย่างไรก็ตาม คนใช้รถก็คือตัวคุณเองครับ